ADVANC เติมแกร่ง JASIF รีไฟแนนซ์ขายสินทรัพย์

Published on 2022-08-11   By ข่าวหุ้น

ADVANC มั่นใจซื้อ TTTBB-JASIF จาก JAS หนุนผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนมั่นคงระยะยาว จากผลงาน ADVANC มีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง ลั่น! นำทรัพย์สินเสาสัญญาณ-สายไฟเบอร์เข้ากองทุนแน่ พร้อมรีไฟแนนซ์เงินกู้แบงก์อัตราดอกต่ำกว่าและยืดเวลาชำระหนี้ ช่วยดันผลตอบแทนกองทุนฯ บล.บัวหลวง คงเป้าหมาย JASIF 12.60 บาท ไตรมาส 3/65 ปันผลอีก 0.23 บาท

นางนัฐิยา พัวพงศกร หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ และกำกับดูแลการปฏิบัติงานอย่างยั่งยืน บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จํากัด หรือ AWN ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่ม ADVANC เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จํากัด (มหาชน) หรือ TTTBB 99.87% และเข้าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF 19% จากบริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) หรือ JAS ว่า มั่นใจจะส่งผลดีต่อผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF โดยเป็นการสร้างความมั่นใจเรื่องการจ่ายผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยในระยะยาว จากความแข็งแกร่งของ ADVANC

ทั้งนี้ การันตีได้จากผลงานของ ADVANC ตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มา 30 ปี มีผลประกอบการขาดทุนเพียงปีแรกเท่านั้น จากนั้นก็มีกำไรมาโดยตลอด และจ่ายปันผลต่อเนื่องทุกปีติดต่อกันเกิน 20 ปีแล้ว สะท้อนถึงความมีประสิทธิภาพด้านการบริหารงานและกระแสเงินสดที่แข็งแรง อีกทั้ง ADVANC มีทรัพย์สิน เช่น เสาสัญญาณกว่า 20,000 เสา และสายไฟเบอร์ทั่วประเทศในปริมาณสูง สามารถแชร์กันใช้ได้เพื่อลดต้นทุนระหว่างผู้ประกอบการ ซึ่ง ADVANC มีแผนที่จะนำทรัพย์สินเหล่านี้เข้าสู่กองทุนฯ ในอนาคตด้วย

“การที่ ADVANC เข้ามาเป็นผู้บริหารกองทุนรายใหม่ จะทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนมั่นใจได้ว่า ผู้บริหารกองทุนมีความแข็งแรง มีกระแสเงินสดที่ดีมาก ส่วนจะมีโอกาสนำทรัพย์สินใหม่เข้ากองทุนด้วยหรือไม่นั้น ต้องบอกว่าเรามีการศึกษาเรื่องนี้อย่างเข้มข้นมา 3-4 ปีแล้ว เพราะเรามองว่าทรัพย์สินที่เรามีสามารถแชร์กันใช้ได้เพื่อลดต้นทุนผู้ประกอบการ ดังนั้นการเอาทรัพย์สินเข้ากองทุนฯ ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่เรามองในอนาคต” นางนัฐิยา กล่าว

นางนัฐิยา กล่าวอีกว่า มั่นใจการเข้าซื้อหุ้นและหน่วยลงทุนครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อ ADVANC ด้วย เพราะจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านให้เป็นไปตามเป้าหมาย สามารถลดการลงทุนเรื่องสายไฟเบอร์โดยไม่จำเป็น สามารถขยายโครงข่ายลูกค้าในต่างจังหวัดและรอบนอกตัวเมืองจากความแข็งแรงของ TTTBB ซึ่งมีทีมงานติดตั้งและทีมงานการตลาดที่มีความสามารถอยู่ทั่วประเทศ ขณะที่ลูกค้าของ ADVANC จะได้รับบริการหลากหลายมากขึ้น สามารถซื้อรวมเป็นแพ็กเกจได้ ทำให้ค่าใช้จ่ายของลูกค้าต่ำลง และทำให้ลูกค้าอยู่กับ ADVANC แบบระยะยาว

สำหรับขั้นตอนจากนี้ ทาง JAS เสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นบริษัทครั้งที่ 1/2565 ในวันที่ 23 กันยายน 2565 เพื่อพิจารณาอนุมัติการจำหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดในบริษัทย่อยและกิจการที่เกี่ยวข้องของ JAS ให้แก่ AWN จากนั้น AWN จะทำการขออนุญาตเข้าทำธุรกิจจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ก่อนลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นและซื้อหน่วยลงทุนจาก JAS ซึ่งประเมินว่าธุรกรรมซื้อหุ้นและซื้อหน่วยลงทุนดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 1/2566

นางนัฐิยา กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวโน้มการดำเนินงานปี 2565 ว่า ได้ปรับลดเป้ารายได้ปีนี้จากเดิมตั้งเป้าหมายจะมีรายได้เติบโต 4-6% เหลือการเติบโต 1-3% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 181,333 ล้านบาท เนื่องจากช่วงต้นปี 2565 ที่บริษัทวางเป้าหมายนั้น มีการประเมินว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้คลี่คลายลงแล้ว และเศรษฐกิจจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในปีนี้

สำหรับกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปีนี้นั้น ประเมินว่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่มี EBITDA อยู่ที่ 93,000 ล้านบาท เพราะแม้ว่ารายได้จะเติบโตขึ้น แต่ต้นทุนก็จะสูงขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากปีนี้ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น ประกอบกับบริษัททุ่มงบด้านการตลาดเพื่อขยายโครงข่าย 5G และรักษาความเห็นผู้นำในธุรกิจโทรคมนาคม โดยในปี 2565 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 30,000-35,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้ปรับลดงบลงทุนเหลือที่ 30,000 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้ และภาวะค่าเงินที่มีความผันผวน โดยการลงทุนหลักยังคงเป็นการขยายโครงข่าย 5G เพื่อการดำเนินงานระยะยาว

รีไฟแนนซ์ลดดอกเบี้ย

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์(ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน)แนะนำ“ถือ”กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือJASIFและเป้าหมายราคาที่ 8.70 บาทโดยสัญญาเช่าที่บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือADVANCเสนอมา คิดเป็นมูลค่าปัจจุบันสุทธิ หรือNPVเพียง 7.10 บาท/หุ้น และให้IRRที่ 3.2%

ในกรณีนี้ มี 2 วิธีที่จะทำให้เงินปันผลต่อหุ้น หรือDPSและNPVเพิ่มขึ้น คือ 1)การรีไฟแนนซ์เงินกู้ธนาคารด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า และระยะเวลาการชำระคืนที่ยาวนานขึ้น และ 2) การเพิ่มสินทรัพย์ของADVANCด้วยเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์กับผู้ถือหน่วยJASIFราคาเป้าหมายตามDCFของบริษัทที่ 8.70 บาท โดยราคาเป้าหมายนี้ยังไม่ได้รวมข้อเสนอของADVANCเข้าไป

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ได้ประมาณการกำไรหลักไตรมาส 3/2565 ที่ 2.2 พันล้านบาท เติบโต 1.2%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน(ได้รับปัจจัยหนุนจากอัตราค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น 1.2% ซึ่งอิงกับอัตราเงินเฟ้อในปี 2564 ที่ 1.23%) และทรงตัวเทียบไตรมาสที่ผ่านมา นอกจากนี้คาดรายได้ค่าเช่าไตรมาส 3/2565 ที่ 2.57 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและทรงตัวเทียบไตรมาสที่ผ่านมา และถ้าอ้างอิงกับอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 83% คาดอัตราเงินปันผลต่อหน่วยที่ 0.23 บาท/หน่วย สำหรับในไตรมาส 3/2565

อย่างไรก็ดี ที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือการประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนของ JASIF ในเดือน ก.ย. 2565 ซึ่งจะรวมวาระการอนุมัติดีลการเข้าซื้อกิจการ TTTBB และ JASIF ของ ADVANC โดย ADVANC ได้ยื่นเสนอเงื่อนไขสองข้อเพื่อขอแก้ไขสัญญาเช่าของ JASIF การประชุมที่จะมาถึงในครั้งนี้จะเป็นตัวกำหนดว่าข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการของ ADVANC จะดำเนินการต่อไปหรือไม่

ทั้งนี้ หากผู้ถือหน่วยลงทุนของ JASIF ไม่อนุมัติข้อตกลงที่ทาง ADVANC เสนอมา ADVANC จะยกเลิกแผนทั้งหมดสำหรับการเข้าซื้อ TTTBB และ JASIF

โดยยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายพื้นฐาน 12.60 บาท อ้างอิงจากอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงมากถึง 10-11% ณ ปัจจุบัน มองว่า JASIF จะเป็นผู้ที่ได้รับผลบวกโดยตรงจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นแรง ณ ปัจจุบัน