AISทุบโต๊ะซื้อ3BB-JASIFบรอดแบนด์พุ่ง4.4ล้านราย จับตา JAS ทะลุ 3 บาท JASIF วิ่งยาว 9 บาท

Published on 2022-11-16   By ข่าวหุ้น

บอร์ด ADVANC เคาะ “ซื้อ” 3BB และ JASIF มูลค่ารวม 3.2 หมื่นล้านบาท แบบไม่มีส่วนลดค่าเช่า แลกกับครองส่วนแบ่งตลาดบรอดแบนด์โตก้าวกระโดดเป็น 4.4 ล้านราย จากเดิม 2 ล้านราย วงในเผย BBL จ่อลดดอก-ยืดหนี้ให้สปอนเซอร์รายใหม่ ดีลจบภายใน Q1/66 ด้านโบรกฯ มองระยะสั้นราคา JAS วิ่งเข้าหา 3 บาท ส่วน JASIF ทะลุ 9 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (15 พ.ย.) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) หรือ ADVANC ได้ประกาศเข้าซื้อหุ้นในบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB หรือ 3BB มูลค่า 19,500 ล้านบาท และซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF 12,920 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 32,420 ล้านบาท แม้ว่าที่ประชุมผู้ถือหน่วยของ JASIF เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา จะไม่รับวาระที่ 1.2 กรณีขอลดค่าเช่าก็ตาม

นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) หรือ ADVANC เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ AWN ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้น 99.99% และ/หรือบุคคลที่ AWN กำหนด ดำเนินการเข้าซื้อหุ้นใน TTTBB และซื้อหน่วยลงทุนใน JASIF

แม้ว่าเงื่อนไขบังคับก่อนในข้อที่เกี่ยวกับการขอยกเลิกสัญญาประกันรายได้ (Rental Assurance Agreement) และการขอแก้ไขสัญญาเช่าหลัก (Mar Lease Agreement) จะไม่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนของ JASIF เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2555 ตามที่บริษัทเสนอรายละเอียดเงื่อนไขบังคับก่อน ภายใต้สัญญาซื้อขายหุ้นและหน่วยลงทุน ข้อเสนอของบริษัทและมติที่ประชุมผู้ถือหน่วย JASIF

ทั้งนี้ บริษัทได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการเข้าทำธุรกรรมยังมีความเหมาะสมต่อบริษัทในระยะยาว ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ 1) การลงทุนในครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด จากฐานลูกค้าที่ระดับ 2 ล้านราย เป็นประมาณ 4.4 ล้านราย และมีโครงข่ายไฟเบอร์ที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคที่กว้างขวางมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด ที่ยังคงมีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตบ้านในระดับต่ำกว่าในพื้นที่ตัวเมือง ซึ่งสามารถสร้างโอกาสในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายแก่ลูกค้า และเป็นการขยายฐานรายได้ สร้างมูลค่าเพิ่มและกระแสเงินสดที่มั่นคงในระยะยาวให้กับบริษัท

2) เนื่องจากที่ประชุมผู้ถือหน่วย JASIF ไม่อนุมัติการแก้ไขสัญญาเช่าตามที่บริษัทเสนอสัญญาเช่าระหว่าง TTTBB และ JASIF จึงยังคงมีอายุสิ้นสุดในต้นปี 2575 ตามเดิมต่อไป ในส่วนเรื่องการต่ออายุสัญญาในอนาคต บริษัทเห็นว่าโอกาสดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสัญญาให้มีความเหมาะสมมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเท่านั้น เพื่อส่งเสริมให้บริษัทคงความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจได้ในระยะยาว ซึ่งบริษัทจะพิจารณาเทียบกับทางเลือกอื่น ๆ ที่เหมาะสมต่อการบริหารต้นทุนการดำเนินงานให้ยั่งยืนในอนาคต

นอกจากนี้ บริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญในการขยายและสร้างมูลค่าเพิ่มจากสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่มีอยู่ และมีนโยบายที่จะพิจารณาทางเลือกในการบริหารทรัพย์สินโทรคมนาคมที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เกิดมูลค่าสูงสุด และสร้างทางเลือกในการระดมทุนที่มีต้นทุนที่เหมาะสมในอนาคตต่อไป

นายธีร์ยืนยันว่าดีลนี้จะสร้างประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมเน็ตบ้านในระยะยาว โดยช่วยทำให้คนไทยทุกพื้นที่ ทั้งในเมืองและนอกเมือง เข้าถึงบริการดิจิทัลและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจากเทคโนโลยีไฟเบอร์ พร้อมนวัตกรรมล่าสุด จากขีดความสามารถของทีม AIS และ 3BB ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งลดปริมาณการลากสายไฟเบอร์ที่ทับซ้อนเกินความจำเป็น และเกิดการพัฒนาต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยีที่ครอบคลุมการใช้งาน พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศในทุกรูปแบบธุรกิจอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

ส่วนเรื่องของการลดค่าเช่าที่ไม่ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF ก่อนหน้านี้ แม้จะเป็นประเด็นสำคัญต่อการพิจารณา แต่ในท้ายที่สุด AIS มองเห็นถึงประโยชน์ในระยะยาว ที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจส่งเสริมด้วยการใช้ศักยภาพร่วมกัน ทั้งในฝั่งของ 3BB ที่มีความแข็งแกร่งในธุรกิจเน็ตบ้านมาอย่างยาวนาน และ AIS ที่เป็นผู้นำในตลาดโทรคมนาคม และบริการดิจิทัลที่ตอบโจทย์ รวมถึงการมีธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านอย่าง AIS Fibre ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี พร้อมได้รับการยอมรับจากลูกค้าเรื่องคุณภาพการให้บริการ การผนึกกำลังร่วมกันก็จะยิ่งสร้างความแข็งแกร่ง เสริมขีดความสามารถในการให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ผ่านสายไฟเบอร์ที่ครอบคลุมลูกค้าที่กว้างขวางมากขึ้น ได้รับบริการดิจิทัลและสิทธิพิเศษที่มีความคุ้มค่าและหลากหลายมากขึ้น

สำหรับโอกาสในการต่อสัญญาเช่าโครงข่าย JASIF ภายหลังจากหมดอายุสัญญาในเดือนมกราคม 2575 หลังจากที่ผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF ไม่ได้มีการอนุมัติในการปรับแก้ไขและต่ออายุสัญญาเช่าตามที่ AIS ได้เสนอ การต่อสัญญาเช่าจึงต้องมาพิจารณาความคุ้มค่าด้านต้นทุนที่เหมาะสม กับความสามารถในการแข่งขันด้านธุรกิจของ AIS และ 3BB ซึ่งบริษัทจะพิจารณาร่วมกับทางเลือกอื่น ๆ ที่มีความเหมาะสม เช่นการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานของ AIS เอง เพื่อรองรับการขยายตัวในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากนี้ บริษัทจะดำเนินการขออนุญาตในการเข้าทำธุรกรรมจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ก่อนจึงจะลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นและหน่วยลงทุน โดยบริษัทคาดว่าธุรกรรมซื้อหุ้นและซื้อหน่วยลงทุนจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 1 ของปี 2566

ด้านแหล่งข่าววงการเงิน เปิดเผยว่า ภายหลังจาก AIS เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนรายใหม่ของ JASIF คาดว่าธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL จะทบทวนการปรับลดดอกเบี้ยและยืดหนี้ให้กับ JASIF อีกครั้ง เนื่องจากกลุ่มเอไอเอสมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่ากว่าสปอนเซอร์รายเดิม

JAS-JASIF วิ่งแรง

รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (BBLAM) เผยว่า เมื่อ ADVANC ต้องการซื้อกองทุน JASIF ภายใต้เงื่อนไขเดิม และตกลงราคาซื้อขายกับ JAS ได้ ดีลดังกล่าวสามารถเดินหน้าต่อได้เลย

“กองทุน JASIF ไม่จำเป็นต้องจัดประชุมผู้ถือหน่วยใหม่อีกรอบ เพราะวาระ 1.1 และ 1.3 ได้รับการอนุมัติในที่ประชุมแล้ว ส่วนวาระที่ 1.2 ที่เป็นประเด็นสำคัญ ที่นักลงทุนไม่เห็นด้วยนั้น เมื่อ ADVANC ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในวาระ 1.2 ก็เท่ากับว่าทุกวาระที่กองทุนฯ เสนอในที่ประชุมเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2565 เป็นอันว่าได้รับการอนุมัติทั้งหมด” บลจ.บัวหลวง ระบุ

บลจ.บัวหลวง เผยอีกว่า JASIF ภายใต้สปอนเซอร์ใหม่ที่เปลี่ยนมาเป็น ADVANC มีโอกาสที่ราคาหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นได้อีกประมาณ 1 บาท หรือมากกว่า 1 บาทเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นกองทุนฯ มากขึ้น

นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด หรือ KS กล่าวว่า ภายใต้เงื่อนไขที่กล่าวมาข้างต้น มองว่าระยะสั้นหุ้นที่จะได้ประโยชน์คือ บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS, กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF ส่วนระยะยาวคือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC

โดย KS ประเมินมูลค่าของ JAS หลังจากปิดดีลและรับเงินจากการขายบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB และ JASIF ไว้ที่ 3 บาทต่อหุ้น เนื่องจากจะได้รับเงินปันผลประมาณ 2 บาทต่อหุ้น ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินจากการขายหุ้นประมาณเดือน มี.ค. 2566 หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เห็นชอบแล้ว

ขณะที่ JASIF ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนสปอนเซอร์ใหม่เป็น ADVANC เพิ่มความเชื่อมั่นทางการเงิน และไม่ต้องลดค่าเช่าให้สปอนเซอร์ใหม่ อย่างไรก็ตามอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) จะลดลงเหลือ 9% จาก 12% ราคาเป้าหมายจะอยู่ที่ 9 บาทต่อหน่วย เนื่องจากความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ที่ลดลงจึงไม่จำเป็นต้องจ่ายปันผลในอัตราที่สูงเหมือนตอนที่อยู่กับ JAS

ส่วน ADVANC แม้ในระยะสั้นราคาหุ้นจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากซื้อ JASIF ในราคาไม่มีส่วนลดตามแผน แต่ในระยะยาวจะส่งผลดี โดยเฉพาะการแข่งขันด้านบรอดแบนด์ หรืออินเทอร์เน็ตบ้าน ที่จะมีจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จากเดิม 2 ล้านราย เป็น 4 ล้านราย สร้างรายได้เติบโตปีละ 7% ลดการแข่งขันด้านราคาลง ทำให้ต้นทุนลด และจะกลายเป็นธุรกิจที่มีส่วนแบ่งตลาดสูง อัตราความเจริญเติบโตสูง หรือ Cash Cow ของ AIS ในอนาคต โดยส่วนเพิ่มของราคาหุ้นอยู่ที่ 10 บาทต่อหุ้น จากดีลนี้