TRUEแจ้งQ1ดีกว่าคาด พลิกขาดทุนแค่161ล้าน

 “ทรู” ดีกว่าคาด! แจ้งงบไตรมาส 1/63 พลิกขาดทุนสุทธิแค่ 161 ล้านบาท เหตุรับผลกระทบจากการใช้มาตรฐานบัญชี TFRS 16 ประมาณ 200 ล้านบาท ขณะที่รายได้บริการเพิ่มขึ้น 3% แตะ 26,581 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของทรูมูฟ เอช ดันฐานลูกค้ารวมพุ่ง 30.3 ล้านราย ส่วนราคาหุ้นพุ่งแรง 3.77%
          นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 กลุ่มทรูมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 161 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,509 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบเชิงลบจากการปรับมาใช้มาตรฐานบัญชี TFRS 16 ประมาณ 200 ล้านบาท ทั้งนี้ หากไม่รวมผลกระทบจากมาตรฐานบัญชีดังกล่าว ในไตรมาส 1/2563 กลุ่มทรูจะมีกำไร 48 ล้านบาท
          ขณะที่รายได้จากการให้บริการโดยรวมของกลุ่มทรู ในไตรมาส 1/2563 อยู่ที่ 26,581 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 25,813 ล้านบาท ส่วนใหญ่จากการเติบโตของทรูมูฟ เอช โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระบบรายเดือนที่เติบโตทั้งด้านรายได้นอนวอยซ์ และจำนวนผู้ใช้บริการ แต่ลดลง 2.3% จากไตรมาสก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 27,210 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมาตรการ Lockdown ทำให้การจัดงานอีเวนต์ต่าง ๆ ถูกเลื่อนออกไป ส่งผลให้ทั้งรายได้และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องลดลงเช่นกัน ทั้งนี้ รายได้จากการให้บริการหลักของกลุ่มทรูไตรมาส 1/2563 อยู่ที่ 25,813 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อน
          “แนวโน้มความต้องการใช้บริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตของทรูออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มีการประกาศมาตรการ lock down ในปลายไตรมาส 1/2563 โดยกลุ่มทรูเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตผ่านพฤติกรรมผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่มีแนวโน้มการใช้ชีวิตแบบดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น ทำให้วิกฤติครั้งนี้ช่วยเร่งให้กลุ่มทรูยิ่งสามารถเติบโต” นายอาณัติ กล่าว
          นายสฤษดิ์ จิณสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) TRUE กล่าวว่า ในไตรมาส 1/2563 ทรูมูฟ เอช มีรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 20,094 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.2% จากไตรมาสก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 19,103 ล้านบาท เนื่องจากเครือข่ายคุณภาพสูงและการมีพันธมิตรทางธุรกิจด้านช่องทางการขายและจัดจำหน่ายที่มีอยู่ทั่วประเทศ ทำให้ ทรูมูฟ เอช มีจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิในกลุ่มลูกค้าระบบรายเดือน 300,000 ราย ส่งผลให้ฐานผู้ใช้บริการรวมมีจำนวน 30.3 ล้านราย แบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าระบบรายเดือน 8.6 ล้านราย และกลุ่มลูกค้าระบบเติมเงิน 21.7 ล้านราย
          สำหรับรายได้จากการให้บริกาของทรูออนไลน์ในไตรมาส 1/2563 อยู่ที่ 9,101 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 8,831 ล้านบาท หนุนโดยการเติบโตของรายได้จากบริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต แต่ลดลง 4% จากไตรมาสก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 9,477 ล้านบาท จากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท ทรู ทัช ซึ่งให้บริการคอนแทคเซ็นเตอร์ ในเดือน ธ.ค. 2562 ส่งผลให้ทั้งรายได้และต้นทุนที่เกี่ยวข้องปรับตัวลดลง
          โดยรายได้จากการให้บริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตในไตรมาส 1/2563 อยู่ที่ 6,529 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.7% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 6,238 ล้านบาท จากผลตอบรับที่ดีต่อแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 1Gbps รวมถึงแพ็กเกจคอนเวอร์เจนซ์ที่ผสานคอนเทนต์คุณภาพผ่าน TrueID TV ได้อย่างคุ้มค่า ทำให้ทรูออนไลน์มีฐานผู้ใช้บริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเป็น 3.9 ล้านราย ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิ 55,000 รายในไตรมาส 1/2563
          ขณะที่ทรูวิชั่นส์มีรายได้จากการให้บริการในไตรมาส 1/2563 อยู่ที่ 2,613 ล้านบาท ลดลง 9.7% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 2,894 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้การจัดงานอีเวนต์บันเทิงและรายการกีฬาสดต่าง ๆ ถูกเลื่อนออกไป ส่งผลให้ทั้งรายได้และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องลดลงเช่นกัน โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2563 ทรูวิชั่นส์มีฐานลูกค้าประมาณ 4 ล้านราย
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น TRUE เมื่อวานนี้ (18 พ.ค. 2563) ระหว่างวันราคาปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 3.34 บาท ปรับลงต่ำสุดที่ 3.18 บาท ก่อนปิดตลาดที่ 3.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท หรือปรับเพิ่มขึ้น 3.77% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 675.39 ล้านบาท หลังแจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 ที่มีขาดทุนสุทธิ 161 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าที่โบรกเกอร์คาดการณ์ว่าจะมีขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 500 ล้านบาท ทำให้มีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาตลอดทั้งวัน