JAS แจ้ง Q3 ขาดทุนลดเหลือ 370 ล้าน

Published on 2021-11-10   By ข่าวหุ้น

นายสุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2564 บริษัทและบริษัทย่อยมีผลขาดทุนสุทธิ  370 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 794 ล้านบาท และไตรมาสก่อน ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 910 ล้านบาท

ขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ไตรมาส 3/2564 อยู่ที่ 3,470 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มี EBITDA อยู่ที่ 3,040 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อน ที่มี EBITDA อยู่ที่ 3,278 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมในไตรมาส 3/2564 อยู่ที่ 5,031 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวม 4,843 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน ที่มีรายได้รวม 4,848 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้จากส่วนงานให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและอินเทอร์เน็ตทีวี 4,602 ล้านบาท รายได้จากส่วนงานจัดหา ออกแบบ และวางระบบสื่อสารและโทรคมนาคม 286 ล้านบาท และรายได้ส่วนงานอื่นและรายได้อื่น  143 ล้านบาท

โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/2564 มีจำนวนผู้ใช้บริการรวม 3.61 ล้านราย ซึ่งจะมียอดผู้ใช้บริการสำหรับลูกค้าทั่วไปในส่วนที่เป็น Fixed Broadband และที่สามารถเก็บเงินได้ ประมาณ 2.42 ล้านราย และมีรายได้เฉลี่ยต่อราย (ARPU) 595 บาทต่อเดือน

สำหรับเป้าหมายและแผนธุรกิจปี 2565 โดยสถานการณ์ของ Covid-19 เริ่มกลับมาดีขึ้นหลังจาก Lockdown เป็นเวลาหลายเดือน มีการปรับตัวให้อยู่กับ Covid-19 ให้ได้ หลาย ๆ หน่วยงานเริ่มให้พนักงานกลับเข้าออฟฟิศมากขึ้น แต่ก็ยังมีการทำงานแบบ WFH อยู่ ความต้องการในการใช้บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตยังมีต่อเนื่อง เพราะยังต้องทำงานที่บ้านหรือเรียนแบบ Online อยู่ อีกทั้งทางรัฐบาลเริ่มมีการเปิดรับนักท่องเที่ยว ภาคธุรกิจท่องเที่ยวเริ่มกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง บริการห้องพักต่าง ๆ กลับมาเปิดใช้บริการอินเทอร์เน็ต เพื่อรองรับลูกค้าที่จะมาเข้าพัก คาดว่าธุรกิจต่าง ๆ เริ่มฟื้นตัวต่อไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ในช่วง Covid-19 เป็นเวลาที่ทำให้บริษัทได้ปรับการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น เช่น มีการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อลดค่าใช่จ่ายที่ซ้ำซ้อน การเริ่มธุรกิจขุด Bitcoin เพิ่มช่องทางการหารายได้ รวมทั้งการหาเงินทุน โดยการออกหุ้นกู้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขยายงาน

โดยมีเป้าหมาย 1. ธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ โดย บริษัท จัสมิน เทคโนโลยีโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ที่ได้เริ่มทดลองขุด Bitcoin เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ที่จะก้าวเข้าสู่ธุรกิจนี้อย่างเต็มตัว เพราะรากฐานของธุรกิจเดิม ทำให้บริษัทต่อยอดได้เร็วขึ้น ส่งผลให้การขุด Bitcoin ให้ผลลัพธ์ที่ดี จึงมีแผนในการขยายเหมืองขุด Bitcoin โดยตั้งเป้าหมายจะเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจขุด Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก

2. ธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต ความต้องการในการใช้อินเทอร์เน็ตมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามเทคโนโลยีและการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้บริษัททำการขยายและปรับปรุงคุณภาพโครงข่ายให้ดีอยู่เสมอ เพื่อรองรับความต้องการให้ผู้ใช้บริการมีความพึงพอใจในคุณภาพอยู่เสมอ

3. ธุรกิจ IPTV มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงจะประสบปัญหาที่ Chipset ขาดตลาด ทำให้การขายชะลอตัวไปบางช่วง แต่ความต้องการของลูกค้าก็ไม่ได้ลดลง การทำ IPTV ส่งผลให้ลูกค้ามีการยกเลิกบริการอินเทอร์เน็ตลดลง ทำให้บริษัทตั้งเป้าหมายให้ลูกค้าใช้บริการมากขึ้น โดยการหา Premium Content ที่ตรงใจผู้ใช้บริการให้มากขึ้น อีกทั้งทำตัวเป็นช่องทางการเก็บเงินให้กับ Partner ด้าน Content เพิ่มมากขึ้น เช่น WeTV เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ และทำให้ลูกค้าไม่อยากยกเลิกบริการ นอกจากนี้จะหาช่องทางการเพิ่มรายได้จากสิทธิ์ของพรีเมียมคอนเทนต์ที่มีอยู่

4. ธุรกิจ OTT มีแผนการให้บริการ Smart Home ภายใต้ชื่อ 3BB GIGAHome ที่รวมผลิตภัณฑ์ด้าน Home Security และ IoT มาให้บริการ 5. กลุ่มลูกค้าองค์กร ตั้งเป้าทำรายได้เพิ่มจากเดิม 50-100% โดยมุ่งเน้นลูกค้าภาครัฐที่ทางบริษัทเคยทำธุรกิจร่วมกันมาก่อน รวมทั้งหน่วยงานที่บริษัทมีความสัมพันธ์ที่ดี เพื่อเป็นการเปิดช่องทางใหม่ในการหารายได้ และ 6. การลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จากการปรับโครงสร้าง การปรับการทำงานต่าง ๆ ที่ลดค่าใช้จ่าย แต่ประสิทธิภาพและประสิทธิผลยังคงเดิม เริ่มให้ผลชัดมากขึ้น บริษัทเห็นว่าเป็นนโยบายที่ดีจึงอยากให้มีการทำอย่างต่อเนื่อง