แอดวานซ์ ดันดีลซื้อ ทริปเปิลที
เสนอจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 'แจสอีฟ' 3 พันล้าน
โบรกคาดผู้ถือหน่วย รับปันผลเพิ่ม 3 ปีแรก 0.125 บาท
กรุงเทพธุรกิจ "แอดวานซ์" เสนอจ่ายค่าเช่าสายใยแก้วนำแสงล่วงหน้า 3 พันล้าน ให้แจสอีฟ บล.กสิกรไทย คาดส่งผลดีลซื้อ "
นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ หัวหน้าคณะ ผู้บริหารด้านการเงิน บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ว่า ตามที่ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท, บริษัท
ทั้งนี้เพื่อเป็นการให้ผลตอบแทนกับ ผู้ถือหน่วยลงทุนของ JASIF ในการได้รับกระแสเงินสดที่เร็วขึ้นAWN,
โดยมีสาระสำคัญดังนี้ 1. TTTBB ตกลงชำระค่าเช่าสายใยแก้วนำแสงล่วงหน้า ตามสัญญาเช่าหลักจำนวน 3,000 ล้านบาท โดยจะแบ่ง ชำระออกเป็น 3 งวด 2. ค่าเช่าล่วงหน้าที่ได้ชำระข้างต้นถือเป็นการชำระ ค่าเช่าสายใยแก้วนำแสงตามสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมและ แทนที่สัญญาเช่าหลัก ในงวดเดือนม.ค.ของปี 2573 และ ปี2574 ในอัตรางวดละ 300 ล้านบาท และงวดเดือนม.ค.ของปี 2575 ถึงปี 2580 ในอัตรางวดละ 400 ล้านบาท
ทั้งนี้ TTTBB ยังคงมีหน้าที่ต้องชำระ ค่าเช่าสายใยแก้วนำแสงตามสัญญาแก้ไข เพิ่มเติมและแทนที่สัญญาเช่าหลัก ที่เกิดขึ้นจริง ในเดือนม.ค.ของปี 2573-2580 หลังจากหักจำนวนค่าเช่าล่วงหน้า โดยคาดว่า ธุรกรรมซื้อหุ้นและซื้อหน่วยลงทุนจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1 ของปี 2566
นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการ อาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย กล่าวว่า ภายใต้เงื่อนไขใหม่ ที่จ่ายล่วงหน้า 3,000 ล้านบาท ทำให้ การเข้าซื้อดูดีขึ้นในเรื่องเวลาที่ผู้ถือหน่วยจะได้รับผลตอบแทนได้มากขึ้นในช่วง 3 ปีแรกนี้ โดยคาดว่าเงินปันผลที่จะได้รับ เพิ่มขึ้นมาอีก 0.125 บาท/หน่วย จากปกติได้รับ ประมาณ 0.96 บาท/หน่วย ทำให้อัตรา ผลตอบแทนจากเงินปันผล (Yield) ดีขึ้นเป็น 7-8% จากเดิม 6-7% ในช่วงปี 2566-2568
อย่างไรก็ตาม ADVANC ไม่ได้เพิ่มค่าเช่า โดยยังคงจะจ่ายค่าเช่าปีละ 7,000 ล้านบาท จากเดิมที่ TTTBB เคยจ่าย ปีละ 10,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2566-2580 แต่ได้นำเงินที่จะจ่ายค่าเช่าในช่วงท้าย ของสัญญา 5 ปีสุดท้าย (2576-2580) จ่ายลดลงปีละ 300-400 บาท มาเป็น ปีละประมาณ 6,600 -6,700 ล้านบาทโดยมาจ่ายล่วงหน้าให้ก่อน
ดังนั้นแนะนำว่าหากคนที่ยังไม่ได้ถือ JASIF สามารถเข้าลงทุนได้ เพื่อรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยหากที่ประชุมผู้ถือหน่วย JASIF รับเงื่อนไขใหม่ จะปรับเป้าหมาย JASIF เป็น 7.50 บาท จาก 7.20 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า ทีมกลยุทธ์ของ บริษัท เชื่อว่าโอกาสดีล ADVANC ซื้อ TTTBB และ JASIF บางส่วน จะเดินหน้าได้มีเพิ่มมากขึ้น โดยระยะสั้น อาจจะกระทบจากกระแสเงินสด จ่ายออกไปเร็วขึ้นปีละ 1,000 ล้านบาท ในช่วง ปี 2566-2568 ไม่กระทบฐานะการเงิน ADVANC อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้มูลค่าเพิ่มสุทธิที่ได้จากดีลลดลง 0.3 บาท จากโครงสร้างเดิมที่ประเมินไว้ 3.0 บาทต่อหุ้น แต่มีผลบวกในทาง พื้นฐานระยะกลางต่อ ADVANC ซึ่งมองว่าหากราคาหุ้นอ่อนตัว เป็นจังหวะซื้อลงทุนโดยแนะซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 252 บาท
ส่วน JASIF จะมีสภาพคล่อง ส่วนเกินปีละ 1,000 ล้านบาท ในปี 2566 -2568 ทำให้คาดกองทุนจะสามารถจ่ายเงินปันผล เพิ่มอีก 0.125 บาทต่อหน่วย จากเงื่อนไขเดิมของ ADVANC ซึ่งเราคาดว่าจะ จ่ายเงินปันผลต่อปี 0.60 บาทต่อหน่วย รวมเป็นเงินปันผล 0.725 บาทต่อหน่วย ในปี 2566-2565 หรือคิดเป็นอัตรา ผลตอบแทนเงินปันผล 9%