JASลุ้นQ2โตแรง42% อวดกำไรสุทธิ786ล้าน จับตาจ่อขาย JASIF เพิ่ม คาดราคา 10.50 บาท/หน่วย

Published on 2018-08-03   By ข่าวหุ้น
JAS มีลุ้น Q2 อวดกำไรสุทธิ 786 ล้านบาท โตแรง 42% หลังบุ๊กกำไรขาย JASIF กว่า 216 ล้านบาท บวกกำไรอัตราแลกเปลี่ยน 100 ล้านบาท ตามรายได้รวมโตจากธุรกิจบรอดแบนด์ ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 70,000 ราย ดันครึ่งปีแรกลูกค้าพุ่ง 2.87 ล้านราย โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” เป้าราคา 6.80 บาท พร้อมจับตา JAS จ่อขายหุ้น JASIF เพิ่ม คาดราคา 10.50 บาท/หน่วย
          นางสาวมินทรา รัตยาภาส นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ในไตรมาส 2/2561 จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 786 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 552 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 758 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าจะรับรู้กำไรจากการขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF ประมาณ 216 ล้านบาท (หลังหักภาษี) และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 100 ล้านบาท
          ทั้งนี้ หากหักกำไรจากการขายหน่วยลงทุนของ JASIF และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานปกติจะอยู่ที่ 470 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรปกติอยู่ที่ 466 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อนที่มีกำไรปกติอยู่ที่ 438 ล้านบาท
          โดยกำไรปกติที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/2561 เติบโตตามรายได้รวมจากธุรกิจบรอดแบนด์ เป็นผลจากจำนวนลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นสุทธิ (Net Additional Subscriber) เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 70,000 ราย ทำให้ลูกค้าที่ใช้บริการของบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTB หรือลูกค้า 3BB ณ สิ้นไตรมาส 2/2561 มีจำนวน 2.87 ล้านราย เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน
          สำหรับรายได้รวมในไตรมาส 2/2561 คาดว่าจะอยู่ที่ 4,532 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 4,393 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 4,436 ล้านบาท ประกอบกับอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น จากค่าเช่าโครงข่ายใยแก้วนำแสง (OFC) สุทธิ ที่บันทึกเป็นต้นทุนลดลงมาอยู่ที่ 1,079 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 1,190 ล้านบาท เป็นผลจากการตัดจำหน่ายสำรองประกันรายได้ค่าเช่า และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตลดเหลือ 1%
          “ลูกค้าที่ใช้บริการ FTTx เฉลี่ยเพิ่มขึ้นไตรมาสละ 120,000 ราย ขณะที่ลูกค้า ADSL ลดลง จากการที่มีลูกค้าเดิมไปใช้บริการ FTTx แทน เนื่องจากการทำโปรโมชั่นลูกค้ากลุ่มนี้ ทำให้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นสุทธิโดยเฉลี่ยไตรมาสละ 70,000 ราย” นางสาวมินทรา กล่าว
          อย่างไรก็ตาม ปรับกำไรปกติปี 2561-2563 ลง 3-6% สะท้อนสมมติฐานลูกค้ารายใหม่ลดลง 4-7% โดยในส่วนของปี 2561 คาดว่าลูกค้าลดลง 4% เป็น 3.04 ล้านราย จากประมาณการเดิมที่คาดว่าสิ้นปี 2561 จะมีจำนวนลูกค้าทั้งสิ้น 3.16 ล้านราย ส่งผลให้รายได้ลดลง 3-6% ทำให้รายได้ปี 2561 อยู่ที่ 19,312 ล้านบาท จากประมาณการเดิมอยู่ที่ 19,881 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสูงกว่าคาด รวมถึงปรับสมมติฐานส่วนแบ่งกำไร JASIF ลง 8-9% ตามสัดส่วนถือหน่วยที่ลดลงเหลือ 23.51% จากเดิม 33.3%
          ดังนั้น คงคำแนะนำ BUY ประเมินราคาเป้าหมายปี 2561 ใหม่ ที่ 6.80 บาท จากเดิม 7.20 บาท คาดว่ากำไรจากการดำเนินงานปกติปี 2561 อยู่ที่ 2,293 ล้านบาท เติบโต 7% จากปีก่อนที่มีกำไรปกติอยู่ที่ 2,138 ล้านบาท และปี 2562-2563 เติบโตเฉลี่ย 13% ส่วนระยะสั้นมีประเด็นเก็งกำไรความคืบหน้าขายสินทรัพย์เข้า JASIF รอบ 2 ซึ่งคาดว่าจะขายหน่วยได้เร็วสุดในช่วงปลายปี 2561 หรือช้าสุดไม่เกินไตรมาส 1/2562
          * จับตา JAS ขาย JASIF เพิ่ม
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 15 ส.ค. 2561 นี้ จะครบกำหนด 90 วัน (นับจากวันที่ 15 พ.ค. 2561) ที่ JAS แจ้งว่าบริษัทจะไม่จำหน่ายจ่ายโอนหน่วยลงทุนของ JASIF จำนวนใด ๆ ซึ่งบริษัทถือครองอยู่เป็นระยะเวลา 90 วันนับจากนี้ เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจว่าจะไม่มีการเสนอขายหน่วยลงทุนของ JASIF เพิ่มเติม
          สำหรับก่อนหน้าที่ JAS จะขายหน่วยลงทุนของ JASIF ออกมานั้น JAS ถือหน่วยลงทุนใน JASIF อยู่ 33.33% ก่อนที่จะมีมติคณะกรรมกรรมการบริษัท (บอร์ด) เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2561 ให้ขายหน่วยลงทุนออกไป 560 ล้านหน่วย ที่ราคา 10.50 บาท (พร้อมกับให้ผู้ซื้อรับสิทธิเงินปันผล 0.22 บาท/หน่วย) ส่งผลให้ JAS เหลือการถือหน่วยลงทุนใน JASIF จำนวน 1,293,150,000 หน่วย หรือคิดเป็น 23.51%
          มีรายงานข่าวว่า ผู้บริหารของ JAS อาจจะมีการขายหุ้นใน JASIF เพิ่มเติมออกมาอีก หลังจากพ้นกำหนด 90 วันที่เคยประกาศไว้ โดยให้จับตาการประชุมบอร์ดของ JAS ที่จะมีขึ้นก่อนการแจ้งงบการเงิน ๆ ไตรมาส 2/2561 ว่า อาจจะมีการเสนอวาระการขายหน่วยลงทุนใน JASIF เช่นเดียวกับเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
          พร้อมกันนี้มีรายงานข่าวว่า ราคาของหน่วยลงทุนที่จะขายจะเท่ากับครั้งก่อนหน้านี้ คือ 10.50 บาทต่อหน่วย แต่จะไม่ต่ำกว่า 10.30 บาทต่อหน่วย (หากไม่ได้รับเงินปันผลงวดไตรมาส 2/2561 ที่คาดว่าจะจ่าย 0.22 -0.24 บาทต่อหน่วย)
          ราคาหุ้น JASIF เมื่อวานนี้ บวก 01.10 บาท ปิดที่ 10.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 54.5 ล้านบาท
          ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่ JAS จะขายหน่วยลงทุนใน JASIF เมื่อเดือน พ.ค. 2561 นั้น นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JAS กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาการขายหน่วยลงทุนใน JASIF ซึ่งคิดเป็นการถือหน่วยลงทุนตั้งแต่จัดตั้งกองทุนครั้งแรกในสัดส่วน 33.33% เนื่องจากบริษัทได้ลงทุนมาแล้วเป็นระยะเวลา 4 ปี และมีสิทธิขายหน่วยลงทุนออกไปได้
          ส่วนสาเหตุการขายหน่วยลงทุน ถือเป็นการดำเนินกิจกรรมทางการเงิน เพื่อนำเงินที่ได้รับไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนที่จำเป็นของบริษัท เพื่อชำระคืนเงินกู้ ชำระภาระหนี้สินของบริษัท และอื่น ๆ