Work@Homeโอกาสพัฒนาทักษะ"DIGITAL"

Published on 2020-03-23   By BUSINESS TODAY

การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ Covid-19 กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงกับหน่วยราชการให้คุ้นเคยกับการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการทำงานประจำวัน เมื่อรัฐบาลให้หน่วยงานราชการหันมาทำงานแบบ "Work @ Home"
          แม้ว่าเทคโนโลยีการสื่อสารสมัยใหม่ ทำให้รูปแบบการทำงานเปลี่ยนไปแล้ว โดยเฉพาะภาคธุรกิจและคนที่ชอบทำงานนอกระบบประเภทฟรีแลนซ์ แต่สำหรับส่วนราชการที่คุ้นเคยกับระบบยึด "พื้นที่-เวลา" เป็นกรอบในการทำงาน มักจะใช้เทคโนโลยีไม่เต็มประสิทธิภาพมากนัก มีเฉพาะบางหน่วยงานเท่านั้น
          หน่วยงานรัฐบาลส่วนมากมักใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในขั้นของการเผยแพร่ข้อมูลและบริการประชาชนในระดับพื้นฐาน มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ใช้เพื่อปฏิบัติราชการจริง
          แต่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดการ
          "ตื่นตัว" Work @ Home ในวงกว้างออกไปยิ่งขึ้น และอาจทำให้
          "ความฝัน" ของประเทศไทยที่ต้องการผลักดันให้เกิด "รัฐบาลดิจิทัล" เป็นจริงขึ้นมาได้ เมื่อบุคลากรมีการเรียนรู้เทคโนโลยีครั้งใหญ่
          พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม บอกว่า ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติงานนอกสถานที่ให้สามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา และเป็นการสร้างโมเดลการทำงานของราชการรูปแบบใหม่ในยุคดิจิทัล สู่การเป็น "รัฐบาลดิจิทัล" ในอนาคต
          แต่เพื่อให้การทำงานนอกสถานที่เป็นจริงขึ้นมาได้ จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนด้วย โดยเฉพาะผู้ให้บริการโทรคมนาคม  6 ราย คือ CAT, TOT, AlS, TRUE, DTAC, 3BB และผู้ให้บริการ แอปพลิเคชัน 4 ราย คือ ClSCO, Microsoft, Google และ Line
          พุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า ผู้ให้บริการ แอปพลิเคชันจะสนับสนุนระบบการประชุมออนไลน์เพื่อการปฏิบัติงานนอกสถานที่ผ่านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ทั้ง iOS และ Android โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายให้แก่หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ
          สำหรับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต จะยกเว้นค่าบริการอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ให้กับผู้ที่ลงทะเบียนยืนยันเข้าร่วมโครงการ ทั้ง Fixed Broadband และ Mobile Broadband เมื่อเรียกใช้งาน ผ่าน Range lP Address และ URL ตามที่กำหนด
          สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ (สดช.) เป็นศูนย์กลางให้คำปรึกษาในเบื้องต้น โดยจัดทำคู่มือการปฏิบัติราชการนอกสถานที่ และคู่มือการใช้งานแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานได้ทันที
          หากส่วนราชการใดมีความประสงค์ที่จะใช้แอปพลิเคชันสามารถลงทะเบียนได้ที่ www.onde.go.th
          ไม่เพียงส่วนราชการเท่านั้นที่หันมาทำงานนอกสถานที่ ภาคธุรกิจและคนทั่วไปก็มีการใช้งานมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์การระบาดเริ่มรุนแรงขึ้น
          ฐากร ตัณฑสิทธิ์
          เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) ในฐานะผู้ดูแลบริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์และโทรศัพท์เคลื่อนที่ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตมือถือ บอกว่า ได้เตรียมรองรับการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นในช่วงการระบาด หลังจากรัฐบาลออกนโยบายทำงานนอกสถานที่ หรือ Work from Home
          กสทช. ได้ย้ำกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทุกรายต้องรักษาคุณภาพของการให้บริการไว้ให้เป็นปกติตามที่ประชาชนได้ซื้อ แพ็กเกจไว้ แม้จะมีประชาชนใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้น และต้องดูแลระบบ เพื่อไม่ให้กระทบกับการทำงาน
          จากข้อมูลในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่า มีการทำงาน Work @ Home มากขึ้น อีกทั้งไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมีปริมาณมากขึ้น เช่น ดูหนัง ดูซีรี่ส์ ผ่านอินเทอร์เน็ต กสทช. ขอความร่วมมือจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทุกรายเตรียมความพร้อมเพิ่ม Capacity เพื่อรองรับการใช้งาน
          "สำนักงาน กสทช. และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งให้บริการอินเทอร์เน็ตมือถือทุกราย พร้อมให้ความร่วมมือสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล เพื่อลดความเสี่ยงในช่วงเวลาระบาดของเชื้อโควิด-19 ในขณะนี้"
          เมื่อสิ้นปี 2562 มีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ 126.01 ล้านเลขหมาย ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต 50.08 ล้านราย และบรอดแบนด์ 10.10 ล้านราย
          แม้ขณะนี้คนไทยเผชิญกับวิกฤติ แต่ก็นับเป็น "โอกาส" ในการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีเพื่อใช้ในการทำงานใน วงกว้างออกไปอย่างแท้จริง

          'Covid-19 กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงกับหน่วยราชการให้คุ้นเคยกับการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการทำงานประจำวัน เมื่อรัฐบาลให้หน่วยงานราชการหันมาทำงานแบบ "Work @ Home"'

          'การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดการ"ตื่นตัว" work @ Home ในวงกว้างออกไปยิ่งขึ้น และอาจทำให้ "ความฝัน" ของประเทศไทยที่ต้องการผลักดันให้เกิด "รัฐบาลดิจิทัล" เป็นจริงขึ้นมาได้'