JASIFโชว์ "3BB"โตสวน มั่นใจยีลด์ปีนี้อยู่ที่ 10.3%

Published on 2021-06-16   By ข่าวหุ้น

ผู้จัดการกองทุน JASIF ย้ำไตรมาส 2 งบสวย ปัญหาโควิดไม่กระทบกับสัญญาเช่า ส่วน 3BB เติบโตพุ่งจากนโยบาย Work from Home พร้อมย้ำ Dividend Yield ของปี 64 จะเทียบเท่าของปีก่อนที่ระดับ 10.3%

นายวสุ หาญนันทอนันต์ Senior Manager Real Estate Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2564 ไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 โดยรายได้ยังคงที่ เนื่องจากเป็นสัญญาเช่าที่ระบุอัตราค่าเช่าล่วงหน้า (Fixed Rate) ประกอบกับธุรกิจ 3BB ของบริษัทย่อย บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (TTTBB) มีการเติบโตจากนโยบาย Work from Home

สำหรับความคืบหน้าของการให้บริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียม (Satellite Internet) จากการศึกษาในปัจจุบัน แพ็กเกจมีราคาเริ่มต้นที่ 100 USD/เดือน เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยปัจจุบันของรายได้เฉลี่ยของผู้ให้บริการต่อลูกค้าหนึ่งคน (Average Revenue Per User : ARPU) ในส่วนของออฟฟิศบรอดแบนด์ในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 19-21 USD/เดือน ซึ่ง JASIF มองว่าตลาดประเทศไทยยังไม่สามารถแข่งขันด้านอินเทอร์เน็ตดาวเทียมได้ ถึงแม้ราคาจะลดลงแต่ยังถือว่าสูงกว่าราคาค่าเฉลี่ยอินเทอร์เน็ตบ้านของไทยถึงประมาณ 5 เท่า

ด้านสัญญาประกันรายได้ค่าเช่าของทาง JASIF 1 หากจบสัญญาลง มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ก็จะลดลงตามไปด้วย โดยขณะนี้ทาง JASIF พยายามหาผู้เช่ารายอื่นเพิ่มเติม หรืออาจกลับไปต่อสัญญาประกันรายได้ค่าเช่ากับทาง บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS หรือทางบมจ.ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTTBB)

ส่วนการบริหารความเสี่ยงหาก JAS ผิดสัญญาเช่า ตามสัญญาตกลงการทำการได้มีการระบุสัดส่วน (Ratio) ไว้ หากไม่สามารถทำได้ ทาง JAS หรือ TTTBB จะต้องนำเงินมาวางไว้ในแอคเคาท์ที่เปิดไว้ด้วยกัน และหาก JAS หรือ TTTBB ผิดสัญญาเช่า ทางกองทุนจะนำเงินนั้นมาชำระเป็นค่าเช่าแทน ทั้งนี้หากเงินไม่เพียงพอจะต้องมีการดำเนินตามกฎหมายต่อไป

ในกรณีที่ทาง TTTBB ไม่สามารถทำรายได้ถึง 40,000 ล้านบาท และไม่เช่าสินทรัพย์เส้นใยแก้วนำแสง (Optical Fiber Cables : OFC) กับทาง JASIF ต่อ ทางกองทุนจะทำการหาผู้เช่ารายอื่นต่อไป หรือหากทาง TTTBB ยังอยากประกอบธุรกิจต่อ จะต้องมีการเจรจากัน เช่นอาจมีการลดราคาลง ทั้งนี้ยังเหลือระยะเวลาอีกกว่า 10 ปี จึงต้องรอดูสถานการณ์ในอนาคตต่อไป

นายสิวานัท กังวลทรัพย์ Manager Real Estate Infrastructure Investment บลจ.บัวหลวง กล่าวว่า ในปี 2564 JASIF จะมีการจ่ายคืนเงินกู้รวม 800 ล้านบาท จากปีที่แล้วจ่ายไป 300 ล้านบาท ซึ่งทำให้มีการใช้จ่ายกระแสเงินสดมากขึ้น ส่วน Dividend Yield คาดปี 2564 เทียบเท่าของปีที่แล้วที่ 10.3%

นอกจากนี้ กองทุนมีการกู้ยืมเงินในส่วนเพิ่มทุนของ JASIF โดยมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate) ทำให้กองทุนได้รับผลประโยชน์จากสถานการณ์ดอกเบี้ยต่ำ จากอัตราเงินกู้ที่ทำสัญญาตอนกู้ 6% ปัจจุบันเหลือที่ 5.25% ในขณะเดียวกันข้อมูลจากกระทรวงการคลังในปี 2564 ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index : CPI) คาดว่าจะมีการเติบโต 1.4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ติดลบประมาณ 0.8% จึงมีโอกาสที่ค่าเช่าจะปรับเพิ่มขึ้นได้ในปีถัดไป