AISเผยจำเป็นลดค่าเช่า เสริมเสถียรภาพJASIF ยันยีลด์เหลือ 7% แต่แลกกับรับปันผลยาวขึ้น

ADVANC แจงการเข้าซื้อหุ้นใน TTTBB และ JASIF เพื่อต้องการสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งระยะยาว ย้ำผลตอบแทนจาก 9-10% เหลือ 7% ต่อปี แม้ตัวเลขจะลดลง แต่แลกกับการจ่ายปันผลได้ยาวขึ้นจากการต่อสัญญาออกไป บวกกับ AIS จะเข้ามาช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ JASIF วงในโทรคมนาคม เผยรายได้เฉลี่ยต่อรายของ 3BB เริ่มถดถอย และยอดลูกค้าเข้าใหม่เริ่มติดลบ เหตุต้นทุนสูงกว่าคู่แข่งขัน เชื่อหาก AIS เข้ามา จะช่วยแก้ปัญหาจุดนี้ได้ พร้อมการขายสินทรัพย์เข้า JASIF เพิ่ม

จากกรณีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมของกองทุนโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) แจ้งการจัดประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนวันที่ 23 ก.ย. 2565 เวลา 13.00 น. เพื่อขอมติอนุมัติการยกเลิกและแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินกิจการของ JASIF ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ในการเข้าซื้อหน่วยลงทุน JASIF จากบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS จำนวน 1,520 ล้านหน่วย คิดเป็นสัดส่วน 19% ราคาหน่วยละ 8.5 บาท มูลค่า 12,920 ล้านบาท และเข้าซื้อหุ้นในบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB จำนวน 7,529 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 99.87% มูลค่า 19,500 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าทั้ง 2 รายการรวมกว่า 32,420 ล้านบาท

นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ถึงกรณีการตั้งเงื่อนไขให้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF ต้องดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสัญญาค่าเช่าและเงื่อนไขข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ก่อนดำเนินการซื้อขายหน่วยลงทุน JASIF และบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB มูลค่ารวม 32,420 ล้านบาทว่า ช่วงที่ผ่านมาแนวโน้มการใช้งานโครงข่าย JASIF ลดลงอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนบริหารจัดการสูงขึ้น ทำให้รายได้และกำไรลดลง ที่สำคัญมีแนวโน้มอาจเกิดการขาดทุนในอนาคตได้ ทำให้ ADVANC ต้องการสร้างให้ JASIF มีความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน

จึงทำให้ ADVANC มีการเสนอให้ยกเลิกสัญญาเช่าบางส่วนของ JASIF ลง เพื่อให้การบริหาร JASIF เกิดความคล่องตัวมากขึ้น ไม่ต้องแบกรับต้นทุนสูงเกินไปเหมือนกับช่วงที่ผ่านมา โดยยืนยันว่ารายได้ค่าเช่าของ JASIF จะไม่น้อยลงไปกว่าเดิม และอายุของสัญญาเช่ายาวนานขึ้น จากเดิมสิ้นสุดปี 2575 เป็นสิ้นสุดปี 2580 ทำให้ลดความเสี่ยงกระแสเงินสดและมีศักยภาพในการขยายการลงทุนมากขึ้น

“การแก้ไขสัญญาเกี่ยวกับค่าเช่าฯ จะทำให้ JASIF จ่ายปันผลน้อยลงจากเดิม 9-10% เหลือประมาณ 7% นั้น แม้ตัวเลขลดลง แต่ JASIF สามารถยืดเวลาการจ่ายปันผลให้ผู้ถือหน่วยได้ยาวนานขึ้น และ ADVANC มีโอกาสเข้ามาสร้างมูลค่าเพิ่มให้ JASIF ได้อีกเช่นกัน” นายธีร์ กล่าว

แหล่งข่าวจากวงการสื่อสารโทรคมนาคม กล่าวกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า จากการประเมินสถานะของ JASIF ในปัจจุบัน หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงสัญญาใด ๆ มีความเป็นไปได้สูงว่า TTTBB (3BB) จะไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้จากการที่มีโครงสร้างต้นทุนที่สูงขึ้นและมีศักยภาพการแข่งขันลดลง และความไม่แน่นอนเรื่องการต่ออายุสัญญาเช่า หลังสิ้นสุดสัญญาปี 2575

ในทางกลับกันหาก ADVANC เข้ามาถือหุ้นใหญ่ (ภายใต้สัญญาเช่าใหม่) ทำให้เกิดความแน่นอนมากขึ้น ที่จะได้ต่ออายุค่าเช่าหลังสิ้นสุดสัญญาปี 2575 โดย ADVANC สามารถช่วย JASIF มีต้นทุนการเงินลดลง มีศักยภาพในการแข่งขันด้านต้นทุนที่ดีขึ้น และมีโอกาสขยายการลงทุนด้วยสินทรัพย์ของ ADVANC ในอนาคต

จากข้อมูลงบการเงินสิ้นสุดไตรมาส 1/2565 พบว่า 3BB มีจํานวนผู้ใช้บริการรวม 3.68 ล้านราย แต่มีจํานวนผู้ใช้บริการที่สามารถเก็บเงินได้ประมาณ 2.42 ล้านราย โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อราย (ARPU) 596 บาทต่อเดือน ขณะที่สิ้นปี 2564 มีจํานวนผู้ใช้บริการรวม 3.65 ล้านราย แต่มีจํานวนผู้ใช้บริการที่สามารถเก็บเงินได้ประมาณ 2.43 ล้านราย และมีรายได้เฉลี่ยต่อราย (ARPU) 597 บาทต่อเดือน

จึงเห็นได้ชัดว่าทั้งจํานวนผู้ใช้บริการที่สามารถเก็บเงินได้และรายได้เฉลี่ยต่อราย (ARPU) เริ่มปรับตัวลดลงชัดเจน อย่างไรก็ดีอัตราค่าเช่าไฟเบอร์ออปติกต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือนของ JASIF อยู่ที่ 503 บาท ขณะที่ DIF อยู่ที่ 350 บาท ทำให้ 3BB มีภาระต้นทุนสูงกว่าคู่แข่ง ทำให้เสียเปรียบเรื่องการแข่งขันด้านราคาและทำตลาด เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ ที่สำคัญยังเป็นเหตุทำให้ลูกค้าเดิมขาดแรงจูงใจเรื่องค่าบริการ จนเกิดการย้ายค่ายในอนาคต และนั่นหมายถึงเป็นความเสี่ยงต่อ JASIF ในฐานะผู้ให้เช่าโครงข่ายไฟเบอร์ออปติกแก่ 3BB เพียงรายเดียวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้