จบเกมหุ้นขุดบิทคอยน์ บจ.ถอยหวั่นได้ไม่คุ้มเสีย

Published on 2022-05-31   By ทันหุ้น

ทันหุ้น – สัญญาณร้ายหุ้นขุดบิทคอยน์ SCI ถอยทัพแจ้งตลาดเลิกทำเหมืองบิทคอยน์ ระบุชัดราคาลดลงหนักทำไม่คุ้ม เปลี่ยนทางลงทุนซื้อเหรียญแทน ด้านนายกสมาคมฟินเทคระบุเผชิญ 3 ปัจจัยเสี่ยงกดพี/อี ตลาดยังกังวลเคส LUNA ดร.นิเวศน์ ชอบหุ้นเทคพี/อีต่ำ แต่ไม่ให้ค่าบิทคอยน์ จับตาหุ้นเคยประกาศขุดบิทคอยน์เลิกหรือไม่

นายเกรียงไกร  เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) หรือ SCI แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ตามที่ คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนในบริษัท เอสซีไอ เวนเจอร์ จำกัด (SCIV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จำนวน 140ล้านบาท เพื่อนำไปลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์

เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันราคาเหรียญบิทคอยน์ ปรับตัวลดลงอย่างมาก ซึ่งราคาปัจจุบันปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาที่คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับบริษัท คณะกรรมการจึงพิจารณาชะลอการลงทุนในธุรกิจเหมืองบิทคอยน์ และอนุมัติให้ลงทุนซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล วงเงินไม่เกิน 30ล้านบาท เพื่อให้การลงทุนสอดคล้องกับราคาเหรียญบิทคอยน์ในปัจจุบัน โดยจะเริ่มลงทุนตั้งแต่ 30 พฤษภาคม 2565และจะลงทุนให้เสร็จภายในไตรมาส 3/2565

ก่อนหน้านี้ SCI ได้ประกาศจะลงทุนในเครื่องขุดบิทคอยน์ 195 เครื่อง ตู้คอนเทนเนอร์ 1ตู้ ระบบไฟฟ้า อุปกรณ์ และระบบ ตามมูลค่าลงทุน 140ล้านบาท ซึ่งจะทยอยสั่งซื้อและติดตั้งแล้วเสร็จในไตรมาส 3/2565 ก่อนจะชะลอการลงทุนตามข้อมูลเบื้องต้น

@ปัจจัยเสี่ยงทำเลิกขุด

นายชลเดช  เขมะรัตนา นายกสมาคมฟินเทค ประเทศไทย เปิดเผยกับ "ทันหุ้น" ว่า ไม่น่าแปลกใจที่จะมีบริษัทจดทะเบียนยกเลิกการขุดเหมืองบิทคอยน์ ซึ่งที่ผ่านมาได้คุยมาโดยตลอดว่าการลงทุนเหมืองขุดบิทคอยน์จะมีความเสี่ยงใน 3ประเด็นด้วยกันคือ 1. ราคาบิทคอยน์ที่ขุดได้ หากลดลงก็อาจจะทำให้ไม่ได้รับความความคุ้มค่า  2. เครื่องขุดเหรียญซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้หาซื้อกันได้ง่ายๆ เนื่องจากซัพพลายจำกัด ทำให้มีราคาสูงหรือหาได้ยาก และ 3. คู่แข่งขันในการขุดเหรียญ โดยเหรียญดิจิทัล และบิทคอยน์จะมีความยากในการขุดเพิ่มขึ้นหากมีการเข้ามาขุดเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อมีผู้ขุดมากก็จะทำให้การขุดเหรียญได้น้อยลง

ซึ่งปัจจัยเสี่ยงทั้ง 3 ที่เกิดขึ้น พบว่า ราคาบิทคอยน์ได้ลดลง ขณะที่ค่าเครื่องยังคงสูง และความยากในการขุดที่อาจจะเพิ่มขึ้นทำให้มีโอกาสที่จะการขุดไม่คุ้มกับค่าไฟฟ้า และระบบทำความเย็น โดยผู้ที่ตัดสินใจลงทุนเครื่องขุดแล้ว จะขายเครื่องโอกาสก็ไม่ได้ง่ายนัก เนื่องจากมีเทคโนโลยีใหม่ที่ดีขึ้นตลอดเวลา

ทั้งนี้หากสำรวจบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศลงทุนบิทคอยน์จะพบว่ายังไม่สามารถที่จะได้กำไร โดยเฉพาะในด้านของพี/อี ถ้าเจอความเสี่ยงมากขึ้นเช่นในปัจจุบัน การที่นักลงทุนให้ค่าพีอีก็จะลดลงเป็นเรื่องปกติ

โดยยอมรับว่าส่วนหนึ่งของการลดลงของบิทคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลเกิดจาก วิกฤติเหรียญ LUNA และ UST ซึ่งเป็นเหรียญที่อดีตมีมาร์เก็ตแคปที่ใหญ่มาก แต่กลับร่วงลงแรง และทำให้เกิดความกังวลในเหรียญอื่นๆ ตามมา ทั้งนี้ต้องติดตามว่าบริษัทที่เคยประกาศลงทุนบิทคอยน์จะดำเนินการอย่างไรท่ามกลางความเสี่ยงที่เกิดขึ้น

@บิทคอยน์ประเมินราคาไม่ได้

ดร.นิเวศน์  เหมวชิรวรากร นักลงทุนคุณค่า (VI) กล่าวในงานสัมมนารวมพลคนทันหุ้นว่า ส่วนตัวเริ่มมองหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น NETFLIX, META, BABA ว่ามีความคุ้มค่า เนื่องจากราคาที่ลดลงได้ทำให้พี/อีที่เคยขึ้นไปหลายเท่าลดลงมาเหลือกว่าสิบเท่า ซึ่งแพลตฟอร์มเหล่านี้เป็นแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งยังมีคนใช้อยู่ แต่ในส่วนของบิทคอยน์หรือเหรียญดิจิทัลนั้นแม้จะต่ำลงมาแต่ก็ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าเป็นราคาที่ถูกหรือไม่ เพราะไม่มีกำไร จึงคำนวณไม่ได้ ดังนั้นยังคงต้องหลีกเลี่ยง

@ ส่องบจ.ขุดบิทคอยน์

ทีมงานทันหุ้นได้เข้าสำรวจ บริษัทที่ประกาศขุดเหมืองบิทคอยน์ประกอบด้วย JTS ที่จะใช้เงินกว่า 3,300ล้านบาท ซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์จำนวน 6,300 เครื่อง ZIGA ลงทุน 400เครื่อง ECF ประกาศลงทุน 80 ล้านบาท AJA ลงทุนทั้งสิ้นไม่เกิน 90ล้านบาท COMAN ลงทุนในธุรกิจขุดคริปโทเคอร์เรนซี มีมูลค่าการลงทุน จำนวน 60 ล้านบาท UPA ลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองคริปโทที่สปป.ลาว มูลค่า 817 ล้านบาท ซึ่งวางแผนจะมีเครื่องขุดกว่า 8,000เครื่อง SMT ลงทุนปีนี้ไม่เกิน 50ล้านบาท