Update!! JAS มุมมอง กสิกรไทย ดีลขาย TTTBB-JASIF ให้ ADVANC

Published on 2022-09-06   By ทันหุ้น

#JAS #ทันหุ้น - ผู้ถือหุ้น JAS ไฟเขียวการขายบริษัทย่อย TTTBB และหน่วยลงทุน JASIF ให้กับบริษัทย่อยของ ADVANC ด้านโบรกเกอร์ประเมิน JAS มีโอกาสจ่ายเงินปันผลพิเศษ ขณะที่ ADVANC มีเฮ! หากดีลซื้อสำเร็จจะช่วยเพิ่ม Upside ให้กับราคาหุ้นอีก 2.7 บาทต่อหุ้น แต่ต้องจับตาการประชุมผู้ถือหน่วย JASIF  18 ต.ค.นี้ รวมถึงท่าทีของ กสทช.ต่อดีลนี้

นายสุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ถึงผลการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2563 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติอนุมัติการจำหน่าย

เงินลงทุนในบริษัทย่อย และกิจการที่เกี่ยวข้องและการมอบอำนาจการดำเนินการ ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยไม่นับส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย

ทั้งนี้ผู้ถือหุ้นที่เห็นด้วยกับการจำหน่ายเงินลงทุนดังกล่าว ด้วยคะแนนเสียง 5,149,909,316 เสียง หรือคิดเป็น 97.2052% ส่วนที่ไม่เห็นด้วย จำนวน 148,015,271 เสียง คิดเป็น 2.7938% โดยมีผู้ถือหุ้นที่งดออกเสียงจำนวน 52,000 เสียง หรือ 0.0009%

เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2565 คณะกรรมการ JAS ได้อนุมัติการจำหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดในบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB จำนวน 7,529,234,885 หุ้น หรือ 99.87% ซึ่งถือโดยบริษัท อคิวเมนท์ จำกัด หรือ ACU ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JAS คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 19,500 ล้านบาท และคณะกรรมการยังได้อนุมัติการขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF จำนวน 1,520,000,000 หน่วย หรือคิดเป็น 19% มูลค่า 12,920 ล้านบาท โดยคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 32,420 ล้านบาท ขายให้กับบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ AWN ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC

**ลุ้น JAS  จ่ายปันผลพิเศษ

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์ว่าหากผู้ถือหุ้นของ JAS อนุมัติการขายหุ้น TTTBB และ JASIF คาดว่าจะทำให้ JAS มีโอกาสจ่ายเงินปันผลพิเศษ จากเงินที่เหลือจากการขายหุ้น 1.93 หมื่นล้านบาท

ซึ่งหากจ่ายปันผลเพียง 10-20% จะจ่ายเงินปันผลเท่ากับ 0.22-0.45 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทน หรือยิลด์สูงถึง 8-7% ซึ่งแนะนำเก็งกำไร

อย่างไรก็ตามแม้จะมีการอนุมัติให้บริษัทย่อยของ ADVANC สามารถเข้าทำรายการซื้อหุ้น TTTBB และหน่วยลงทุน JASIF ได้ แต่ยังต้องติดตามการประชุมวิสามัญของ JASIF ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 18 ตุลาคม 2565 รวมถึงยังคงต้อง

ผ่านกระบวนการอนุมัติโดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) คาดว่าการที่ JAS ขาย TTTBB และ JASIF สำเร็จ คาดว่าจะทำให้ JAS จะบันทึกกำไรจากธุรกรรมครั้งนี้ราว 10,321 ล้านบาท (ก่อนภาษี) และมีโอกาสนำเงินบางส่วนมาจ่ายเงิน

ปันผลพิเศษในเบื้องต้นคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลพิเศษราว 0.90 บาท หรือ Yield 35% ซึ่งนักลงทุนที่ลงทุน JAS อยู่แล้ว สามารถถือเพื่อคาดหวังเงินปันผลพิเศษได้

ในส่วนของผลดำเนินงานไตรมาส 3/2565 ของ JAS คาดว่าผลดำเนินงานจากธุรกิจปกติ ซึ่งไม่รวมผลอัตราแลกเปลี่ยน จะขาดทุนราว 100-200 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่ขาดทุนปกติ 203 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจ

บรอดแบนด์จะมีต้นทุนค่าเช่าสุทธิใกล้เคียงไตรมาส 2/2565 ส่วนธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์คาดว่าจะมีผลกระทบจากการเหวี่ยงตัวของราคาตลาด ซึ่งฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างทบทวนปัจจัยพื้นฐาน เพราะการขายเงินลงทุนทั้งหมดใน TTTBB

ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ JAS และหน่วยลงทุนของ JASIF จะมีผลต่อปัจจัยพื้นฐานของ JAS เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

**หนุน Upside ให้ ADVANC ไม่ต่ำ 2.7 บาท/หุ้น

ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า หาก ADVANC ซื้อกิจการ TTTBB และหน่วยลงทุนของ JASIF บางส่วนได้สำเร็จ คาดว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มไม่ต่ำกว่า 2.7 บาทต่อหุ้น จากราคาเป้าหมายปัจจุบันของปี 2566 ให้ไว้ที่ 252 บาทต่อหุ้น และมีโอกาสเกิด Upside สูงหากมีการตัดสินใจทำ Asset Monetization จากโครงข่ายเสาสัญญาณที่เป็นเจ้าของอยู่ไม่ต่ำกว่า 2.2 หมื่นต้น หรือการสร้างสภาพคล่องให้กับระบบ AIS Points เป็นต้น ขณะเดียวกันหุ้น ADVANC ยังคงให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สม่ำเสมอ 3% ต่อปี

กลยุทธ์ยังคงแนะนำซื้อลงทุนหุ้น ADVANC คาดว่าแนวโน้มกำไรในครึ่งปีหลังจะเริ่มทรงตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งแรกปีนี้ ตามสัญญาณบวกจากรายได้บริการระหว่างประเทศ และลูกค้า 5G ที่มีมากขึ้น โดยลูกค้า 5G ล่าสุดมากกว่า 3.9 ล้านรายแล้ว ในขณะที่อัตราค่าบริการเฉลี่ยของ 5G ยังคงสูงกว่าปกติ 10-15% หนุนรายได้บริการมือถือในครึ่งปีหลังให้เร่งตัวขึ้น