ชาติศิริ รับสปอนเซอร์ใหม่ ลดดอกเบี้ยยืดหนี้JASIF ADVANC ผู้ถือหน่วยเฮ! ลุ้นเงินปันผลเพิ่มอีก

 แบงก์กรุงเทพฯ แจกข่าวดีต้อนรับ AIS ในฐานะสปอนเซอร์ใหม่ JASIF “ชาติศิริ” เคาะลดดอกกู้เหลือ MLR-0.5% จากเดิม MLR พร้อมยืดหนี้ให้ปีหน้าจ่ายแค่ 50 ล้านบาท จากปีละ 1 พันล้านบาท ด้านกสิกรไทยมองส่งผลดีต่อ ADVANC และผู้ถือหน่วย มีลุ้นรับเงินปันผลเพิ่ม หลังต้นทุนทางการเงินลด ส่วน JAS รับปันผลพิเศษ 2 บาท ปี 66 ADVANC เป้า 252 บาท และ JASIF 9.2 บาท

ภายหลังจากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. แสดงเจตจำนงในการเข้าซื้อธุรกิจบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB (3BB) และหน่วยลงทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา

ล่าสุดนายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารได้พิจารณาแล้วว่า หลังเปลี่ยนสปอนเซอร์ใหม่เป็น ADVANC จะช่วยหนุนให้กองทุน JASIF มีศักยภาพและมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากขึ้น ดังนั้นธนาคารจึงเห็นชอบให้ปรับลดหนี้ และยืดเวลาชำระหนี้ให้กับ JASIF

โดยเป็นข้อเสนอเดิมที่เคยให้ไว้ คือลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็น MLR-0.5% จากเดิม MLR และปรับเงื่อนไขการชำระคืนเงินต้นใหม่จากหนี้เงินต้นคงเหลือ 13,350 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงเทพแจ้งตลาดฯ เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2565 ว่าเห็นชอบในหลักการที่จะขยายระยะเวลาชำระหนี้และปรับลดดอกเบี้ยจากที่ต้องชำระในปี 2566-2573 รวม 13,350 ล้านบาท ยืดชำระถึงปี 2575 สาระสำคัญอยู่ที่วงเงินในการชำระคืนปีแรกจากมากกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี เป็นการจ่ายปีหน้าเพียง 50 ล้านบาท และเพิ่มเป็นหลักร้อยล้านบาทมาเร่งจ่ายปีละ 2,000 ล้านบาท ในปีหลัง ๆ ส่วนอัตราดอกเบี้ยเดิม คิดอัตรา MLR ลดเหลือ MLR-0.5% ต่อปี

ด้านนายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BBLAM กล่าวว่า หลังจากที่ ADVANC แจ้งความจำนงซื้อกองทุน JASIF ในส่วนของบลจ.บัวหลวง จากนี้จะเตรียมเอกสารฉบับใหม่เกี่ยวกับความคืบหน้ากองทุนฯ และเงื่อนไขต่าง ๆ เข้าไปเสนอ BBL อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ADVANC มีแผนนำสินทรัพย์เข้ากองทุนฯ เพิ่มเติม รวมถึงแผนดึงนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนใน JASIF มากขึ้น ทำให้ราคาหุ้น JASIF มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงจากราคาปัจจุบันได้

“สปอนเซอร์ใหม่ที่เข้ามานับว่าดีกับกองทุนค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับการแข่งขันและบริบทต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ที่สำคัญทางสปอนเซอร์ใหม่มีแผนที่จะนำสินทรัพย์เข้ากองทุนเพิ่มเติม ทำให้กองทุนมีศักยภาพเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ทางสปอนเซอร์ใหม่มีแผนที่จะดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนเพิ่มเติม ทำให้สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและกองทุนฯ เพิ่มมากขึ้น” นายพีรพงศ์ กล่าว

AIS-JASIF รับปันผลเพิ่ม

นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด หรือ KS กล่าวว่า กรณีที่ BBL ปรับลดดอกเบี้ยและยืดหนี้ให้กับ JASIF จะส่งผลให้ ADVANC ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ 19% และผู้ถือหน่วยกองทุน JASIF มีโอกาสได้รับเงินปันผลเพิ่มขึ้น หลังจากต้นทุนทางการเงินของกองทุนลดลง ทำให้รายได้เพิ่ม และกระแสเงินสดของกองทุนจะคงที่ และความเสี่ยงในการผิดนัดชำระของผู้สนับสนุนจะลดลงอย่างมาก

ส่วนผู้ถือหุ้นบริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ก็จะได้รับเงินปันผลพิเศษในปีหน้าประมาณ 2 บาทต่อหุ้น หลังจากรับเงินจากการขาย 3BB และ JASIF 3.2 หมื่นล้านบาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) มีมุมมอง “บวก” ต่อกองทุน JASIF จากกรณี ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ยอมลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็น MLR-0.5% จากเดิม MLR และปรับเงื่อนไขการชำระคืนเงินต้นใหม่ จากหนี้เงินต้นคงเหลือ 13,350 ล้านบาท เนื่องจากกองทุน JASIF จะมีต้นทุนการเงินลดลงเหลือราว 4.75% จากเดิมมีต้นทุนการเงินเฉลี่ยที่ 5.25% ในเบื้องต้นคาดว่ากองทุนจะมีค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงต่อปีราว 2%

นอกจากนี้ ยังมองผลบวกต่อ ADVANC ในเรื่องส่วนแบ่งในตลาดบรอดแบนด์ไทยมากขึ้น หลังเดินหน้าเข้าซื้อ 3BB และ JASIF และยังได้ลูกค้าต่างจังหวัดที่มักมีการแข่งขันต่ำเข้ามาชดเชย รวมถึงโอกาสในการขายสินทรัพย์เข้ากอง JASIF ได้เพิ่มเติม ทั้งนี้ให้ราคาเป้าหมายหุ้น ADVANC ที่ 252 บาท

ส่วน JASIF ให้ราคาเป้าหมาย 9.20 บาท มีมุมมอง Slightly positive sentiment เนื่องจาก 1) มูลค่าการซื้อขายหน่วยลงทุน JASIF สัดส่วน 19% ยังคงเป็นราคาหน่วยละ 8.50 บาท และ 2) คู่สัญญาหลักของกองทุน JASIF จะเปลี่ยนเป็น TTTBB/AWN ทำให้ช่วยลดความกังวลต่อความสามารถในการแข่งขันของ TTTBB ในธุรกิจบรอดแบนด์

โดยประมาณการกำไรจากการลงทุนตามเงื่อนไขปัจจุบันของกองทุน คาดปี 2565-2568 กองทุน JASIF จะจ่ายเงินปันผลราว 0.91 บาทต่อหน่วย (yield 10.9%) หรือคาดว่าในปี 2566-2575 จะจ่ายเงินปันผลเฉลี่ยต่อปีราว 0.738 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ยต่อปี 8.8% นอกจากนี้มองว่าอาจมีโอกาสเกิด upside ในระยาว หาก ADVANC ขายทรัพย์สินบางส่วนเข้ากองทุน ทำให้กองทุนจะมีรายได้ค่าเช่าเพิ่มจากการลงทุนเพิ่มเติม

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุ ADVANC แจ้ง SET หลังบอร์ดอนุมัติการเข้าซื้อ 3BB และ JASIF แม้จะไม่มีการแก้เงื่อนไขการการันตีค่าเช่ากับ JASIF และไม่เปลี่ยนราคาเข้าซื้อที่ 3.2 หมื่นล้านบาทด้วย ส่งผลให้จำนวนลูกค้าจะเพิ่มขึ้นจาก 2 ล้านราย เป็น 4.4 รายล้านราย ด้วยเครือข่ายที่กว้างขึ้นไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด ที่มีการเจาะตลาดน้อยอยู่ มากกว่าที่จะเน้นไปที่พื้นที่เมือง จากฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น จะช่วยให้ ADVANC ทำการเพิ่มยอดขาย และการขายพ่วงผลิตภัณฑ์และบริการได้หลากหลายขึ้น ซึ่งจะสร้างรายได้สูงขึ้น และเพิ่มมูลค่าให้บริษัทในอนาคต

และ JASIF ยังคงสำคัญสำหรับการขยายโครงสร้างพื้นฐาน และยังเป็นส่วนสำคัญของการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนเพื่อเพิ่มทางเลือกของแหล่งเงินทุน และบริหารต้นทุนเงินทุน ขั้นตอนต่อไปคือการรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. และบริษัทคาดว่ารายการเข้าซื้อจะแล้วเสร็จใน Q1/2566

แนะนำ “ซื้อ” ADVANC ราคาเป้าหมาย 238 บาท ด้วยธีมการฟื้นตัวของกำไร โดยกำไรไตรมาสที่ 4/2565 มีแนวโน้มฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน คาดการฟื้นตัวจะต่อเนื่องไปยังปี 2566 จากเศรษฐกิจในประเทศมีแนวโมฟื้นตัวจากเงินเฟ้อที่สูงในปี 2565 การแข่งขันด้านราคาจะลดลง และมีอัพไซด์จากคาดการณ์หาก ADVANC สามารถทำการเพิ่มยอดขาย และการขายพ่วงหลังการเข้าซื้อ 3BB