เชื่อใครดีโหวต JASIF แนวบัวหลวงVS กสิกร
2 ค่ายใหญ่ความเห็นแตกต่าง ประชุมวิสามัญ JASIF 18 ต.ค.นี้ บลจ.บัวหลวง แนะผู้ถือหน่วยโหวตผ่านทุกวาระ รับข้อเสนอ AIS ทั้งหมด ราคาหุ้น JASIF มีโอกาสกลับไปอยู่ในระดับสูงเหมือนเดิม ขณะที่ บล.กสิกรไทย มองต่าง แนะโหวตคว่ำวาระ 1.2 ลดค่าเช่า และเปลี่ยนแปลงสัญญาประกันรายได้ เป็นทางเลือกที่ดีสุด โอกาสดีลผ่านมีสูง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ต.ค. กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่ารูปแบบการจัดประชุมวิสามัญในวันที่ 18 ต.ค. ได้เปลี่ยนจากการประชุมทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นการประชุมจริง และเมื่อวันที่ 7 ต.ค. JASIF ได้จัดประชุมวิสามัญล่วงหน้าแบบไม่ลงคะแนนเสียงเพื่อชี้แจงรายละเอียดของข้อตกลง มีผู้ถือหน่วยลงทุนเข้าร่วมประมาณ 150 ราย ผู้ถือหน่วยลงทุนบางรายที่เข้าร่วมก่อนการประชุมวิสามัญแสดงความไม่พอใจกับข้อตกลงดังกล่าว
ล่าสุดมีความเห็นอยู่ 2 แนวทาง ระหว่างบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM ที่ต้องการให้ผู้ถือหน่วยโหวตรับทุกวาระ แนวทางของบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ที่แนะนำให้โหวตรับเฉพาะวาระ 1.1 เปลี่ยนผู้สนับสนุนใหม่ แต่ไม่เห็นด้วยกับวาระที่ 1.2 ที่เกี่ยวกับการลดค่าเช่า และเปลี่ยนแปลงสัญญา
นายพรชลิต พลอยกระจ่าง Deputy Managing Director Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (BBLAM) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) เปิดเผยว่า การประชุมผู้ถือหน่วย JASIF ในวันที่ 18 ต.ค. 2565 นี้ หากดีลระหว่างบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC กับ JASIF ผ่านไปได้ด้วยดี มีสปอนเซอร์ใหม่ที่มีศักยภาพที่ดีกว่าบริษัท
“อยากจะย้ำถึงความสำคัญในการเปลี่ยนสปอนเซอร์ใหม่เป็น ADVANC จะช่วยให้ JASIF เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต”
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า
ทั้งนี้ หากผู้ถือหน่วยโหวตวาระที่ 1.1 เรื่องการเปลี่ยนแปลงสปอนเซอร์ใหม่ แต่โหวตไม่เห็นด้วยในวาระที่ 1.2 เกี่ยวกับการลดค่าเช่า และเปลี่ยนแปลงสัญญา ทาง BBLAM จะรวบรวมผลการประชุมและแจ้งกับทาง ADVANC ให้รับทราบต่อไป
แต่หากทาง AWN พิจารณาแล้ว และไม่ต้องการเข้าลงทุนใน JASIF ทุกอย่างก็จบลง แต่หาก ADVANC พิจารณาถึงผลโหวต และยังต้องการลงทุนใน JASIF พร้อมมีเงื่อนไขเสนอเพิ่มเติม ทาง BBLAM จะมีการจัดประชุมผู้ถือหน่วยใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม BBLAM ยืนยันว่าจะเป็นตัวแทนและรักษาผลประโยชน์ให้นักลงทุนดีที่สุด ส่วนการเดินสายเจรจากับนักลงทุนรายใหญ่พบว่าเห็นพ้องและเข้าใจในการเปลี่ยนสปอนเซอร์ใหม่ เว้นแต่นักลงทุนรายย่อยบางกลุ่มที่กังวลว่าจะได้รับยีลด์ที่ลดลง
กสิกรไทยเห็นต่าง
ด้านนายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KS กล่าวว่า จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนก่อนประชุมวิสามัญน้อยกว่าที่คาดไว้ โดยจำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนทั้งหมดของ JASIF คือ 55,000 ราย คาดว่าจำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนที่เข้าร่วมการประชุมวิสามัญในวันที่ 18 ต.ค. จะมากกว่าหนึ่งในสามของจำนวนหุ้นทั้งหมด เนื่องจากผู้ถือหน่วยลงทุน 10 อันดับแรกที่ถือหุ้น 38% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดเป็นผู้ลงทุนสถาบัน ดังนั้นองค์ประชุมจึงครบตามเกณฑ์ที่วางไว้
ทั้งนี้ มุมมองของ KS มีความเป็นไปได้ 4 ประการ ประการแรก ผู้ถือหน่วยยกเลิกข้อตกลงไม่รับข้อเสนอทั้งหมด กรณีนี้จะเกิดความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ของผู้สนับสนุนเดิม จะมีผลต่อการฟื้นตัวของราคาต่อหน่วย
ประการที่สอง ผู้ถือหน่วยลงทุนอนุมัติทุกวาระ ราคาต่อหน่วยปัจจุบันควรสะท้อนถึงสถานการณ์นี้ ประการที่สาม ผู้ถือหน่วยลงทุนยอมรับวาระแรก แต่ไม่รับวาระที่สอง และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ก็เดินออกจากข้อตกลง ปฏิกิริยาราคาจะคล้ายกับสถานการณ์แรก สุดท้าย เป็นเงื่อนไขเดียวกับสถานการณ์ที่สาม แต่ ADVANC ตัดสินใจดำเนินการตามข้อตกลง ราคาต่อหน่วยอาจดีดตัวขึ้นในตอนแรก ก่อนที่จะถอยกลับไปที่ราคาเป้าหมาย 8.40 บาท เชื่อว่าข้อเสนอใหม่จาก ADVANC และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL จะปกป้องราคาต่อหน่วยของ JASIF ไม่ให้ลดลง
อย่างไรก็ตาม KS ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ถือหน่วยลงทุน คือ การเปลี่ยนผู้สนับสนุนจาก
นักวิเคราะห์ด้านโทรคมนาคมของ KS คำนวณการสร้างมูลค่าที่เป็นไปได้ของ ADVANC ตามข้อตกลงทั้งหมด ไว้ที่ 21.2 บาทต่อหุ้น ซึ่งประกอบด้วย 14.9 บาท จากรายได้และ SYNERGY ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่ม และอีก 3.77 บาท จากรายได้ที่ไม่มีประกัน และ 6.62 บาท จากมูลค่าปัจจุบันของเงินปันผลของ JASIF