กระแสแรง JAS-JASIF ทิ้ง ปมใหญ่ หลังขายธุรกิจหลัก

Published on 2022-07-06   By กรุงเทพธุรกิจ

หลังธุรกิจโอปอเรเตอร์รายใหญ่ ของไทย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เข้าเทคโอเวอร์ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ หรือ TTTBB ของกลุ่ม จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ JAS และ ยังต้องเข้าซื้อกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF รวม 32,420 ล้านบาท

ก่อให้เกิดโอกาสธุรกิจมากมาย สำหรับ ADVANC แต่ในส่วนของ JAS กลับเต็มไปด้วยความกังวลใจในด้านธุรกิจ จากนี้จะเป็นอย่างไรหลังขายธุรกิจหลัก ไปแลกกับเงินสดเข้ามาอยู่ในมือจะคุ้มค่า แค่ไหน?

ส่วนของ JAS แบ่งเป็น 4 ธุรกิจ ได้แก่ 1. ธุรกิจให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และอินเทอร์เน็ต มี "TTTBB" 2.ธุรกิจให้บริการ โครงข่ายโทรคมนาคม มี "ทรี บีบี ทีวี" "จัสมิน ซับมารีน เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์" 3.ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยี โซลูชัน มีบริษัท "จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น หรือ JTS" "คลาวด์ คอมพิวติ้งโซลูชั่นส์" "จัสเทล เน็ทเวร์ค" 4.ธุรกิจอื่นๆ มี บริษัท "พรีเมียม แอสเซท" "อคิวเมนท์" "โมโน เน็กซ์ หรือ MONO"

จากรายได้ของ JAS ในปี 2564 อยู่ที่ 20,372 ล้านบาท ขาดทุน 1,500 ล้านบาท รายได้ส่วนใหญ่มาจาก ธุรกิจให้บริการ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและอินเทอร์เน็ตทีวี ที่ 18,033 ล้านบาท หรือคิดเป็น 98% ของรายได้ !!!

ส่วน JASIF เป็นการเข้าซื้อสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ จาก TTTBB และมี JAS ถือหน่วยลงทุนที่ 19% ที่ผ่านมามีการซื้อสินทรัพย์ไปรวมมูลค่า 103,683 ล้านบาท ประกอบไปด้วย เส้นใยแก้วนำแสง 980,500 คอร์กิโลเมตร และซื้อเพิ่ม 70,000 คอร์กิโลเมตร รวม 1,680 ล้าน คอร์กิโลเมตร ณ วันที่ 31 พ.ค. 2565 JASIF มีมูลค่ากองทุน 88,264 ล้านบาท มีอัตราการจ่ายปันผลที่ 10%

สำหรับ ADVANC ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์สตาร์ทการแข่งขันปี 2558 จากลูกค้าศูนย์รายจนตอนนี้มีอยู่ในมือ1.8 ล้านราย สร้างรายได้คิดเป็นสัดส่วน 6% จากรายได้รวมปีละเกือบ 2 แสนล้านบาท

รวมไปถึงการเข้าถึงเป้าหมายการจัดตั้ง กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ของ ADVANC ที่ยังไม่มี ทั้งที่สินทรัพย์จากธุรกิจโทรคมนาคม ขายเข้ากองทุนได้ตั้งแต่สายไฟเบอร์, เสาโทรคมนาคม ที่เอไอเอสเป็นเจ้าของ มีมากว่า 2.2 หมื่นเสา จากตัวเลขสินทรัพย์เหล่านี้สิ้นปี 2564 คิดเป็นมูลค่า 264,707 ล้านบาท และยังมีที่กำลังก่อสร้างและ ติดตั้งอีก 8,164 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นแหล่งระดมทุนให้กับ ADVANC ในอนาคต

ด้าน TRUE อาศัยเงินระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล หรือ DIF เช่นกัน ด้วยการขายสินทรัพย์ทั้งเสาสัญญาณ และระบบใยแก้วนำแสง เข้ากองทุนไปแล้ว 223,885 ล้านบาท ทำให้มูลค่ากองทุน ณ 31 มี.ค. 2565 อยู่ที่ 176,336 ล้านบาท ซึ่ง TRUE เป็นผู้ถือหน่วย รายใหญ่ที่ 23.38 %

หากมองด้านการลงทุนราคาหุ้น ADVANC มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น จาก ดีลดังกล่าว ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน ระบุประโยชน์การเข้า ทำธุรกรรมดังกล่าวช่วยเสริมศักยภาพ ในการแข่งขันและปิดจุดอ่อนของ ADVANC ในตลาดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง จากผู้เล่นหมายเลข 4 ขึ้นสู่อันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 40-45% หลังธุรกรรมแล้วเสร็จ

ขณะเดียวกันการเข้าซื้อ JASIF นอกจากจะทำให้ JAS สิ้นสุดความเป็น ผู้ถือหุ้นใหญ่แล้วยังทำให้มีความเป็นไปได้ ที่ในอนาคต ADVANC อาจจะขาย สินทรัพย์เข้ากองทุนฯ หรือใช้กองทุน ในการ funding โครงการลงทุนต่างๆ ในอนาคต และอาจทำให้นักลงทุนกลับมา คาดการณ์เกี่ยวกับปันผลพิเศษอีกครั้ง มองดีลนี้เป็นบวกต่อแรงเก็งกำไรในหุ้น JAS และ ADVANC

การเก็งกำไร JAS ยังมีปัจจัย ที่น่าติดตาม บล.หยวนต้า ระบุว่า ให้ดีล ADVANC ซื้อ TTTBB และ JASIF ในระยะสั้นเผชิญงบ TTTBB ขาดทุนกดดัน แต่อนาคตสดใสเนื่องจากเน็ตบ้าน มีการเติบโตก้าวกระโดด 4.2 ล้านรายต่อปี รวมทั้งยังมีกระแสแรงที่นักลงทุนยังต้องรอการชี้แจงจากผู้บริหารกองทุน JASIF เนื่องจากมีสัญญาว่า JAS จะไม่ขาย JASIF ก่อนปี 2568

ที่สำคัญอนาคตของ JAS ภายใต้กลุ่ม "โพธารามิก" เดินเกมธุรกิจที่ "เร้าใจ" และ "อันตราย" ต่อใจนักลงทุนแค่ไหนหลังเงินทุนพร้อม !!!