บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS)-วิกฤติศรัทธา

Published on 2020-01-03   By ข่าวหุ้น
นายพิสุทธิ์งามวิจิตวงศ์
          ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์
          บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
          แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 6.7 บาท : เราแนะนำให้นักลงทุน “ซื้อ” หุ้น JAS เพื่อรับเงินปันผลจากการบันทึกกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้า JASIF ซึ่งเราคาดว่า JAS จะสามารถจ่ายเงินปันผลได้สูงถึง 1.72 บาทต่อหุ้น นอกจากนั้น เรายังมีมุมมองเป็นบวกสำหรับธุรกิจบรอดแบนด์ ซึ่งน่าจะยังสามารถขยายฐานลูกค้าได้อีกพอสมควร ในขณะที่เราเชื่อว่าการเข้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ DTAC และ MONO จะเสริมความสามารถในการแข่งขันให้กับ JAS ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ เราเชื่อว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงมากจากจุดสูงสุดที่ 7.85 บาทในวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 ถึง 35.67% มาที่ระดับ 5.05 บาทในปัจจุบันน่าจะสะท้อนปัจจัยลบที่เกิดจากการที่ผู้ถือหุ้นใหญ่และอดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารถูกกล่าวโทษโดย ก.ล.ต.ไปมากแล้ว
          ราคาหุ้น JAS ชนะ SET index ในปี 2562 : ราคาหุ้น JAS ปรับตัวขึ้นมา 13.23% จากสิ้นปี 2561 นับว่าแข็งแรงกว่า SET index ที่ปรับตัวขึ้นเพียง 0.5% อันเนื่องมาจากความคาดหวังของนักลงทุนจากเงินปันผลที่จะได้รับจากการขายสินทรัพย์เข้า JASIF อย่างไรก็ตาม หุ้น JAS ปรับตัวขึ้นสูงไปถึง 7.85 บาท หรือ 76% จากปีก่อน ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 ก่อนจะปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ภายหลังจากการปรับขนาดของธุรกรรมการขายสินทรัพย์เข้า JASIF และล่าสุดที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ถูกกล่าวโทษโดย ก.ล.ต. นอกจากนั้น นักลงทุนยังเพิ่มความกังวลต่อสภาพการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดบรอดแบนด์โดยผู้เล่นรายใหม่อย่าง ADVANC การมาของเทคโนโลยี 5 จี ที่อาจจะมาเป็นคู่แข่งกับบริการบรอดแบนด์
          JAS กับการประมูล 5 จี : เราเชื่อตามผู้บริหารของ JAS ที่กล่าวไว้ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญครั้งล่าสุดที่ว่า JAS ไม่สนใจที่จะเข้าร่วมประมูลคลื่น 5 จี ในครั้งนี้ เรามองว่าการเข้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ DTAC น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนั้น เราเชื่อว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในบริการ 5 จี โดยที่ไม่มีบริการ 4 จี เป็นฐาน จะยากยิ่งต่อการหาแหล่งเงินกู้จากสถาบันการเงินในประเทศ อย่างไรก็ตาม หากผู้บริหาร JAS เกิดเปลี่ยนใจและตัดสินใจเข้าร่วมประมูลคลื่น 5 จี เราเชื่อว่าหุ้น JAS จะถูกเทขายอย่างหนัก
          JAS กับพันธมิตรทางธุรกิจอย่าง DTAC : เราค่อนข้างแปลกใจกับการจับมือกันทางธุรกิจระหว่าง JAS ที่มีความน่าสงสัยในระดับธรรมาภิบาล กับ DTAC ที่มีความเข้มงวดเรื่องธรรมาภิบาล แต่หากพิจารณาแต่เพียงปัจจัยทางธุรกิจ เราเชื่อว่าพันธมิตรทางธุรกิจดังกล่าวจะเติมเต็มความสามารถในการแข่งขันของทั้งสองฝ่ายไม่มากก็น้อย ตัวอย่างเช่น ทั้ง JAS และ DTAC จะสามารถนำเสนอแพ็กเกจที่แข่งขันได้กับ ADVANC และ TRUE เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ เพิ่มรายได้จากฐานลูกค้าเก่าของแต่ละรายและรักษาฐานลูกค้าเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้ง JAS และ DTAC จะสามารถขยายฐานลูกค้าองค์กรได้เพิ่มขึ้น นอกจากนั้น ทั้งสองน่าจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านโครงข่ายในประเทศ ต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายในช่องทางจัดจำหน่าย ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เรายังไม่สามารถประเมินถึงมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากพันธมิตรทางธุรกิจได้ในขณะนี้
          ผลกระทบจากมาตรฐานรายงานทางการเงินฉบับที่ 16 : ตามหลักการ ผู้ประกอบการโทรคมนาคมต่างจะได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้มาตรฐานรายการทางการเงินฉบับที่ 16 รวมถึง JAS เนื่องด้วยธุรกิจโทรคมนาคมมีค่าเช่าเป็นค่าใช้จ่ายหลักตัวหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าผลกระทบต่อราคาหุ้นจะมีจำกัด เนื่องจากกระแสเงินสดจะไม่เปลี่ยนไป และราคาหุ้นของผู้ประกอบการโทรคมนาคมในต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนมาตรฐานบัญชีดังกล่าว