JASแจ้งงบพร้อมปันผล คาดจ่ายมากกว่า1บาท JASIFแจ้งงบปลายสัปดาห์นี้ ลุ้นปันผล0.19บาท

“JAS” เตรียมประชุมบอร์ดกลางเดือนนี้ คาดแจ้งงบปี 62 พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผล คาดจ่ายปันผลมากกว่า 1 บาท จากกำไรจากการดำเนินงานและกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้า JASIF โบรกฯคาด JAS จ่ายปันผลหุ้นละ 1.72 บาท ฟาก JASIF คาดแจ้งงบปี 62 ปลายสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้า พร้อมลุ้นจ่ายปันผล 0.19 บาทต่อหน่วย           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS  วานนี้ (3 ก.พ. 2563) ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง 7.92% มาปิดตลาดที่ราคา 5.45 บาท บวกเพิ่มขึ้น 0.40 บาท ตามแรงซื้อเก็งกำไรของนักลงทุนเพื่อรอรับข่าวดีในเดือน ก.พ. 2563 นี้ ที่เตรียมประกาศผลการดำเนินงานปี 2562 พร้อมจ่ายเงินปันผล โดยการซื้อขายระหว่างวันปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ราคา 5.50 บาท มูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 615.53 ล้านบาท           แหล่งข่าววงการเงิน เปิดเผยว่า ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2563 บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เพื่อพิจารณาอนุมัติผลการดำเนินการงวดปี 2562 และพิจารณาจ่ายเงินปันผล ซึ่งคาดว่าจะประกาศงบการเงินและจ่ายปันผลพร้อมกัน คาดการณ์ว่า JAS จะจ่ายปันผลมากกว่า 1 บาท/หุ้น           โดย JAS จะนำกำไรจากการดำเนินงานและกำไรพิเศษหลังขายสินทรัพย์เข้ากอง JASIF เข้ามาพิจารณาในการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเคยประเมินว่า JAS จะมีบันทึกกำไรพิเศษจากการทำรายการดังกล่าวประมาณ 6,996-8,500 ล้านบาท และนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า JAS จะจ่ายปันผลพิเศษอัตราหุ้นละ 1.72 บาท           ก่อนหน้านี้ JAS รายงานผลสำเร็จของการเข้าทำธุรกรรมกับ JASIF ตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นบริษัท เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2562 โดยธุรกรรมการขายทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มนั้น ทางบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB (ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท) ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายทรัพย์สินส่วนเพิ่มกับ JASIF เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2562 เพื่อขายทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มจำนวน 700,000 คอร์กิโลเมตรให้แก่ JASIF มีมูลค่าการซื้อขาย 38,000 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยการขายทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มให้แก่ JASIF ตามสัญญาซื้อขายทรัพย์สินส่วนเพิ่มดังกล่าวเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2562           ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2562 บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) TTTBB ผู้ให้บริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต ภายใต้ชื่อ “3BB” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง “Business Cooperation Framework” (MOU) กับบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัดหรือ DTN ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC เพื่อร่วมเป็น Strategic Partner ให้บริการลูกค้าบนโครงข่าย Fixed Broadband ของ TTTBB และโทรศัพท์มือถือของ DTAC ให้สามารถเชื่อมต่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้แบบไม่มีขีดจำกัด           * เชียร์ซื้อ JASIF ปันผลเด่น           นายพิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทคาดกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน จำกัด (มหาชน) หรือ JASIF จะประกาศงบไตรมาส 4/2562 ปลายสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้า พร้อมประกาศจ่ายปันผลด้วย ซึ่งจุดเด่นของ JASIF อยู่ที่เงินปันผลสูง           โดยบริษัทคาดว่ากำไรไตรมาส 4/2562 ของ JASIF จะอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท และจ่ายปันผลที่ 0.19 บาทต่อหน่วย ซึ่งปกติจะจ่ายที่ 0.23 บาทต่อหน่วย ที่จ่ายลดลงเนื่องจากจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น ขณะที่ปี 2563 คาดจะกลับมาจ่ายที่ 1 บาทต่อหน่วย สำหรับราคาหุ้นขณะนี้ถือว่าเป็นจังหวะเข้าซื้อลงทุนได้ จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 11.43 บาทต่อหน่วย           นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด ระบุว่า ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงคำแนะนำ “ถือ” JASIF ราคาเป้าหมาย 10.70 บาท โดยมีเหตุผล 3 ประการ ได้แก่ 1.อัตราผลตอบแทนปันผลของ JASIF อยู่ที่ 9-10% ในปี 2562-2563 สูงที่สุดในบรรดากองทุนที่ บล.ธนชาตทำบทวิเคราะห์ 2.ความเสี่ยงด้านกระแสเงินสดในอีก 2 ปีข้างหน้าอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากสัญญาการชำระค่าเช่าคงที่กับธุรกิจของ JASซึ่งเป็นบริษัทแม่ ซึ่ง adjusted EBITDA ยังสูงกว่าค่าเช่าอย่างมาก แสดงถึงความเสี่ยงต่อรายได้และความสามารถในการจ่ายเงินปันผลของ JASIF ที่ต่ำ และ 3.JASIF ซื้อขายที่ P/NAV เพียง 1.0 เท่า ในปี 2563 เทียบกับของกลุ่มฯ ที่ 1.5 เท่า           นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  บทวิเคราะห์ของดีบีเอสก่อนหน้านี้  มองว่า การที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS อนุมัติขายสินทรัพย์เข้ากองทุน JASIF มูลค่าไม่เกิน 3.8 หมื่นล้านบาท เป็นสินทรัพย์เป็นไฟเบอร์ออปติก 7 แสนคอร์กิโลเมตร หลังการขายทาง JAS จะมีการเช่าสินทรัพย์ที่ขายนี้กลับ โดยเป็นสัญญาหลัก 80% ที่มีอัตราค่าเช่าเท่าสัญญาเดิมประมาณ 433.21 บาท/คอร์กิโลเมตร/เดือน (ไม่รวม VAT) ระยะเวลาเช่า 12 ปี 2 เดือน สิ้นสุด 29 ม.ค. 2575 และสัญญาประกันรายได้ 20% อัตราค่าเช่าเริ่มต้นเท่ากับค่าเช่าของสัญญารองเดิม ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 764.48 บาท/คอร์กิโลเมตร/เดือน (ไม่รวม VAT) ระยะเวลาเช่า 3 ปี และ JASIF มีสิทธิเลือกต่ออายุสัญญาประกันรายได้ค่าเช่าอีกครั้งละไม่เกิน 3 ปี แต่ไม่เกินกว่าวันที่ 29 ม.ค. 2575           ส่วนสัญญาเช่าทรัพย์เดิมที่อยู่ในกอง JISIF จะขยายอายุเฉพาะส่วนสัญญาเช่าหลักประมาณ 784,400 คอร์กิโลเมตรจาก 22 ก.พ. 2569 เป็น 29 ม.ค. 2575 และให้สิทธิขยายสัญญาหลักเดิมออกไปอีก 10 ปี           ทั้งนี้ จะนำเงินไปคืนหนี้และจ่ายปันผลพิเศษและลงทุน โดย JAS จะนำเงินที่ได้จากการขยายสินทรัพย์ไปชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้น, จ่ายปันผลพิเศษให้กับผู้ถือหุ้น JAS หลังปิดงวดบัญชีปี 2562 แล้ว, ลงทุนพัฒนาโครงข่าย (เปลี่ยนจากสายทองแดงเป็นไฟเบอร์ออปติกให้หมดภายในปี 2563) และพัฒนาการบริการอื่น ๆ           การซื้อสินทรัพย์ของ JASIF จะมีการกู้ยืม 1.55 หมื่นล้านบาท และที่เหลือ 2.25 หมื่นล้านบาท จะมาจากการเพิ่มทุนไม่เกิน 2.5 พันล้านหน่วย (มี Dilution Effect ไม่เกิน 31.25%) ยังคง นะนำ “ถือ” JASIF