JTS ยันไม่มีหนี้สูญในงบการเงิน ผลขาดทุนด้านเครดิต237ล้าน

JTS ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลูกหนี้การค้า-กิจการที่ไม่เกี่ยวข้องกัน และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดจะเกิดขึ้น 237 ล้านบาท ยันไม่มีหนี้สูญเกิดขึ้นในงบการเงิน

นายดุสิต ศรีสง่าโอฬาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JTS เปิดเผยถึงกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลูกหนี้การค้า-กิจการที่ไม่เกี่ยวข้องกัน และการบันทึกค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ผลขาดทุนด้านเครดิตฯ) จำนวน 237 ล้านบาท ตามหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 3 ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น ณ วันที่ 30 มิ.ย.2564 นั้นว่า บริษัทได้จัดทำงบการเงินรวมย้อนหลังภายหลังการเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด (JasTel) แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2564 เพื่อประโยชน์ของการเปรียบเทียบ เพื่อสะท้อนฐานะการเงิน ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทภายใต้การควบคุมเดียวกัน ทำให้มีการรับรู้รายการในงบแสดงฐานะการเงินและงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทขอชี้แจงตามลำดับตามที่ ตลท. สอบถามดังนี้ 1. ลูกหนี้การค้า-กิจการที่ไม่เกี่ยวข้องกัน และมีการบันทึกค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 237 ล้านบาท ประกอบด้วย ลูกหนี้การค้า บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) หรือ TT&T มีการบันทึกผลขาดทุนด้านเครดิตฯ จำนวน 179.4 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2555 เนื่องจากบริษัทดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ และตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบันยังมีสถานะอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายล้มละลาย โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

และลูกหนี้การค้าประเภทนิติบุคคล จำนวน 430 ราย ของ JasTel ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทได้มีการบันทึกผลขาดทุนด้านเครดิตฯ จำนวน 57.5 ล้านบาท ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 เรื่อง เครื่องมือทางการเงิน ที่มีการประกาศใช้ตั้งแต่ปี 2563 โดยคำนวณอัตราส่วนการผิดนัดชำระหนี้ (Default Rate) แบบอัตราการเลื่อนชั้นอายุของชั้นลูกหนี้ (Rolling Credit Rate Method) อย่างไรก็ตาม ลูกหนี้การค้า-กิจการที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับผู้ถือหุ้นใหญ่ (ultimate Shareholder) คณะกรรมการ ผู้บริหาร แต่อย่างใด

2. ผลขาดทุนด้านเครดิตฯ ที่เพิ่มขึ้นมาจากลูกหนี้การค้าของ JasTel ที่ยังมีธุรกรรมทางการค้าและการจ่ายชำระเงินกันตามปกติ ยกเว้นลูกหนี้การค้าเพียง 1 ราย มูลหนี้ จำนวน 15.1 ล้านบาท ที่ได้ดำเนินการฟ้องร้องและอยู่ระหว่างการบังคับคดี โดยทาง JasTel มีนโยบายในการติดตามหนี้ เมื่อครบกำหนดชำระหนี้ ทางฝ่ายบัญชีจะออกจดหมายติดตามหนี้ ครั้งที่ 1 และเมื่อเกินกำหนดชำระหนี้ตั้งแต่ 2 เดือน ทางฝ่ายบัญชีจะแจ้งฝ่ายกฎหมาย เพื่อออกหนังสือบอกกล่าวให้ชำระหนี้ (Notice) พร้อมกับการระงับการให้บริการชั่วคราว

สำหรับกระบวนการทั้ง 2 ขั้นตอน จะมีการติดตามหนี้ผ่านทางโทรศัพท์และอีเมลไปพร้อมกัน อีกทั้งลูกหนี้การค้าดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประเภทนิติบุคคลที่ใช้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อลูกค้าบางราย การประนีประนอมเพื่อให้ได้รับชำระเงินที่ค้างหรือการจ่ายชำระล่าช้าบ้าง จึงเป็นแนวทางที่ให้ประโยชน์ต่อทางบริษัทมากกว่า  และ 3. ตามนโยบายและกระบวนการในการติดตามหนี้ดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ทางกลุ่มบริษัทไม่มีหนี้สูญเกิดขึ้นในงบการเงินแต่อย่างใด