JAS พุ่ง8% เก็งข่าวลือAISสนซื้อธุรกิจบรอดแบนด์

 JAS ราคาพุ่งแรง 7.94% หลังมีกระแสข่าว ADVANC สนใจเข้าซื้อธุรกิจบรอดแบนด์ของ TTTBB ฟากผู้บริหาร “สุพจน์” แจ้งปัจจุบันยังไม่มีพัฒนาการใด ๆ ในเรื่องดังกล่าว และไม่ได้รับการติดต่อจาก ADVANC โบรกฯ มองหากดีลเกิดขึ้นจริงเป็นผลดีต่อ ADVANC ในแง่มาร์เก็ตแชร์ที่เพิ่มขึ้น และสินทรัพย์ของ TTTBB แนะ “ซื้อ” ADVANC เป้า 248 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS วานนี้ (17 ม.ค. 2565) เปิดตลาดที่ราคา 3.82 บาท ระหว่างวันปรับตัวขึ้นไปทำราคาสูงสุดและปิดตลาดที่ 4.08 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 7.94% ด้วยมูลค่าซื้อขายหนาแน่น 1,269.35 ล้านบาท ตามแรงซื้อเก็งกำไรของนักลงทุน หลังมีกระแสข่าวออกมาว่า บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC สนใจเข้าซื้อธุรกิจบรอดแบนด์ของ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ 3BB ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ JAS เพื่อต่อยอดธุรกิจบรอดแบนด์ AIS Fiber

ด้านนายสุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในช่วงเย็นของวันที่ 17 ม.ค. 2565 ว่า ตามที่ปรากฏข่าวในหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ว่า บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC สนใจเข้าซื้อธุรกิจบรอดแบนด์ ของ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB นั้น บริษัทชี้แจงว่า ปัจจุบันบริษัทไม่ได้ดำเนินการหรือมีพัฒนาการใด ๆ ในเรื่องการขายธุรกิจบรอดแบนด์ของ TTTBB รวมทั้งไม่ได้รับการติดต่อจาก ADVANC แต่อย่างใด

ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการสอบถามจากทาง ADVANC แจ้งว่าอยู่ระหว่างศึกษาเข้าซื้อกิจการธุรกิจบรอดแบนด์ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB อย่างไรก็ตามยังไม่มีความคืบหน้า และยังไม่ชัดเจน ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวจะเป็นไปได้หรือไม่ จะต้องดูหลายปัจจัย ทั้งราคาซื้อขาย การ Synergy ที่จะได้รับ และมีอุปสรรคอื่น ๆ อะไรบ้าง

อย่างไรก็ตาม ภายใต้สมมติฐานที่ว่าดีลการเข้าซื้อกิจการของ ADVANC ใน JAS เกิดขึ้นจริง ประเมินว่าจะเป็นประโยชน์ต่อ ADVANC ในแง่ของการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจบรอดแบนด์เป็น 4.1 ล้านราย จากการได้จำนวนสมาชิกลูกค้าบรอดแบนด์ที่เรียกเก็บเงินได้ของ TTTBB อีกจำนวน 2.4 ล้านราย เข้ามา (เทียบกับจำนวนลูกค้าบรอดแบนด์ของ TRUEอยู่ที่ 4.5 ล้านราย) รวมถึงการที่ ADVANC จะได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์ของ TTTBB ซึ่งรวมสายใยแก้วนำแสง (OFC) จำนวน 500,000 คอร์กิโลเมตร โหนดสำหรับจุดเชื่อมต่อระหว่างสายใยแก้วนำแสง และสายเคเบิลที่ลากเข้าบ้าน

“ประเด็นเรื่องของการเข้าซื้อกิจการของ ADVANC ใน JAS ยังคงอยู่ระหว่างการศึกษา และยังคงมีความไม่แน่นอนว่า ADVANC จำเป็นที่จะต้องซื้อกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF ด้วยหรือไม่ (ซึ่งกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของของสายใยแก้วนำแสงจำนวน 1.7 ล้านคอร์กิโลเมตร ณ ปัจจุบันเป็นของ JASIF)”

ขณะเดียวกันคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/2564 ของ ADVANC อยู่ที่ 6,737 ล้านบาท ลดลง 6% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,164 ล้านบาท แต่เพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6,374 ล้านบาท หากไม่รวมรายการอัตราแลกเปลี่ยนและสิทธิประโยชน์ทางภาษีของเงินลงทุน คาดว่ากำไรหลักไตรมาส 4/2564 ที่ 6,522 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน มีกำไรหลักอยู่ที่ 6,344 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้บริการที่เพิ่มสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายในการบริหารงานทั่วไปที่ลดลง (จากภาระหนี้เสีย และค่าใช้จ่ายพนักงานที่ลดลง) กลบผลกระทบของค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ค่าใช้จ่ายด้านโครงข่ายและต้นทุนคอนเทนต์ที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่ลดลง 2% จากไตรมาสก่อน ที่มีกำไรหลักอยู่ที่ 6,638 ล้านบาท หลัก ๆ เนื่องมาจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น ก้าวกระโดดจากไตรมาสก่อน (ตามปัจจัยด้านฤดูกาลและแคมเปญการตลาด 5G ที่เพิ่มขึ้นบันเดิ้ลกับโทรศัพท์มือถือไอโฟน 13)

ดังนั้นแนวโน้มการฟื้นตัวของรายได้และกำไรคาดว่าจะต่อเนื่องไปยังปี 2565 ตราบใดที่ยังคงไม่มีการล็อกดาวน์รอบใหม่ (แม้ว่า COVID-19 สายพันธุ์ใหม่โอมิครอนจะแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วก็ตาม) ทั้งนี้ ADVANC ยังคงเป็นหุ้นที่ชื่นชอบมากที่สุดในกลุ่มไอซีที เนื่องจากกำไรหลักที่จะกลับมาฟื้นตัวในปี 2565 และมูลค่าหุ้นที่ยังคงถูก โดยอัตราส่วน EV/EBITDA อยู่ที่ 8.20 เท่า ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 248 บาท