วอลุ่มแน่นยังมีสัญญาณดี

ธวัชชัย ฐิติวณิชภิวงศ์
          การอ่อนตัวของดัชนีตลาดวานนี้ นักเก็งกำไรอาจจะเกิดความวิตกกลัวตลาดจะดิ่งลง ซึ่งเป็นความคิดและอารมณ์ของการเก็งกำไรที่มักจะยึดหลักว่า ตลาดแข็งจริงจะต้องเคลื่อนตัวในทิศทางเดิม หมายความว่าเมื่อมีการปรับตัวขึ้นแล้วจะต้องขึ้นไปได้เรื่อยๆ จึงจะมองว่าดีจริง ดูจะเป็นการคาดหวังที่เกินจริง เพราะไม่มีใครที่จะมีเงินอย่างไม่อั้น โดยเฉพาะการเข้ามาลงทุนหรือเก็งกำไรจะต้องมีการพักหรือการปรับฐานเป็นระยะๆ จะให้เดินหน้ากันไปเรื่อยๆ ไม่ต้องหยุดคงเป็นไปไม่ได้ แต่การเก็งกำไรกลับคิดว่าต้องไม่มีการหยุดพัก ถ้าหยุดแสดงว่าไม่แน่จริง ไม่มีกำลังมากพอที่จะดันตลาดให้ไปต่อ จึงมองเป็นทางลบกับตลาดก็จะออกมาเชียร์ให้ขาย
          แต่ในความเป็นจริงเมื่อตลาดหรือราคาหุ้นมีการขยับปรับขึ้นมานานระดับหนึ่งแล้ว หากคิดด้วยหลักการลงทุนที่ดีก็คงจะต้องมีการหยุดหรือผ่อนแรงซื้อลงบ้าง เพราะการลงทุนจะต้องพิจารณาความคุ้มค่าจากผลตอบแทนในการลงทุนเช่นกัน หากราคาหุ้นปรับขึ้นสูง ผลตอบแทนจากเงินปันผลก็ย่อมจะลดลงจึงอาจเกิดความไม่คุ้มค่ากับการลงทุนต่อไป แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เมื่อราคาหุ้นที่เคยอยู่ต่ำกว่าความเป็นจริงมากๆ แค่ราคาเริ่มปรับขึ้นก็จะด่วนสรุปว่าราคาสูงหรือแพงเกินไปไม่ได้ ต้องกลับไปประเมินอัตราผลตอบแทนเสียก่อนจึงจะรู้ว่าราคาระดับใดที่จะทำให้ความคุ้มค่าหมดไป หากราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมายังอยู่ระดับต่ำกว่าความเป็นจริงย่อมจะเลือกลงทุนได้ต่อไป เพียงแต่คิดในมุมของ การเก็งกำไรจะต้องมีรอบหรือเท่ากับจะมีการขายจากการเก็งกำไร ทำให้นักลงทุนสามารถเลือกจังหวะของรอบการเก็งกำไร เพื่อเลือกลงทุนได้ดีกว่า จึงอาจมีการชะลอการลงทุนบางจังหวะแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าราคาหุ้นสูงจนไม่น่าลงทุน
          ดูจากสภาวะตลาดปัจจุบันที่ยังมีวอลุ่มหนาแน่นมาก ยังมีการซื้อขายกันมากกว่าแสนล้านบาท แสดงว่าตลาดสมบูรณ์ดี มีคนขายก็ยังมีคนซื้ออยู่ตลอดเวลา แต่เนื่องจากปัจจุบันกำลังเข้าสู่เทศกาลปลายปี นักลงทุนต่างชาติอาจเริ่มชะลอการลงทุน ทำให้ตลาดอาจซึมลงบ้าง แต่คงไม่ถึงกับทำให้ตลาดเงียบเหงา เชื่อว่ายังคงมีลุ้นกันได้ต่อไป และการอ่อนตัวของดัชนีก็เป็นแค่การปรับฐานในระยะสั้นเท่านั้น มองตลาดยังมีลุ้นและเลือกลงทุนได้
          ส่วนกลุ่มหุ้นที่น่ามองในกลุ่มอสังหาฯ ยังมองว่าธุรกิจฟื้นตัวมากขึ้น น่ามองที่ SPALI , NVD และ QH กลุ่มธนาคารราคามีการอ่อนตัวจากการเก็งกำไร แต่ธุรกิจยังดูดี ทำให้ยังน่ามอง ไม่ว่าจะเป็น BBL , KBANK และ KKP กลุ่มไฟแนนซ์ วอลุ่มตลาดหนาอย่างนี้ ธุรกิจมีโอกาสทำรายได้มาก จึงน่ามองที่ BFIT , AEONS และ KTC กลุ่มไอซีทีธุรกิจก็ยังเติบโตดี น่ามองที่ DTAC , JAS และ SYNEX หุ้นรายตัวที่น่ามองมี ILM , BCP และ SCC เป็นต้นดัชนียังคงจะผันผวนต่อไป ยิ่งตลาดยังมีวอลุ่มหนา ตลาดก็ผันผวนได้มาก แต่นั่นคือโอกาสของการลุ้นและลงทุนได้ดีไปด้วย จึงควรเลือกจังหวะในการลงทุนต่อไป.