รายงานพิเศษ: วัดใจผู้ถือหน่วย JASIF

Published on 2022-09-16   By ข่าวหุ้น

ราคาหน่วยลงทุนกองทุนโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF รวมถึงหุ้น บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ฟื้นตัวขึ้นทันทีขานรับธนาคารกรุงเทพ (BBL) เห็นชอบในหลักการที่จะขยายเวลาชำระหนี้ และปรับลดดอกเบี้ย เพื่อให้สอดคล้องกับความเสี่ยงของธุรกิจที่จะลดลงหากผู้ถือหน่วยลงทุนอนุมัติตามข้อเสนอของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ในการปรับโครงสร้างค่าเช่า และเปลี่ยนตัวผู้สนับสนุนหลักมาเป็นบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) ที่มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน

ซึ่งการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้สินในครั้งนี้จะทำให้ JASIF ประหยัดค่าใช้จ่ายการชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ยได้ประมาณ 1,000-1,100 ล้านบาทต่อปี ในช่วงระยะเวลา 5 ปีแรกหลังจากสัญญาใหม่มีผล ทำให้เงินปันผลเพิ่มขึ้นได้ตามสัดส่วนของภาระที่ลดลงหรือคิดเป็นมูลค่าเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 0.13 บาทต่อหน่วยต่อปี

หากรวมกับข้อเสนอการจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าจำนวนเงินรวม 3,000 ล้านบาท ที่ ADVANC ได้เสนอไปก่อนหน้านี้ จะทำให้เงินปันผลในช่วง 3 ปีแรกของ JASIF ใกล้เคียงกับที่ได้รับจากสัญญาเช่าเดิม

แรงซื้อที่กลับเข้ามาอีกครั้งสะท้อนว่านักลงทุนพักยก ชะลอการกระหน่ำขายหน่วยลงทุน JASIF เพราะพึงพอใจกับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลที่จะกลับขึ้นมาอยู่ในระดับ 8-9% อีกครั้ง เมื่อบวกเพิ่มกับความใจป้ำของ ADVANC ในการเสนอจ่ายค่าเช่าโครงข่ายสายใยแก้วนำแสงล่วงหน้า 3 พันล้านบาทให้ JASIF เพื่อลดผลกระทบและเป็นการ “ซื้อใจ” ผู้ถือหน่วยให้ยอมโหวตผ่านดีล ADVANC เข้าซื้อหุ้นบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB หรือ 3BB และหน่วยลงทุน JASIF จาก JAS

โดยนับตั้งแต่ประกาศดีลนี้ (ในเดือนกรกฎาคม) ราคา JASIF ทรง ๆ ทรุด ๆ ถูกขายมาอย่างต่อเนื่องลงไปต่ำสุด 7.15 บาท จากก่อนหน้านี้จะมีการประกาศดีลราคาเคยอยู่ที่ 10-11 บาท

และในสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ยังโดนเทขายหนักอีกครั้ง จากความเห็นนที่ปรึกษาการเงินอิสระ ซึ่งระบุว่าผู้ถือหุ้น JAS ไม่ควรอนุมัติขาย 3BB มูลค่า 32,420 ล้านบาท ให้กับ ADVANC เพราะแม้ราคาจะเหมาะสม แต่ยังคงมีความเสี่ยง 2 ประเด็น คือ

1.ความไม่แน่นอนของการดำเนินธุรกิจในอนาคต เนื่องจากบริษัทยังไม่มีแผนจะนำเงินสดคงเหลือดังกล่าวไปลงทุนในธุรกิจอื่น เพื่อสร้างผลตอบแทนในอนาคตให้กับผู้ถือหุ้นบริษัท

2.ที่ปรึกษาการเงินอิสระยังไม่สามารถยืนยันถึงความสมเหตุสมผลในสัญญาซื้อขายหุ้นและหน่วยลงทุนได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากการเข้าทำธุรกรรมจำหน่ายหุ้น และจำหน่ายหน่วยลงทุนครั้งนี้ ยังมีเงื่อนไขบังคับก่อนอีกหลายข้อที่ยังมีความไม่แน่นอน รวมทั้งการเข้าทำรายการจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

“ข่าวหุ้นธุรกิจ” ได้เกาะติดตามความเคลื่อนไหวในส่วนของผู้ถือหน่วยรายย่อยของ JASIF ที่มีจำนวน 46,257 ราย มาอย่างต่อเนื่อง พบว่าในช่วงวันที่ 12-13 กันยายนที่ผ่านมา แม้ ADVANC จะยอมจ่ายเงินเพิ่มอีก 3 พันล้านบาท ให้ JASIF แต่ในโลกออนไลน์ บรรดาเม่าทั้งหลายที่มีสัดส่วนถือหน่วยรวมกันถึง 79.37% ยังไม่พอใจ

โดยมีการเรียกร้องให้ไปรวมตัวกันผ่านห้องโอเพ่นแชทไลน์ ที่ชื่อ “JASIF ร่วมกันโหวตคว่ำมติแก้ไขค่าเช่าของ ADVANC” เพื่อ “โหวตไม่ผ่าน” ดีลนี้ในการประชุมวิสามัญของกองทุนในวันที่ 18 ตุลาคม 2565 ซึ่งเลื่อนมาจากวันที่ 23 กันยายน

ซึ่งงานนี้ยังมีความพยายามในการประสานความร่วมมือไปยังรายย่อยกลุ่มที่ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอให้คุ้มครองผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF โดยพิจารณาถอดถอนวาระที่ 1.3 และ 1.4 ของการประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยลงทุนครั้งที่ 1/2565 ประเด็นเพื่อพิจารณาอนุมัติผ่อนผัน และ/หรือ แก้ไขรายละเอียดบางประการในสัญญาจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน และยกเลิกสัญญาบางฉบับที่เกี่ยวข้อง และแก้ไขโครงการจัดการกองทุนรวม ซึ่งต่อมา JASIF ได้เปลี่ยนแปลงวาระการประชุมใหม่

การตัดสินใจของ BBL ในครั้งนี้จะช่วยปลดล็อกปัญหาดีล ADVANC ซื้อ 3BB ให้สะดวกขึ้น เพราะสะท้อนว่านายแบงก์ระดับเจ้าสัวอย่าง “ชาติศิริ โสภณพณิช” กรรมการผู้จัดการใหญ่ BBL คิดสะระตะมาดีแล้วว่าแนวทางนี้น่าจะทำให้แบงก์เจ็บตัวน้อยสุด ซึ่งนำไปสู่ “ทางรอด” ของปัญหา เพราะช่วยเอื้อประโยชน์ให้กับทุกฝ่าย ทั้ง ADVANC, JASIF รวมทั้ง “พิชญ์ โพธารามิก” ที่ต้องหาเงินใช้หนี้แบงก์ไทยพาณิชย์ด้วย

JASIF ได้กู้ยืมเงินกับ BBL เพื่อนำเงินกู้มาซื้อทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงเพิ่มเติมในปี 2562 วงเงิน 18,160 ล้านบาท โดยสัญญาสินเชื่อมีข้อกำหนดห้ามไม่ให้กองทุนแก้ไขแปลงหนี้ หรือยกเลิกสัญญาจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน เว้นแต่กฎหมายกำหนด

BBL ยกเหตุผลของการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการชำระหนี้เงินกู้ของ JASIF ว่าเป็นผลมาจากการเปลี่ยนตัวผู้สนับสนุนเป็น AWN ซึ่งมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ความเสี่ยงของธุรกิจของกองทุนรวมลดลง ประกอบกับโครงสร้างค่าเช่าใหม่จะทำให้ 3BB สามารถแข่งขันในตลาดอินเทอร์เน็ตบ้านได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสุดท้ายผู้เช่าที่แข็งแกร่งขึ้นก็จะกลับมาส่งผลดีต่อกองทุน JASIF เอง

ส่วนในระยะยาว การที่ AWN ก้าวเข้าไปเป็นผู้สนับสนุนรายใหม่ให้แก่ JASIF จะทำให้ความสามารถในการหาแหล่งเงินทุนภายนอกได้มากขึ้น ส่งผลให้ JASIF มีความสามารถในการซื้อสินทรัพย์โทรคมนาคมใหม่ ๆ เข้าสู่กองทุน และรับผลตอบแทนได้มากขึ้นในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอทั้งหมดจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเงื่อนไขที่ ADVANC เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญของกองทุน JASIF ในวันที่ 18 ตุลาคมต้องได้รับการอนุมัติเท่านั้น

งานนี้ดู ๆ แล้วดีล ADVANC ซื้อ 3BB และหน่วยลงทุน JASIF จาก JAS ไม่น่าจะมีปัญหา จากนี้ก็ต้องไปรอลุ้น “กสทช.” อีกทีว่าจะเอายังไง