เล็งกล่อมผู้ถือJASIF ADVANC เข้ามั่นคง

Published on 2022-09-30   By ทันหุ้น

#JASIF #ทันหุ้น - ผู้บริหาร JASIF เผย 7 ข้อดี หากได้ ADVANC เข้ามาเป็นผู้ถือหน่วยรายใหม่ ทั้งมีรายได้มั่นคง, มีอัตราผลตอบแทนสูงขึ้น อีกทั้ง ADVANC มีโอกาสขายสินทรัพย์เข้ามาเพิ่ม ย้ำชัด ธุรกิจโทรคมนาคมการแข่งขันสูงผู้เล่นที่มีทั้งธุรกิจโมบาย และไฟเบอร์สามารถชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นทุกปี คำนวณรายได้ไว้พร้อมชี้แจง 7 ตุลาคม 2565 ทั้งยัง ฉายภาพอนาคต

นายพรชลิต พลอยกระจ่าง Deputy Managing Director Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบรนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดให้มีการประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนก่อนการประชุมจริง (Pre E-EGM) ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในวันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 09.00-12.00 น. เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการผ่อนผัน และ/หรือ แก้ไขรายละเอียดบางประการในสัญญาจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน และยกเลิกสัญญาบางฉบับที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ซื้อหน่วยลงทุน JASIF ในสัดส่วน 19% มูลค่ารวม 1.29 หมื่นล้านบาท เพื่อประกอบการพิจารณาลงคะแนนเสียงในการประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยลงทุนครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในวันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2565 เวลา 13.00 น.

เบื้องต้น ในฐานะผู้บริหารกองทุนได้ศึกษา "สาระสำคัญ" ของการยกเลิกสัญญาประกันรายได้และยอมรับการขยายระยะเวลาการเช่าออกไปอีก 6 ปีพบว่ามีปัจจัยบวก 7 ประการ ประกอบด้วย 1. ADVANC มีศักยภาพการระดมทุนมากกว่า JAS ส่งผลให้ต้นทุนอัตราดอกเบี้ยจ่ายมีแนวโน้มต่ำกว่า 2.BBL เห็นชอบในหลักการที่จะขยายเวลาชำระหนี้ และปรับลดดอกเบี้ยลงเหลือ 0.5% หลัง ADVANC เสนอปรับโครงสร้างค่าเช่า และเปลี่ยนตัว ผู้สนับสนุนหลัก เป็น "แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค"

3.ADVANC มีศักยภาพการทำกำไรเฉลี่ยต่อปีสูงกว่า JAS 4.กระแสเงินสดรวมและ DPU จะเพิ่มขึ้นตามการขยายเวลาอีก 6 ปี ตามที่ ADVANC เสนอ 5. เนื่องจาก ADVANC มีสินทรัพย์เป็นจำนวนมาก อาทิ โครงข่าย, เสาส่งสัญญาณ, ดาต้าเซ็นเตอร์, เคเบิล, ฯลฯ จึงมีศักยภาพที่จะเพิ่มสินทรัพย์ใหม่เข้ามาในกอง

6.มีโอกาสที่จะได้รับเงินค่าเช่าตลอดสัญญา และ 7.ADVANC เสนอชำระค่าเช่าล่วงหน้า 3 ปี สำหรับปี 2566-2568 ปีละ 1 พันล้านบาท รวมเป็นเงิน 3 พันล้านบาท ขณะเดียวกันจากการศึกษาพบข้อเสีย 2 ประการคือ 1.สัญญาประกันรายได้สิ้นสุดลง และ 2.สัญญาการห้ามแข่งขันสิ้นสุดลง

"ในฐานผู้บริหารกอง ได้ศึกษาแล้วว่าหากสามารถขยายระยะเวลากองทุนออกไปอีก 6 ปี ผู้ถือหน่วยจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน โดยจะไปชี้แจงในวันที่ 7 ตุลาคม 2565 ที่จะถึงนี้ และเมื่อได้รับเงินเข้ามาปีละ 1 พันล้านบาทก็จะพิจารณาอัตราการจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน ขณะเดียวกันกอง ก็จะทยอยลดส่วนทุนลงเฉลี่ยปีละ 1 พันล้านบาทเช่นกัน ขณะเดียวกันหากไม่มีเงินประกันค่าเช่า ในฐานะผู้บริหารหน่วยก็สามารถหาผู้เช่ารายอื่นเข้ามาได้"

ย้ำการแข่งขันสูง

พร้อมกันนี้ยังได้ชี้แจงว่า ปัจจุบันการแข่งขันในธุรกิจโทรคมนาคมสูงมาก อีกทั้งผู้เล่นที่มีทั้ง ธุรกิจ Mobile และ ธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ สามารถช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดไปได้เพิ่มขึ้น ขณะที่ 3BB มีรายได้ รวมลดลงต่อเนื่อง สวนทางกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีผลการดำเนินงานขาดทุน โดยผลประกอบการล่าสุดในปี 2564 ขาดทุนสุทธิ 1,957 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.73% อีกทั้งการคิดค่าบริการของ 3BB สูงกว่าคู่แข่ง ส่งผลให้ลูกค้ามีโอกาสตัดสินใจยกเลิกการใช้บริการเพิ่มขึ้นในอนาคต

สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน JASIF ในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 กองทุนมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 2,211.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.67% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 และลดลง 0.12% จากงวดไตรมาสที่ 1/2565 ขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน 800.00 ล้านบาท ลดลง 698.88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 33.32% จากงวดไตรมาส 1/2565

เป็นผลจากการที่กองทุนได้ว่าจ้างผู้ประเมินราคาอิสระประเมินมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงให้เป็นมูลค่ายุติธรรมใหม่ เป็นมูลค่า 98,600.00 ล้านบาท ทำให้มีการเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงาน เท่ากับ 1,411.84 ล้านบาท ลดลง 31.97% จากงวดเดียวกันของปี 2564 และลดลง 12.55% จากไตรมาสก่อน