โบรกเตือนหุ้น JAS ขึ้นแรงเกินพื้นฐาน

Published on 2021-06-15   By กรุงเทพธุรกิจ

กรุงเทพธุรกิจ "แจส" กอดคอ "จัสมินฯ" ราคาพุ่ง  "บล.ยูโอบีฯ" ชี้หุ้นแม่มีลุ้นกลับมากำไร-ปันผลเร็วกว่าคาด จากกระแสข่าวลดต้นทุน แต่ไม่แนะนำลงทุน เหตุราคาพุ่งแรงเกินพื้นฐาน "บล.เมย์แบงก์ฯ" ให้กรอบเก็งกำไร JAS 3.14-3.50 บาท แต่ไม่แนะนำเทรดหุ้นลูก

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นวานนี้ (14 มิ.ย.) บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าและ ทำจุดสูงสุดที่ 3.52 บาท เพิ่มขึ้น 18.91% ก่อนจะย่อตัวมาปิดที่ 3.38 บาท เพิ่มขึ้น 0.42 บาท หรือ 14.19% และ บมจ.จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ (JTS ) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยราคาขึ้นแรงเช่นกัน ทำจุดสูงสุดที่ 20.80 บาท เพิ่มขึ้น 25.30% ก่อนที่จะย่อมาปิดที่ 18.40 บาท

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และ นักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การปรับขึ้นของหุ้น JAS และ JTS คาดว่าเป็นการเก็งกำไรจากกระแสข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของบริษัท ภายหลัง JAS มีรายงานเกี่ยวกับการปรับปรุงการคำนวณค่าใช้จ่ายของบริษัท ซึ่งจะหนุน ให้ต้นทุนค่าตัดจำหน่ายลดลงปีละ ประมาณ 500-700 ล้านบาท จากปี 2563 ที่บริษัทเผชิญผลขาดทุน3,125.75 ล้านบาท จากการบังคับใช้มาตรฐานทางบัญชีใหม่ที่ส่งผลให้บริษัทมีการบันทึกค่าใช้จ่ายตัดจำหน่ายที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ผลขาดทุนทางบัญชี เดิมนักวิเคราะห์คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 ปี จึงจะสามารถพลิกกลับมาทำกำไร แต่หากเป็นไปตามรายงานข่าวที่ จะช่วยให้ ผลการดำเนินงานของบริษัทกลับมามีกำไรได้เร็วกว่าที่ตลาดคาดเอาไว้ และจะส่งผลให้บริษัทสามารถกลับมา จ่ายปันผลได้ จากในอดีตหุ้น JAS เป็นหุ้นที่มีการจ่ายปันผลโดดเด่น

อย่างไรก็ดี สำหรับ JTS ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน รวมถึง ปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง จึงมองราคาหุ้นวานนี้ที่ปรับขึ้นกว่า 10% เป็นการปรับขึ้นอย่างไม่สมเหตุสมผล โดยกลยุทธ์ การลงทุน ไม่แนะนำลงทุนทั้ง 2 บริษัท เพราะราคาหุ้นปรับขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว อีกทั้งกระแสข่าวหนุน JAS ยังไม่มีการยืนยันจากบริษัทอย่างเป็นทางการ

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า สำหรับภาพการลงทุนเชิงเทคนิค พบว่า JAS ราคาหุ้นปรับขึ้น ทะลุเส้นค่าเฉลี่ย (EMA) 200 วัน และทะลุแนวต้านต้นปี 3.30 บาทต่อหุ้น มาทำจุดสูงสุดวานนี้ที่ 3.52 บาทต่อหุ้น รวมถึงมีมูลค่า การซื้อขายค่อนข้างสูงประมาณ 5.2 พันล้านบาท แนะนำกรอบเก็บกำไร 3.14-3.50 บาทต่อหุ้น ส่วน JTS ไม่แนะนำซื้อเก็งกำไร เพราะราคาหุ้นปรับขึ้นและลงเร็วเกินไป โดยวานนี้ ปรับขึ้นทดสอบจุดสูงสุดที่ 20.80 บาท ในช่วงเช้า แต่ถูกขายทำกำไรออกมาทันทีในช่วงบ่าย