AISปลอบผู้ถือJASIF ลดค่าเช่าทางรอด3BB 2 วันราคารูดเกือบ 10% นักลงทุนผวาดีลล่ม

Published on 2022-09-08   By ข่าวหุ้น

ผู้บริหาร “แอดวานซ์” เดินสายกล่อมผู้ถือหน่วย JASIF โหวตรับข้อเสนอ 23 ก.ย.นี้ ไม่เช่นนั้นมีสิทธิล้มดีล ยันอยู่ใต้ปีก AIS แม้ต้องลดค่าเช่า 3BB ลง 30% ก็ดีกว่าอยู่กับ JAS เนื่องจากฐานะการเงินมีปัญหา อาจไม่สามารถจ่ายค่าเช่าในอนาคต ขณะที่ความสามารถแข่งขันลดลง ด้านกองทุนผวาหนักหวั่นดีลล่ม กระหน่ำเทขาย JASIF หนัก

แหล่งข่าวจากวงการตลาดทุน เผยว่า ราคาหน่วยลงทุน กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF ที่ปรับลงมา 2 วันติดต่อกันเกือบ 10% สาเหตุมาจาก บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JASได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เกี่ยวกับที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ หรือ IFA เห็นว่าผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติการเข้าทำรายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์เกี่ยวกับการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB และ JASIF ที่มีมูลค่ารวม 32,420 ล้านบาท ให้กับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC

“กลุ่มผู้ถือหน่วยลงทุนที่เป็นนักลงทุนสถาบันใน JASIF ที่คาดหวังต่อการเข้ามาของ ADVANC กังวลว่าดีลจะไม่เกิดขึ้น หรือล้มไป หลัง IFA ได้แสดงความไม่เห็นด้วยในการขาย เลยมีการปรับพอร์ตขายออกมา”

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า แม้บทวิเคราะห์ของโบรกฯ ต่างวิเคราะห์ว่า หากดีลไม่เกิดขึ้นหรือล้มไป จะส่งผลดีต่อราคา JASIF ที่ดีดกลับขึ้นมาได้ เพราะยังได้ประโยชน์จากค่าเช่าในอัตราเดิม และผลตอบแทนระดับสูง แต่ก็จะมีความเสี่ยงเรื่องความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสัญญาเช่าบางส่วนที่จะหมดลงในปี 2569 รวมถึงการขยายระยะเวลาสัญญาการเช่าของ TTTBB ออกไปอีก 6 ปี นับจากปี 2576 อาจจะไม่เกิดขึ้น

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์รายหนึ่ง เปิดเผยว่า ผู้บริหารของ ADVANC ได้เข้ามาชี้แจงผลได้และผลเสีย หากไม่โหวตเห็นชอบดีลครั้งนี้ โดยยกตัวอย่างกรณีที่ผู้ถือหน่วย JASIF ไม่เห็นชอบดีลขาย JASIF ย่อมจะเกิดความไม่แน่นอนของรายได้ของกองทุนฯ เนื่องจากฐานะการเงินของ JAS อาจไม่สามารถจ่ายค่าเช่าบริการได้ในอนาคต และความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง ซึ่งจะผลต่อผลตอบแทนของ JASIF ในอนาคต

ส่วนกรณีที่ผู้ถือหน่วย JASIF เห็นชอบกับดีลนี้ ตามข้อเสนอของ ADVANC แม้จะมีการปรับลดค่าเช่าลง 30% แต่ก็ไม่มีปัญหาด้านรายได้เข้ากองทุนฯ และความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว เนื่องจาก AIS มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง แม้ผลตอบแทนในระยะสั้นจะลดลงบ้าง แต่ถ้ามองกันในระยะยาว ย่อมให้ผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอกว่าที่จะให้ JAS ถือหุ้นใหญ่ต่อไป

“หากดีลล้ม ความไม่แน่นอนในอนาคตของ JASIF ก็จะตามมา แต่ถ้าดีลเดินหน้าต่อ อนาคตของ JASIF ก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ หลัง AIS เข้ามา”

ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความน่าจะเป็นของการซื้อขาย JASIF อยู่ที่ 80% เนื่องจากการสร้างมูลค่าที่อาจเกิดขึ้นน่าจะดึงดูดให้ ADVANC ตัดสินใจซื้อ JASIF โดยไม่มีส่วนลดค่าเช่า

สำหรับกรณีพื้นฐานความน่าจะเป็น 80% ที่ดีลจะสำเร็จ หากว่า 1) ผู้ถือหุ้นของ JAS อนุมัติข้อตกลง 2) ผู้ถือหน่วยของ JASIF ยอมรับทุกวาระ แต่ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกสัญญาประกันรายได้ และ 3) คณะกรรมการ ADVANC ดำเนินการตามข้อตกลง 4) กสทช.อนุมัติข้อตกลง และ 5) ข้อตกลงเสร็จสิ้นภายในเดือนมีนาคม 2566 จากสถานการณ์สมมตินี้ JAS จะรับรู้กำไรทางบัญชีสุทธิ 2.2 หมื่นล้านบาท

กรณีสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่เป็นไปได้ คือข้อตกลงล้มเหลว ซึ่งจะส่งผลให้เกิดผลกระทบด้านการดำเนินงาน และอาจทำให้สภาพคล่องของ JAS อ่อนแอจากสงครามราคาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ราคาหุ้นของ JAS ร่วงลง 31.4% นับจากต้นปีถึงปัจจุบัน หรือ YTD ซึ่งสะท้อนถึงความผิดหวังจากราคาขายที่ถูก และความไม่แน่นอนว่าข้อตกลงจะผ่านหรือไม่

สำหรับการเทขายครั้งล่าสุดบ่งชี้ว่าตลาดขาดความมั่นใจในข้อตกลง และความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความสามารถในการให้บริการเช่า อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการสร้างมูลค่า การผนึกกำลังที่เป็นไปได้สำหรับ ADVANC โดยการขยายฐานสมาชิก 3BB และการรวมตลาด น่าจะดึงดูดใจมากพอที่จะรับข้อตกลง แม้ว่าจะไม่มีการยุติสัญญาประกันรายได้กับ JASIF

ดังนั้น หากข้อตกลงดำเนินไป ดีลเสร็จในปี 2566 จะปรับราคาหุ้นของ JAS ลงจาก 3.02 บาท เป็น 2.82 บาท สำหรับ JASIF ลงจาก 8.85 บาท ไปสู่ราคา 7.2 บาท