JAS รออีก 2 ปี พลิกฟื้นมีกำไร Q3 แจ้ง 10 พ.ย.

Published on 2021-11-01   By ข่าวหุ้น

“จัสมินฯ” เตรียมแจ้งงบไตรมาส 3/64 วันที่ 10 พ.ย.นี้ คาดขาดทุนลดเหลือ 718 ล้านบาท ขณะที่ลูกค้า 3BB พุ่งแตะ 3.64 ล้านราย ทั้งปี 64 ยังขาดทุน 2,330 ล้านบาท ส่วนปี 65 ขาดทุนลดเหลือ 1,234 ล้านบาท ก่อนจะพลิกกลับมามีกำไร 82 ล้านบาท ในปี 66

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) คาดการณ์บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS จะประกาศงบไตรมาส 3/2564 ในวันที่ 10 พ.ย. 2564 โดยประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานของ JAS ในไตรมาส 3/2564 จะมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 718 ล้านบาท (รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน) ขาดทุนลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 794 ล้านบาท และขาดทุนลดลงจากไตรมาสก่อน ที่มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 910 ล้านบาท

ทั้งนี้ หากไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน JAS จะมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ 680 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ 538 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนเส้นใยแก้วนำแสงที่เพิ่มขึ้น แต่ขาดทุนลดลงจากไตรมาสก่อน ที่มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ 847 ล้านบาท เป็นผลจากค่าใช้จ่ายการขาย และการตลาดที่ลดลง โดยผลขาดทุนจากการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 คิดเป็น 90.9% ของคาดการณ์ในปี 2564 ของ บล.กสิกรไทย ทำให้มีดาวน์ไซด์อยู่ประมาณ 10-15%

บล.กสิกรไทย คาดว่าในไตรมาส 3/2564 JAS จะมีลูกค้าที่ใช้บริการของ 3BB เพิ่มขึ้น 70,000 ราย ลดลง 6.8% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และลดลง 8% จากไตรมาสก่อน เป็นผลจากการล็อกดาวน์ ทำให้คาดการณ์ฐานลูกค้าที่ใช้บริการของ 3BB ทั้งหมดจะอยู่ที่ 3.64 ล้านราย เพิ่มขึ้น 6.2% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 2.1% จากไตรมาสก่อน ด้านรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายต่อเดือน (ARPU) คาดว่าลดลง 4.8% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และลดลง 1.3% จากไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ 414 บาท จากสงครามราคาในกลุ่มลูกค้าระดับแรกเริ่ม

ขณะที่รายได้จากลูกค้าที่ใช้บริการของ 3BB คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.3% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.8% จากไตรมาสก่อน และจากการคาดการณ์การเติบโตของการควบรวมของระบบ และเครือข่าย จะทำให้รายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 3/2564 จะอยู่ที่ 4,872 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 4,794 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 0.8% จากไตรมาสก่อน ที่มีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 4,834 ล้านบาท

บล.กสิกรไทย มองว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้จาก 3BB ที่ 1.3% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.8% จากไตรมาสก่อน ไม่ได้อยู่ในระดับที่แย่ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 3 อย่างไรก็ตาม คู่แข่งอย่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE และ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC น่าจะ Outperform JAS ประกอบกับยังมองว่ากลยุทธ์ด้านการบริการ เช่น บริการมือถือ และดิจิทัลคอนเทนต์ทำให้เป็นเรื่องยากของ JAS ที่จะได้ลูกค้าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

ขณะเดียวกัน คาดว่าผลขาดทุนจากการดำเนินงานปี 2564 จะอยู่ที่ 2,330 ล้านบาท และปี 2565 จะมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานลดลงเหลือ 1,234 ล้านบาท จากนั้นในปี 2566 คาดว่าจะพลิกเป็นกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 82 ล้านบาท

สำหรับการออกหุ้นกู้ 3BB อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.25% ต่อปี เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564 จะช่วยให้ตลาดคลายกังวลเรื่องสภาพคล่องได้ชั่วคราวจากแนวโน้มผลการดำเนินงานขาดทุนในอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้า อย่างไรก็ตาม บล.กสิกรไทย มองว่า JAS ที่มีมูลค่าต่ำอาจไม่อยู่ในตำแหน่งที่ดีสำหรับการจ่ายปันผลในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

บล.กสิกรไทย คงคำแนะนำ “ถือ” ที่ราคาเป้าหมาย 2.88 บาท/หุ้น อย่างไรก็ตาม อาจมีเซอร์ไพรส์ในการประกาศงบ หาก 1. มีการควบคุมต้นทุนที่ดี และ 2. ผลกระทบจากการปรับใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 16 เรื่อง สัญญาเช่า

(TFRS 16) ลดลง นอกจากนี้ ยังมองว่า JAS จะยังไม่ประสบปัญหาด้านสภาพคล่องจนกระทั่งเกิดการบันทึกค่าสินไหมทดแทนเรียกเก็บทันที (cash call) ในขณะนี้ จากอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ 1.4 เท่า ทำให้ยังสามารถกู้ยืมได้อีกบนพื้นฐานที่ว่าธุรกิจ 3BB ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19