3 โบรกฯ ใหญ่เชียร์ ซื้อราคา JASIF ลงถึงจุดรับ AIS แจ้งผู้ถือหน่วยจ่อใช้-ขายสินทรัพย์เข้ากองทุน

Published on 2022-07-18   By ข่าวหุ้น

โบรกฯ ใหญ่ 3 แห่ง “โนมูระฯ” “บัวหลวง” และ “กสิกรไทย” แนะลงทุนใน JASIF หลังราคามีดาวน์ไซด์จำกัดแล้ว ย้ำ JASIF ยังเป็นแหล่งพักเงินเก็บกินปันผลระยะยาว 3-5 ปีได้ ด้าน ADVANC เดินสายพบผู้ถือหน่วยนักลงทุนสถาบัน ยื่นข้อเสนอเข้าใช้คาปาซิตี้ 20% ที่จะหมดสัญญาปี 69 และขายสินทรัพย์เข้ากองทุนเพิ่ม โดยใช้วิธีราคาต่อหน่วยไม่เกิดการไดลูท เพื่อแลกกับให้ผู้ถือหน่วยอนุมัติ ด้านผู้จัดการกองทุนฯ ย้ำยังจ่ายเงินปันผลเหมือนเดิม (0.23-0.25 บาท/หน่วย/ไตรมาส) จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใน JASIF ในช่วง Q2/66 ราคาเป้าหมาย Consensus9.90บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในภาวะที่ตลาดหุ้นไทยผันผวน กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานนับว่าเป็นทางเลือกลงทุนที่ปลอดภัยและให้ผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอ และยังเป็นแหล่งพักเงินระหว่างรอตลาดฟื้นตัวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือJASIFที่ให้ผลตอบแทนระดับสูง

โดยล่าสุดบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือADVANCได้ประกาศซื้อJASIFที่8.50 บาทต่อหุ้น สัดส่วน 19% คิดเป็นมูลค่า 12,920 ล้านบาท จากบริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)หรือ JASซึ่งอยู่ระหว่างการรออนุมัติจากผู้ถือหน่วยลงทุน

บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ซื้อ” กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือJASIFราคาเป้าหมายConsensusที่ 9.90 บาท หลังราคาหุ้นปรับลงมาลึกแล้ว มีดาวน์ไซด์จำกัด และมีปันผลระดับมากกว่า 7% ในระยะ 3-5 ปี

“หุ้นปรับลงมาแรง และเริ่มสร้างฐาน ซึ่งราคานี้ใกล้เคียงต้นทุนบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANCที่ 8.50 บาทต่อหุ้นแล้ว มองเป็นหุ้นพักเงินในภาวะตลาดยังค้นหาฐานและมีความผันผวนอยู่”

สำหรับการเปลี่ยนเงื่อนไขของกองทุน หลังกลุ่มADVANCเข้ามาถือหุ้น กรณีการยกเลิกสัญญาประกันรายได้ค่าเช่าตั้งแต่ปี2566แลกกับการต่ออายุสัญญาเช่าหลักออกไปอีก 5 ปี จากเดิมสิ้นสุดปี2575เป็นปี2580ซึ่งโดยรวมหากผู้ถือหุ้นอนุมัติ เบื้องต้นบนเงื่อนไขใหม่ คาดเงินปันผลปี2566-2574จะลดเหลือ 0.60บาทต่อปี (yield7% ต่อปี) และปี2575-2580จะเหลือ 0.55 บาทต่อปี (yield6% ต่อปี)

อย่างไรก็ดี ผลตอบแทนที่คาดการณ์ดังกล่าว ยังไม่รวมโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มได้สูง หรือUpside riskเช่น การลดต้นทุนดอกเบี้ย และการขายสินทรัพย์ หรือAssetเข้ากองเพิ่มเติม

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เผยว่า ราคาหน่วยลงทุนของ JASIF ณ ปัจจุบัน ปรับลดลงมาอยู่ในระดับต่ำมากแล้ว และความเสี่ยงราคาต่อหน่วยจะปรับตัวลงอีกนั้นมีค่อนข้างจำกัด

นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง เผยอีกว่า การเตรียมทำสัญญาเช่าใหม่ของ ADVANC กับกองทุน JASIF เพื่อใช้คาปาซิตี้ทั้งหมด 20% สำหรับสัญญารอง (หมดอายุปี 2569) แต่เช่าในอัตราที่ลดลง บวกด้วยการขยายเวลาเช่าหลักออกไปอีก 6 ปีข้างหน้า ที่อัตราเช่า 407.37 บาทต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือน ประเมินว่า ประมาณการอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของ JASIF จะลดลงจากประมาณการปัจจุบันคิดเป็น 1-2% ในช่วงปี 2566-2575 และแทบจะไม่มีผลกระทบในช่วงปี 2576-2580 ส่งผลให้ราคาเป้าหมายประเมินด้วยวิธีลดกระแสเงินสด เหลือ 11.90 บาท

“ล่าสุดได้รับการยืนยันจากทาง ADVANC ว่าจะขยายฐานสินทรัพย์ของ JASIF จากการนำเอาสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมขนาดใหญ่ของ ADVANC เข้ากองทุน JASIF ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าระยะยาวให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนของ JASIF และผู้ถือหุ้นของ ADVANC ผ่านการระดมเงินทุนในรูปของภาระหนี้ที่จะเพิ่มขึ้นของ JASIF” นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุ

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าADVANCจะเพิ่มผลตอบแทน เช่นการขายทรัพย์สินเพื่อโน้มน้าวให้ผู้ถือหน่วยลงทุนของJASIFอนุมัติดีลนี้โดยUpside risksได้แก่ การอัดฉีดทรัพย์สินใหม่จากผู้สนับสนุนใหม่ จากADVANCและการต่อสัญญาเช่าใหม่หลังปี 2574 จากJASหรือปี 2580 จากADVANC

“หากผู้ถือหน่วยลงทุนของJASIFไม่อนุมัติดีลรายการนี้ ADVANCระบุว่าอาจล่มดีลทั้งหมด แต่ความสามารถในการจ่ายเงินปันผลของJASIFระหว่างปี2566-2574คาดจะอยู่ในระดับเดิม (ประมาณ 9%) แต่ปัจจัยเสี่ยงในการต่อสัญญาเช่าใหม่ในเดือน ม.ค.2575จะยังคงอยู่”

แหล่งข่าวจาก ADVANC กล่าวกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า จะมีการเดินสายเข้าพบกลุ่มนักลงทุนสถาบันที่ถือหน่วยลงทุนใน JASIF เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสัญญาการเช่าในสินทรัพย์ โดยจะมีการเข้าใช้คาปาซิตี้ ในส่วนของสัญญารอง 20% (หมดอายุปี 2569) พร้อมกับการขายสินทรัพย์ของแอดวานซ์ฯ เข้ากองทุนเพิ่ม ทั้งนี้เพื่อสร้างแรงจูงใจ หรือแลกกับให้ผู้ถือหน่วยกลุ่มนักลงทุนสถาบันโหวตอนุมติในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข

“เราจะขอลดค่าเช่า แต่จะมีการใช้จำนวนหน่วยเพิ่มในสินทรัพย์ของ JASIF ส่วนการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนเพิ่ม อาจจะใช้ให้กองทุนฯ กู้เงินมาซื้อสินทรัพย์ ซึ่งวิธีการนี้ ราคาต่อหน่วยจะไม่เกิดการไดลูท” แหล่งข่าว กล่าว

ทางด้านนายพีรพงศ์จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด กล่าวยืนยันว่า ทางกองทุน JASIF จะยังคงสามารถจ่ายเงินปันผลเช่นเดียวกับที่ผ่านมาได้ จนกว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในกองทุนฯ ในช่วงไตรมาส 1-2 ของปี 2566

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมากองทุน JASIF มีการจ่ายเงินปันผลอยู่ที่ 0.23-0.25 บาทต่อหน่วยต่อไตรมาส หรือเฉลี่ยทั้งปี 0.92-1.00 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 10% อย่างไรก็ดีหาก JASIF จ่ายเงินปันผลที่ระดับ 0.23 บาทต่อหน่วยต่อไตรมาส ไปอีก 4 ไตรมาส (สิ้นสุดไตรมาส 1/2566) ผู้ถือหน่วยจะได้รับเงินปันผลรวม 0.92 บาทต่อหน่วย คิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยทั้งปี 10.80-11.00% ต่อปี เมื่อเทียบกับราคาปิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ระดับ 8.80 บาท