JTS...หุ้นมหัศจรรย์รวย 10,000%

Published on 2022-01-13   By mgronline

หุ้นร้อนนับร้อยบริษัทในปี 2564 ส่วนใหญ่สงบลงแล้ว ราคาเริ่มปรับฐานลง แต่มีหลายตัวที่ไม่สิ้นฤทธิ์ โดยพุ่งทะยานต่อไป และไม่มีเหตุผลในทางพื้นฐานอธิบายได้ว่า ทำไมราคาจึงร้อนแรงนัก ใครอยู่เบื้องหลังการลากขึ้นหรือไม่

หุ้นร้อนที่แรงยังไม่ตก และยังปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นเป็นที่จับตา ประกอบด้วย หุ้นบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY หุ้นบริษัท พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PSG หุ้นบริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA และหุ้นบริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS

SABUY เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดอันดับ 3 ปี 2564 โดยพุ่งขึ้น 1,165% จากราคา 1.81 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 ขึ้นมาปิดที่ 24.70 บาท ในสิ้นปี 2564

ขึ้นปี 2565 SABUY ยังไม่หยุดคึก ถูกลากต่อจนขึ้นมาปิดที่ 32.25 บาท เมื่อวันที่ 12 มกราคม โดยราคาที่พุ่งขึ้นเพราะมีการสร้างข่าวดีกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเข้าถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนอื่น และมีการสร้างความคาดหวังว่า ผลประกอบการจะเติบโตสูง

ค่าพี/อี เรโช SABUY ทะยานขึ้นไป 229 เท่าแล้ว กลายเป็นหุ้นร้อนที่ค่าพี/อี เรโชสูงมาก แต่ไม่มีใครคาดหมายว่าราคาจะถูกลากไปสิ้นสุดที่ยอดดอยไหน

PSG เป็นหุ้นที่ร้อนแรงที่สุดอันดับ 3 ประจำปี 2564 ราคาพุ่งขึ้นจาก 4 สตางค์เมื่อสิ้นปี 2563 มาปิดที่ 58 สตางค์ในปี 2564 พุ่งขึ้น 1,350%

เปิดศักราชปี 2565 PSG ยังแรงต่อ ราคาพุ่งทะยานต่อเนื่อง จนตลาดหลักทรัพย์ต้องลงมาสกัด ประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายทั้ง 3 ระดับ พร้อมด้วยประกาศเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังการซื้อขาย แต่ราคายังวิ่งไม่หยุด และขึ้นมาปิดที่ 1.35 บาท เมื่อวันที่ 12 มกราคม

ผลประกอบการ PSG ขาดทุนหลายปีติดต่อ และแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่และโครงสร้างผู้บริหารเมื่อประมาณกลางปี 2564 แต่ผลประกอบการยังไม่ดีขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นถูกลากขึ้นตลอด

เบื้องหลังราคาหุ้น PSG ที่พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง ทุกคนถึงบางอ้อ เมื่อบริษัทฯ แจ้งเมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมาว่า ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างส่วนขยายกำลังผลิตถ่านหินในประเทศลาว วงเงิน 8,895 ล้านบาท

ข่าวชนะประมูลงานก่อสร้างในลาว อาจเป็นปัจจัยเดียวที่สนับสนุนราคาหุ้น PSG แต่ปมอยู่ที่ทำไมราคาหุ้นจึงถูกลากขึ้นมาก่อน และใครอยู่เบื้องหลังการลากราคา

มีอินไซด์หุ้น PSG หรือไม่ เป็นหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ต้องตรวจสอบ

 
ส่วน NUSA เป็นหุ้นร้อนอันดับที่ 43 ประจำปี 2564 ราคาพุ่งขึ้น 234% จากราคา 29 สตางค์ เมื่อสิ้นปี 2563 ขึ้นมาปิดที่ 97 สตางค์เมื่อสิ้นปี 2564 และขึ้นปีใหม่ NUSA ยังถูกลากขึ้นต่อ จนขึ้นมาปิดที่ 1.45 บาท

NUSA มีกลุ่มนายประเดช กิตติอิสรานนท์ นักลงทุนขาใหญ่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยนายประเดช เคยถือหุ้นใหญ่ในบริษัทหลายแห่ง แต่ถึงจุดหนึ่งขายทำกำไรทิ้ง

มีข่าวลือในกรุ๊ปไลน์บางแห่ง ระบุว่า NUSA กำลังเพิ่มทุน นำหุ้นแลกหุ้นบริษัท วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) โดยแลกหุ้นกับกับผู้ถือหุ้นรายย่อย WEH สัดส่วนประมาณ 11% ซึ่งจะทำให้กลุ่มนายประเดช คุมอำนาจเบ็ดเสร็จใน WEH

ต้องจับตาดูว่า เกมเล่นแร่แปรธาตุระหว่าง NUSA กับ WEH จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และหุ้น NUSA จะถูกลากไปสู่สวรรค์ชั้นฟ้าระดับใด

และหุ้น บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS เป็นหุ้นที่ร้อนแรงที่สุดประจำปี 2564 ราคาพุ่งทะยาน 6,688% จาก 1.93 บาท เมื่อสิ้นปี 2563 พุ่งมาปิดที่ 131 บาทในสิ้นปี 2564 และเข้าสู่ปี 2565 แรงยังไม่ตก เพราะราคาถูกลากต่อ

ระหว่างชั่วโมงซื้อขายวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา JTS ทะยานขึ้นไปสูงสุดที่ 185 บาท ก่อนจะปิดที่ 178 บาท หรือถ้าหากขยับขึ้นอีกเพียง 15 บาท หรือขึ้นมาที่ 193 บาท JTS จะสร้างประวัติศาสตร์เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทน 10,000% ภายในเวลาเพียง 1 ปีเศษ

จุดขายที่ JTS สร้างขึ้นมาเพียงการตั้งเหมืองขุดบิตคอยน์ขนาดใหญ่ โดยตั้งเป้าจะมีถึง 50,000 เครื่องในปี 2567 และเริ่มทยอยติดตั้งเครื่องขุดแล้ว

ไม่อาจประเมินได้ว่า การตั้งเหมืองบิตคอยน์ จะทำให้ผลประกอบการ JTS เติบโตเพียงใด แต่ราคาหุ้นพุ่งทะยานขึ้นมาล่วงหน้าแล้ว จนค่าพี/อี เรโช กระโจนไปที่ 755 เท่า และไม่รู้ว่า จะยังหลงเหลือแมงเม่าบินเข้าไปเล่นกับไฟหรือไม่

SABUY PSG NUSA และ JTS ยังรักษาฐานะความเป็นหุ้นร้อนที่นักลงทุนต้องระวังต่อไป แม้จะข้ามสู่ปีใหม่แล้วก็ตาม