JASเตรียมขายทรัพย์ 3.8หมื่นล้านเข้าJASIF

Published on 2019-08-19   By ข่าวหุ้น

บอร์ด JAS ไฟเขียวขายทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงเข้ากอง JASIF มูลค่ากว่า 3.8 หมื่นล้านบาท พร้อมให้ TTTBB เช่าเพิ่ม-ต่ออายุสัญญาเช่าออกไปอีก 10 ปี เตรียมชงที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติในวันที่ 25 ก.ย.นี้
          นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2562 อนุมัติการเข้าทำรายการได้มาและจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์กับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) โดยทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง (Optical Fiber Cables) จำนวนประมาณ 700,000 คอร์กิโลเมตร โดยบริษัท  ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน)  หรือ TTTBB ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JAS ประสงค์จะขายทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มให้แก่กองทุนฯ มูลค่ารายการประมาณ 38,000 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
          ทั้งนี้ สัญญาเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มหลักจากกองทุนฯ จำนวนประมาณ 80% ของทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มทั้งหมดที่ TTTBB ได้ขายและส่งมอบให้แก่กองทุนฯ เพื่อใช้ทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มหลักดังกล่าวในการประกอบธุรกิจให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์
          โดย TTTBB จะเข้าทำสัญญาเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มหลักในอัตราค่าเช่าเริ่มต้นเท่ากับอัตราค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงเดิมที่กองทุนฯ มีอยู่และนำออกให้ TTTBB เช่าอยู่ในปัจจุบัน (ตามสัญญาเช่าหลักเดิม) ซึ่งในปี 2562 อัตราค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงเดิมอยู่ที่ประมาณ 433.21 บาทต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีระยะเวลาการเช่าประมาณ 12 ปี 2 เดือน สิ้นสุดวันที่ 29 ม.ค. 2575 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดอายุของใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทที่สามของ TTTBB
          และสัญญาประกันรายได้ค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มส่วนที่เหลืออีกประมาณ 20%  โดย TTTBB ตกลงจะเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มรองจากกองทุนฯ ทั้งนี้ เฉพาะในส่วนที่ไม่มีผู้เช่ารายอื่นตกลงเช่า (ในอัตราค่าเช่าตามที่ตกลงกันกับกองทุนฯ)
          ทั้งนี้  TTTBB จะเข้าทำสัญญาประกันรายได้ค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มรองในอัตราค่าเช่าเริ่มต้นเท่ากับอัตราค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงรอง ซึ่งกองทุนฯ มีอยู่และนำออกให้ TTTBB เช่าอยู่ในปัจจุบัน (ตามสัญญาประกันรายได้ค่าเช่าเดิม) ซึ่งในปี 2562 อัตราค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงรองเดิมอยู่ที่ประมาณ 764.48 บาทต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีระยะเวลาการเช่าประมาณ 3 ปี ซึ่งกองทุนฯ มีสิทธิเลือกที่จะต่ออายุสัญญาประกันรายได้ค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มรองออกไปได้อีกครั้งละไม่เกิน 3 ปี แต่ไม่เกินกว่าวันที่ 29 ม.ค. 2575 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดอายุของใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทที่สามของ TTTBB
          นอกจากนี้ ขยายอายุสัญญาเช่าหลักสำหรับสัญญาเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงหลักเดิม โดย TTTBB ประสงค์จะต่ออายุการเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงจำนวน 80% ของทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงเดิมที่ TTTBB นำส่งให้แก่กองทุนฯ แล้วในการลงทุนครั้งแรก ซึ่งคิดเป็นจำนวนประมาณ 784,400 คอร์กิโลเมตร ซึ่งสัญญาเช่าหลักเดิมจะสิ้นสุดลงในวันที่ 22 ก.พ. 2569 โดยจะขยายออกไปจนถึงวันที่ 29 ม.ค. 2575 บนข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงหลักเดิม
          สำหรับ TTTBB ประสงค์จะให้สิทธิแก่กองทุนฯ ในการขอต่ออายุสัญญาเช่าหลัก (ประกอบด้วยสัญญาเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงหลักเดิมประมาณ 784,400 คอร์กิโลเมตร และสัญญาเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มหลักประมาณ 560,000 คอร์กิโลเมตร รวมเรียกว่า สัญญาเช่าหลัก) ออกไปอีก 10 ปี นับจากวันสิ้นสุดอายุของสัญญาเช่าหลัก (คือวันที่ 29 ม.ค. 2575)
          ทั้งนี้หากปรากฏว่า TTTBB มีรายได้จากการให้บริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต (FTTX และ xDSL) ในปี 2573 ไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท และ TTTBB ได้รับการต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทที่สามของ TTTBB รวมถึงได้รับความเห็นชอบต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการต่ออายุสัญญาเช่าหลัก โดยอัตราค่าเช่า ณ วันที่ต่อสัญญาเช่าหลักออกไปอีก 10 ปีข้างต้นจะเท่ากับ 433.21 บาทต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือน  (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งเท่ากับอัตราค่าเช่าภายใต้สัญญาเช่าหลักในปี 2562 โดยจะมีการปรับขึ้นอัตราค่าเช่าดังกล่าวข้างต้น ทุกวันที่ 1 ม.ค.ของทุกปีตามอัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้ ไม่เกิน 3% ต่อปี แต่ไม่ต่ำกว่า 0% ต่อปี
          ส่วนการเข้าจองซื้อหน่วยลงทุนที่จะออกใหม่ของกองทุนฯ บริษัทประสงค์จะจองซื้อหน่วยลงทุนที่จะออกใหม่ของกองทุนฯ ตามสัดส่วนการถือหน่วยลงทุนของบริษัทในกองทุนฯ โดยบริษัทอาจจองซื้อหน่วยลงทุนใหม่เกินกว่าสิทธิที่ได้รับจัดสรร อย่างไรก็ดี บริษัทจะจองซื้อหน่วยลงทุนสูงสุดเป็นจำนวนไม่เกิน 33% ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของกองทุนฯ หลังการเพิ่มทุน
          นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทอนุมัติการแต่งตั้งบริษัท ออพท์เอเชีย แคปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาการเงินอิสระเพื่อทำหน้าที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเข้าทำธุรกรรมการได้มาและจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ และกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 ในวันที่ 25 ก.ย. 2562 เวลา 10.00 น. ณ ออดิทอเรียม ชั้น 3 อาคาร จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล โดยจะมีการกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 ในวันที่ 30 ส.ค. 2562
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น JAS เมื่อวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา มีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาหลังบอร์ด JAS อนุมัติขายสินทรัพย์เข้ากองทุน JASIF มูลค่ารวมกว่า 38,000 ล้านบาท โดยระหว่างวันราคาปรับขึ้นไปสูงสุดที่ราคา 6.65 บาท ซึ่งเป็นราคาปิดของวันด้วย โดยราคาปรับเพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 6.40% มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 558.81 ล้านบาท