IRPCเด้งรับข่าวดีQ4ฟื้น เก็งปันผลJASดันหุ้นวิ่ง

Published on 2019-11-06   By ข่าวหุ้น

IRPC นักลงทุนหายตกใจ Q3 ขาดทุนสุทธิ 1,321 ล้านบาท พร้อมแห่เก็งกำไรคาด Q4 ฟื้นตัว โบรกฯคาดมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน บวกขาดทุนสต๊อกน้ำมันลดลง ฟาก JAS วิ่งต่อเนื่อง รอลุ้นรับจ่ายปันผลพิเศษปลายปีนี้
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (5 พ.ย.) ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดตลาดที่ราคา 3.40 บาท โดยการซื้อขายระหว่างวันปรับขึ้นไปสูงสุดที่ราคา 3.46 บาท และต่ำสุดที่ราคา 3.28 บาท ก่อนจะมาปิดตลาดที่ราคา 3.46 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 1.17% มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 512.56 ล้านบาท หลังโบรกฯ ประเมินแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2562 จะฟื้นตัว เนื่องจากคาดการณ์ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันลดลง และจะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
          รวมทั้งรับรู้ข่าวผลประกอบการไตรมาส 3/2562 ที่ประกาศออกมามีผลขาดทุนสุทธิ 1,321 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3/2561 ที่มีกำไรสุทธิ 2,560 ล้านบาทและไตรมาส 2/2562 ที่มีกำไรสุทธิ 507 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันสุทธิ 1,333  ล้านบาทไปหมดแล้ว
          บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินว่า ในไตรมาส 4/2562 คาด IRPC จะกลับมาฟื้นตัวดี เพราะมีโอกาสขาดทุนสต๊อกลดน้อยลง และมีกำไรจากการทำการป้องกันความเสี่ยง (Hedging) เกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนข่าวร้ายสะท้อนไปยังหุ้นมากแล้ว พิจารณาได้จากราคาหุ้นมีลักษณะ Underperform เทียบกับ SET และหลักทรัพย์ที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน (Peers) แต่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จาก IMO สูงสุดในกลุ่ม เพราะหน่วยการกลั่นสามารถทำ GO yield ได้สูงสุดที่ราว 53% คาดว่ามีส่วนลด (downside) จากธุรกิจ polypropylene ที่จำกัดแล้ว ดังนั้นปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น ซื้อ จากเดิม ถือ ด้วยราคาพื้นฐานเดิมที่ 4.20  บาท
          ก่อนหน้านี้ นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2562 มีผลขาดทุนสุทธิ 1,321 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3/2561 ที่มีกำไรสุทธิ 2,560 ล้านบาทและไตรมาส 2/2562 ที่มีกำไรสุทธิ 507 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันสุทธิ 1,333  ล้านบาท
          โดยผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปีนี้ บริษัทมีรายได้จากการขายสุทธิ 1.66 แสนล้านบาท ลดลง 15% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบ โดยอัตราการกลั่นน้ำมันอยู่ที่ 2 แสนบาร์เรลต่อวัน ลดลง 9,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากโรงงาน RDCC และโรงกลั่นน้ำมัน (ADU 1) หยุดซ่อมบำรุงตามแผนช่วงไตรมาส 1/2562 และไตรมาส 3/2562 ตามลำดับ
          สำหรับกลุ่มปิโตรเคมีได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ยืดเยื้อ และการคว่ำบาตรทางการค้าของสหรัฐฯ ต่ออิหร่าน ส่งผลให้ความต้องการซื้อถดถอย ขณะที่ราคาน้ำมันดิบผันผวนและปรับลงอย่างต่อเนื่อง โดยสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบไตรมาส 3/2562 อยู่ในกรอบ 56.45-67.55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ราคาเฉลี่ยทั้งไตรมาสอยู่ที่ 61.16 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 6.20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากไตรมาส 2/2562
          สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2562 มีสัญญาณดีขึ้น จากการเจรจาทางการค้าจีน-สหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตลาด ขณะเดียวกันรับผลดีจากการที่องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) กำหนดให้เรือเดินสมุทรใช้น้ำมันเตากำมะถันต่ำ 0.5% จากเดิม 3.5% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 ทำให้ความต้องการน้ำมันเตากำมะถันต่ำเพิ่มสูงขึ้นมาก และ IRPC เป็นโรงกลั่นเดียวในประเทศที่มีหน่วยกำจัดกำมะถันในน้ำมันเตา จะสามารถทำการผลิตได้เต็มที่
          ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า วานนี้ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นของบริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดตลาดที่ราคา 4.92 บาท โดยการซื้อขายระหว่างวันปรับขึ้นไปสูงสุดที่ราคา 5.20 บาท และต่ำสุดที่ราคา 4.86 บาท ก่อนจะมาปิดตลาดที่ราคา 4.98 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 1.63% มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 1,736.21 ล้านบาท โดยเป็นการบวกต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ขานรับข่าวดีรับเงินปันผลจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน ที่ประกาศจ่ายปันผลหุ้นละ 0.23 บาท และรอลุ้น JAS จ่ายปันผลพิเศษปลายปีนี้