JASIF ปันผลเหมือนเดิม บัวหลวง แจงไม่กระทบ

Published on 2022-07-05   By ข่าวหุ้น

บลจ.บัวหลวง ผู้จัดการกองทุน JASIF ย้ำ ADVANC ซื้อ TTTBB และ JASIF จำนวน 19% ช่วยเสริมแกร่ง ไม่กระทบกองทุนฯ ย้ำเงื่อนไขและปันผลเหมือนเดิม หรือหากจะเปลี่ยน ต้องใช้มติ 3 ใน 4 และต้องเป็นเงื่อนไขที่ดีกว่าเดิม ชี้ผู้ถือหน่วยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสถาบัน โบรกฯ ต่างมองเชิงบวก มีโอกาส ADVANC ขายสินทรัพย์เข้ากองฯ ราคา JASIF ร่วง เป็นจังหวะซื้อ ปีนี้ปันผล 0.95 บาท

นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา กรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บัวหลวง จำกัด (BBLAM) ในฐานะบริษัทบริหารจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF เปิดเผยว่า กรณีบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) หรือ ADVANC ได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จํากัด (มหาชน) หรือ TTTBB และซื้อหน่วยลงทุนใน JASIF จำนวน 19% ไม่ได้กระทบกับธุรกิจกองทุนฯ และยืนยันว่าเงื่อนไขสัญญาของกองทุนฯ ยังเหมือนเดิม รวมถึงการจ่ายเงินปันผลของกองทุนฯ ยังเป็นไปในทิศทางทางเดิมเช่นกัน

“การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวยังไม่ได้มีผลในขณะนี้ ยังต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. และดีลนี้มีแผนแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/2566 และการเข้ามาของ ADVANC แค่กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน JASIF เท่านั้น” นายพีรพงศ์ กล่าว

นายพีรพงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องเงื่อนไขสัญญาต่าง ๆ หากทาง ADVANC ต้องการเปลี่ยนแปลง จะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF ขณะที่กองทุนฯ ผู้ถือหน่วยส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนรายใหญ่ นักลงทุนสถาบัน เช่น ธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)ธุรกิจประกันชีวิต ฯลฯ

นอกจากนี้ หาก ADVANC จะเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขได้ จะต้องได้รับการโหวตเห็นชอบจากผู้ถือหน่วยคิดเป็น 3 ใน 4 เท่านั้น

“หากมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข จะต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ไม่เช่นนั้นผู้ถือหน่วยส่วนใหญ่คงไม่ยอมหรือไม่อนุมัติแน่นอน” นายพีรพงศ์ กล่าว

อย่างไรก็ดี นายพีรพงศ์ กล่าวว่า ดีลการซื้อขายหุ้นทั้งหมดของ ADVANC ถือว่า “วิน-วิน” ทุกฝ่าย และเป็นเชิงบวก เพราะทำให้ฐานการเงินของกองทุนฯ มีความแข็งแกร่ง ช่วยให้นักลงทุนเชื่อมั่นมากขึ้น ถือว่าเป็นผลดีต่อนักลงทุน

“ดีลยังไม่ได้จบ รอช่วงต้นปี 2565 ดังนั้นนักลงทุนอย่าตื่นตระหนก ขอย้ำว่าเงื่อนไขสัญญาและการจ่ายเงินปันผลยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง การเข้ามาของ AIS หลังจบดีลสิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือ โครงสร้างผู้ถือหุ้น ที่ AIS เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แทนและหากเปลี่ยนสัญญาเงื่อนไขอะไรจะต้องเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นเป็นสำคัญ" นายพีรพงศ์ กล่าวย้ำ

นายพีรพงศ์ กล่าวว่า มูลค่ากองทุนในส่วนของบุ๊กแวลู ณ วันที่ 4 ก.ค. 2565 อยู่ที่ประมาณ 88,000 ล้านบาท ส่วนมูลค่ามาร์เก็ตแคปอยู่ที่ประมาณ 70,000 กว่าล้านบาท อย่างไรก็ตามโอกาสที่มูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคตมีโอกาสเช่นกัน หากทาง ADVANC มีการใส่สินทรัพย์เข้ากองทุนเพิ่มเติม เพราะทาง ADVANC เองก็มีบอรดแบนด์เช่นกัน

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) มองว่าอัตราการจ่ายเงินปันผลของJASIFปีนี้จะจ่ายเงินปันผลที่0.95บาทต่อหน่วย

บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เป็นโอกาสในการเข้าซื้อJASIFราคาเป้าหมาย12บาทจากกรณีADVANCเข้าซื้อJASIFในราคา8.50บาท ทำให้ราคาJASIFเกิดแรงขายPANICในระยะสั้น

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เผยว่า ดีลนี้เป็นบวก เนื่องจากเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาวให้กับ ADVANC สำหรับการเติบโตทางลัดของธุรกิจบรอดแบนด์บ้านที่จะเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการ ซึ่งจำนวนผู้ใช้บริการของ ADVANC หลังจากรวมกับ TTTBB จะอยู่ที่ 4.3 ล้านราย ซึ่งเป็นอันดับสองรองจาก TRUE ซึ่งอยู่ที่ 4.7 ล้านราย บวกกับการขยายฐานลูกค้าบรอดแบนด์บ้านเข้าไปสู่พื้นที่ในต่างจังหวัดและรอบนอกตัวเมืองจากการใช้สายไฟเบอร์ออปติกของกองทุน JASIF ซึ่ง JASIF เป็นเจ้าของสายไฟเบอร์ออปติกจำนวน 1.7 ล้านคอร์กม.

ในแง่ของราคาซื้อ ประเมินว่าราคาซื้อ TTTBB ถือว่ายุติธรรมและเหมาะสม ที่ราคา 1.95 หมื่นล้านบาท ซึ่งคิดเป็น EV/EBITDA ที่ประมาณ 10 เท่า และถ้าเทียบกับมูลค่า DCF ของ TTTBB ซึ่งประเมินอย่างคร่าว ๆ ในช่วง 18,000-22,000 ล้านบาท มองว่าค่อนข้างเหมาะสม

ในแง่สำหรับราคาซื้อ JASIF ราคาซื้อที่ 8.50 บาท/หน่วย ถือว่าไม่สูงมาก และมีส่วนลดถ้าเทียบกับราคาในกระดาน และถ้าเทียบกับมูลค่า DCF ของหลักทรัพย์บัวหลวงที่ 12.6 บาทต่อหน่วย ในแง่ TTTBB มีผลขาดทุน 2 พันล้านบาท ในปี 2564 แต่คาดว่า TTTBB เมื่อมาอยู่ภายใต้ ADVANC จะพลิกกลับจากขาดทุนสุทธิไปเป็นกำไรสุทธิได้ในปี 2566 ซึ่งคาดกำไรสุทธิที่ 500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2% ของกำไรสุทธิรวมของ ADVANC ในปี 2566 ก่อนที่กำไรจะเพิ่มขึ้นในระยะยาวจาก Synergy ที่จะมาจาก ADVANC ทั้งในแง่ของรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นจากการทำ Bundling ผลิตภัณฑ์และต้นทุนการดำเนินงานที่จะลดลง

ด้านรายได้จาก TTTBB ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท ในปี 2564 คิดเป็น 10% ของรายได้รวมของ ADVANC หรือถ้ารวมรายได้ FBB ของ ADVANC รายได้ธุรกิจ FBB รวมทั้งหมดจะอยู่ที่ 15% ของรายได้รวมของ ADVANC มองว่า Synergy ในระยะยาวที่จะมาจากการทำ Bundling จะส่งผลให้สัดส่วนรายได้ของธุรกิจ FBB รวมทั้งหมดเพิ่มขึ้นไปเกิน 20-25%

ทั้งนี้ การเข้าซื้อกิจการของ TTTBB และ JASIF จะสร้างมูลค่าเพิ่มต่อหุ้นให้กับ ADVANC ได้ในช่วง 1-5 บาทต่อหุ้น โดยรวม TTTBB เข้ามาทั้งในแง่ของงบดุลและงบกำไรขาดทุน และการรวมการถือหุ้นของ ADVANC สัดส่วน 19% ใน JASIF ผ่านการรับรู้ส่วนแบ่งกำไร 19% ใน JASIF และกระแสเงินสดรับที่จะเพิ่มขึ้นจากการ “รับเงินปันผล” จาก JASIF

หลักทรัพย์บัวหลวงมองถึงโอกาสของมูลค่าเพิ่มที่จะมีในอนาคตจากการ “ขยายกอง JASIF” ผ่านการขายสินทรัพย์ของ ADVANC เข้ากอง JASIF ในระยะยาว หลักทรัพย์บัวหลวงจะทำการรวมมูลค่าเพิ่มจากดีลข้างต้นเข้าไปในประมาณการของ ADVANC และราคาเป้าหมาย และยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น ADVANC ที่ราคาเป้าหมาย 257 บาท