เปิดงบ JTS ปี 64 รายได้ 1,878 ล้าน กำไร 274 ลบ. วันที่ 22 ก.พ.นี้ขอมติผู้ถือหุ้นทำเหมืองขุดบิทคอยน์ ใช้เงินลงทุน 3,300 ล้านบาท

บมจ.จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น (JTS)  เดิมชื่อ บริษัท จัสมินเทเลคอม ซิสเต็มส์ จํากัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการจัดหา ออกแบบ ติดตั้งและทดสอบระบบสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร (Total ICT Solution) ปัจจุบันมีแผนลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ และตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นหนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์รายใหญ่สุดในประเทศไทย

ล่าสุด JTS ได้แจ้งผลผลการดําเนินงานปี 2564 มีกําไรสุทธิ 273.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139.50 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2563 โดยมีกําไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทเพิ่มขึ้น 177.00 ล้านบาท คิดเป็น 400.82 %

ในปี 2564 JTS มีรายได้รวม 1,877.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 231.67 ล้านบาท (+14.07 %)  เมื่อเทียบกับปี 2563 โดยมีรายได้จากธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์จํานวน 9.591882 เหรียญบิทคอยน์ คิดเป็นจํานวนเงิน 16.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100 % 

เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เตือนให้ผู้ถือหุ้น JTS ศึกษาข้อมูลและไปใช้สิทธิออกเสียงในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 22 ก.พ.นี้ ผ่านระบบออนไลน์ กรณีบริษัทและ/หรือบริษัทย่อยจะเข้าลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์เพิ่มเติม โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเห็นว่า โครงการลงทุนดังกล่าวมีความเสี่ยงสำคัญที่บริษัทไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งมีผลกระทบต่อผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ ผู้ถือหุ้นควรลงมติ ไม่อนุมัติ

JTS ได้เปิดเผยถึงเป้าหมายและแผนธุรกิจในปี 2565 ที่แจ้งผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2565 ดังนี้ 

ปี 2564 บริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จํากัด (JasTel) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JTS  ได้เข้าลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ (Bitcoin Mining) ซึ่งได้มีการอนุมัติการจัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์ที่มีพลังประมวลผลสูง (Total Hash Rate) จํานวน 1,725 เครื่อง พร้อมระบบไฟฟ้ าและอุปกรณ์อื่นๆ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ จํานวนรวมทั้งสิ้น 437.31 ล้านบาท โดย ณ สิ้นปี 2564 มีจํานวนเครื่องขุดบิทคอยน์ที่ติดตั้งแล้วเสร็จจํานวน 315 เครื่อง ส่วนจํานวนเครื่องขุดบิทคอยน์ที่เหลือจะทยอยส่งมอบในปี 2565

สําหรับแผนการลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ในปี 2565 จะทําให้จํานวนเครื่องขุดของบริษัทรวมอยู่ที่ 8,100 เครื่อง โดยมีระบบไฟฟ้ าและอุปกรณ์อื่นๆ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 3,300 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการนําเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อพิจารณาอนุมัตินั้น การลงทุนเพิ่มเติมในปี 2565 ดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการในการขุดบิทคอยน์เพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้าน Terrahash/s ซึ่งจะทําให้กลุ่มบริษัทเป็นหนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์รายใหญ่สุดในประเทศไทย โดยจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และสร้างผลตอบแทนได้ในระยะยาว

สำหรับธุรกิจออกแบบและวางระบบสื่อสารและโทรคมนาคม ธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม และธุรกิจจัดหา ออกแบบและวางระบบคอมพิวเตอร์ ยังเป็นธุรกิจหลักที่ทางกลุ่มบริษัทตั้งเป้ าหมายในการขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้นแม้นว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นลูกค้ากลุ่มเป้ าหมายที่เป็นนิติบุคคลขนาดใหญ่ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ท (Internet Service Provider) ฯลฯ