JASได้เงิน942ล้านบาท แปลงวอร์219ล้านหน่วย

“JAS” รับทรัพย์กว่า 942.50 ล้านบาท หลังผู้ถือหุ้นแปลงสิทธิ JAS-W3 ครั้งสุดท้าย 219.31 ล้านหน่วย หรือเกิดหุ้นใหม่  277.86 ล้านหุ้น ฟาก “พิชญ์” ยืนยันไม่ได้แปลง JAS-W3 ที่ถือกว่า 900 ล้านหน่วย เหตุไม่ต้องการให้เกิดไดลูท และรักษากำไรต่อหุ้นให้สูงขึ้น
          นางสาวสายใจ คีตสิน รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยถึงผลการใช้สิทธิแปลงสภาพใบสําคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 3 (JAS-W3) ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2563 ที่ผ่านมาว่า มีการใช้สิทธิแปลงสภาพ JAS-W3 จำนวน 219,306,057 หน่วย ในอัตราการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิฯ (วอร์แรนต์) 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทได้ 1.267 หุ้น ในราคาใช้สิทธิหุ้นละ 3.392 บาท ส่งผลให้มีหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิ จำนวน 277,860,307 หุ้น และทำให้บริษัทได้รับเงินจากแปลงสิทธิ JAS-W3 อยู่ที่ 942,502,161 บาท
          นอกจากนี้ เหลือใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิ จำนวน 950,106,619 หน่วย และคงเหลือหุ้นที่รองรับการใช้สิทธิ จำนวน 1,116,079,625 หุ้น ซึ่ง JAS-W3 พ้นสภาพเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนของใบสําคัญแสดงสิทธิเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2563
          ด้านนายพิชญ์ โพธารามิก ผู้ถือหุ้นใหญ่ JAS เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ตนเองยืนยันไม่ได้ใช้สิทธิแปลงสภาพ JAS-W3 ที่ถืออยู่จำนวนประมาณ 900 ล้านหน่วย ในวันที่ 3 ก.ค. 2563 ซึ่งเป็นวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย เพราะไม่ต้องการทำให้ไม่ต้องเกิดหุ้นเพิ่มใหม่อีก 1,000 กว่าล้านหุ้น และไม่เกิดการไดลูทในอนาคต ซึ่งจะทำให้กำไรต่อหุ้นสูงขึ้น ตามที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้
          “ผมไม่ได้ใช้สิทธิแปลงสภาพ JAS-W3 ที่ถืออยู่ประมาณ 900 ล้านหน่วย ในวันใช้สิทธิครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา เพราะต้องการทำตามคำพูดที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ เพราะไม่ต้องการให้เกิดไดลูทจากการเกิดหุ้นใหม่อีก 1,000 กว่าล้านหุ้นที่มาจากการแปลงวอร์แรนต์ดังกล่าว” นายพิชญ์ กล่าว
          ก่อนหน้านี้ นายพิชญ์ เคยกล่าวว่า ปัจจุบัน JAS  มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว และการที่ตนเองไม่แปลง JAS-W3 ที่ถืออยู่ประมาณ 900 ล้านหน่วยก็จะทำให้ไม่ต้องเพิ่มหุ้นใหม่เข้ามาอีก และทำให้กำไรต่อหุ้นสูงขึ้น
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (9 ก.ค. 2563) ความเคลื่อนไหวหุ้น JAS เปิดตลาดที่ราคา 3.60 บาท โดยระหว่างวันราคาปรับขึ้นไปสูงสุดที่ราคา 3.68 บาท และลดลงต่ำสุดที่ราคา 3.58 บาท ก่อนจะมาปิดตลาดที่ราคา 3.62 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 1.12% มูลค่าการซื้อขายรวม 243.94 ล้านบาท