JASโตอลังการ560% กำไรเริ่ด3.64พันล้าน รอลุ้นข่าวดี! ประกาศปันผล คาดจ่าย 23 สต./หุ้น

Published on 2018-08-09   By ข่าวหุ้น

 JAS โชว์งบไตรมาส 2 มีกำไรสุทธิ 3,644 ล้านบาท โตสนั่น 560% จากงวดเดียวกันปีก่อน บุ๊กกำไรขายเงินลงทุน JASIF กว่า 3 พันล้านบาท โชว์ลูกค้า 3BB พุ่ง 2.87 ล้านราย แถมล่าสุดมีกำไรสะสมกว่า 3,834 ล้านบาท ฟากวงการเงิน ลุ้น JAS จ่ายปันผลหุ้นละ 23 สตางค์ คาดสิ้นปีนี้ฐานลูกค้าพุ่ง 3 ล้านราย รับธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตโตต่อเนื่อง
          นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2561 ทางบริษัทมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 3,644 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 560% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 552 ล้านบาท
          โดยในช่วงไตรมาส 2/2561 ทางบริษัทมีรายได้รวมจากการดำเนินงานทั้งสิ้น 4,637 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่มีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 4,460 ล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากทางบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ 3BB
          ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/2561 ลูกค้าที่ใช้บริการของ 3BB มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นสุทธิ (Net Additional Subscriber) จำนวน 63,989 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของลูกค้า FTTx ซึ่ง ณ สิ้นไตรมาส 2/2561 ลูกค้าที่ใช้บริการ 3BB มีจำนวนทั้งสิ้น 2.87 ล้านราย และในฐานลูกค้านี้ได้ใช้บริการ FTTx ประมาณ 563,000 ราย
          นายพิชญ์ กล่าวอีกว่า ในงวดไตรมาส 2/2561 ทางบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานจำนวน 592 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่มีกำไรดำเนินงาน 576 ล้านบาท โดยจากฐานกำไรดำเนินงานที่ระดับ 592 ล้านบาท เมื่อรวมรายการกำไรจากการขายเงินลงทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF จำนวน 3,650 ล้านบาท (คำนวนตามวิธีส่วนได้เสีย Equity Method) ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มเป็น 4,242 ล้านบาท
          อย่างไรก็ตาม กำไรดำเนินงานไตรมาส 2/2561 ที่ระดับ 4,242 ล้านบาท เมื่อหักรายการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 445 ล้านบาท สำรองหนี้สงสัยจะสูญของ 3BB จำนวน 63 ล้านบาท สำรองประมาณการหนี้สินตามแผนฟื้นฟูกิจการบริษัทจำนวน 3 ล้านบาท
          นอกจากนี้ ยังได้บันทึก Deferred Tax ของบริษัทและบริษัทย่อยจำนวน 87 ล้านบาท ดังนั้น ในไตรมาส 2/2561 ทางบริษัทจึงมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 3,644 ล้านบาท และส่งผลให้ภาพรวมงวดครึ่งแรกปี 2561 มีกำไรสุทธิจำนวน 4,401 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,245 ล้านบาท
          ส่วน JASIF มีรายได้รวมในไตรมาส 2/2561 จำนวน 1,460 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,451 ล้านบาท และมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2561 เท่ากับ 59,051.93 ล้านบาท คิดเป็น 10.7367 บาทต่อหน่วย
          ขณะที่ แหล่งข่าววงการเงิน ประเมินว่า จากผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2561 ของ JAS ที่มีกำไรสุทธิเติบโตถึง 3,644 ล้านบาท ในเบื้องต้นคาดว่ามีโอกาสที่ทางบริษัทจะจ่ายเงินปันผลออกมาประมาณ 0.23 บาทต่อหุ้น อิงสมมติฐานนโยบายบริษัทที่จ่ายเงินปันผลขั้นต่ำ 50% ของกำไรสุทธิ
          ส่วนในเชิงพื้นฐาน JAS ยังมีโอกาสเติบโตได้ดีในช่วงครึ่งปีหลัง จากแรงหนุนธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต 3BB ที่มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นสุทธิเฉลี่ยไตรมาสละ 6-7 หมื่นราย และหากทางบริษัทยังรักษาการเติบโตของลูกค้าได้ดีต่อเนื่อง มีโอกาสที่ภายในสิ้นปี 2561 จะมีฐานลูกค้าในมือเพิ่มแตะระดับ 3 ล้านรายได้
          ผู้สื่อข่าวรายงานการสำรวจข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า ขณะนี้ JAS ได้กำหนดนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ตามงบการเงินเฉพาะกิจการในแต่ละปี อีกทั้ง ณ สิ้นงวดไตรมาส 2/2561 ทางบริษัทยังมีกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรรวม 3,834 ล้านบาท ดังนั้น หากทางบริษัทจ่ายเงินปันผลที่ระดับ 0.23 บาทต่อหุ้น จะคิดเป็นผลตอบแทนกว่า 4% เมื่อเทียบราคาหุ้นในกระดานล่าสุดวานนี้ (8 ส.ค. 2561) ที่ระดับ 5.25 บาท
          ขณะที่ ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น JAS ในวานนี้ ทำราคาเปิดการซื้อขายที่ระดับ 5.20 บาท โดยทำราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดของวันที่ระดับ 5.35 บาท ทำราคาต่ำสุดของวันที่ 5.15 บาท และปิดการซื้อขายที่ระดับ 5.25 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือคิดเป็น เพิ่มขึ้น 0.96% เมื่อเทียบราคาปิดก่อนหน้า มีมูลค่าการซื้อขายรวม 178 ล้านบาท
          * เชียร์ซื้อ JASIF ปันผลสูง 9-10%
          นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุว่า ขณะนี้ แนะนำ “ซื้อ” JASIF เนื่องจากบริษัทจ่ายปันผลสูง แต่กลับถูกมองข้าม โดยคาดการเข้าซื้อสินทรัพย์ใหม่จะเป็นปัจจัยหนุนการเพิ่มอัตราผลตอบแทนเป็น 10.6%
          ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2561 เป็นไปตามคาด โดยกำไรปกติครึ่งปีแรก คิดเป็น 50% ของประมาณการทั้งปี ในมุมมองของบริษัทมองว่า JAS มีความสามารถในการจ่ายค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นให้กับ JASIF แม้ว่าจะไม่มีการเพิ่มสินทรัพย์ใหม่ มองว่าอัตราผลตอบแทนที่ 9% ยังน่าสนใจ ราคาเป้าหมาย 12.20 บาท
          ขณะที่ นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง คาด JASIF จะจ่ายปันผล 0.22 บาทต่อหน่วยสำหรับในไตรมาส 2/2561 ซึ่งอิงกับอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 87% จากกำไรหลักในไตรมาส 2/2561 กำไรที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงข้างต้นในไตรมาส 2/2561 ไม่กระทบต่อการจ่ายเงินปันผลสำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนแต่อย่างใด มูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยอยู่ที่ 10.74 บาท ณ ช่วงปลายไตรมาส 2/2561
          ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงถึง 8.5% ของ JASIF ก็ยังคงน่าสนใจและสูงกว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยสำหรับปี 2561 ของตลาดฯ ซึ่งอยู่ที่ 3% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะเวลา 10 ปี ซึ่งอยู่ที่ 2.7% อัพไซด์ต่อกำไรสุทธิ และราคาเป้าหมายจะมาจากการโอนสายเคเบิลใยแก้วนำแสงอีกจำนวน 9.8 แสนคอร์กม. ในช่วงสิ้นปี 2561 หรือช่วงไตรมาส 1/2562 เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” JASIF เนื่องจากอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับสูง ราคาเป้าหมาย 12 บาท
          ด้านแนวโน้มประมาณการกำไรหลักไตรมาส 3/2561 อยู่ที่ 1.36 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% เทียบกับปีก่อน คาดว่ารายได้ค่าเช่าในไตรมาส 3/2561 ที่ 1.45 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7% เทียบกับปีก่อน (ซึ่งอิงกับอัตราค่าเช่าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น) และประมาณการเงินปันผลต่อหน่วยที่ 0.22 บาท การขายสายเคเบิลใยแก้วนำแสงอีก 9.8 แสนคอร์กม. ให้กับ JASIF มีแนวโน้มเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2561 หรือช่วงไตรมาส 1/2562
          โดยจะทำการคำนวณมูลค่าเพิ่มสุทธิจากสินทรัพย์ใหม่ดังกล่าวเข้าไปในประมาณการของเราก่อนหน้านั้น ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2561 เพิ่มขึ้นอีก 1.8% (มาอยู่ที่ 5.52 พันล้านบาท) เพื่อคำนวณรวมกำไรพิเศษที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงดังกล่าวในไตรมาส 2/2561