JASIFอึ้งทึ่งเสียว! บิ๊กล็อตต่ำกระดาน

Published on 2018-05-17   By ข่าวหุ้น

JAS ขาย JASIF เหลือ 23.51% จากเดิมถือ 33.33% นำเงินไปใช้เป็นทุนหมุนเวียน คืนเงินกู้ วานนี้พบบิ๊กล็อต JASIF 540 ล้านหน่วย ที่ 10.50 บาท ต่ำกว่ากระดาน 7% ไม่สนเงินปันผล 130 ล้าน  “พิชญ์” รับปากภายใน 90 วันไม่มีขายเพิ่ม ด้านกองทุนรวมบัวหลวง มั่นใจเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นไม่กระทบผลการดำเนินงาน เนื่องจากขายให้รายใหญ่
          นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท (บอร์ด) เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2561 ที่ผ่านมา มีมติให้จำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF ให้แก่นักลงทุน โดยบริษัทได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหน่วยลงทุนกับนักลงทุนเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2561 ซึ่งภายหลังจากการจำหน่ายไปซึ่งหน่วยลงทุน บริษัทจะยังคงถือหน่วยลงทุนอยู่จำนวน 1,293,150,000 หน่วย คิดเป็น 23.51% ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายแล้วของ JASIF ซึ่งก่อนขายหน่วยลงทุนดังกล่าวบริษัทถือหน่วยลงทุนใน JASIF จำนวน 33.33%
          ทั้งนี้ การขายหน่วยลงทุนในครั้งนี้เป็นการดำเนินกิจกรรมทางการเงิน เพื่อนำเงินที่ได้รับไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนที่จำเป็นของบริษัท เพื่อชำระคืนเงินกู้ เพื่อชำระภาระหนี้สินของบริษัท และอื่น ๆ
          ขณะเดียวกัน เพื่อให้กองทุนฯ ประสบความสำเร็จในระยะยาว บริษัทยืนยันว่าจะไม่จำหน่ายจ่ายโอนหน่วยลงทุนจำนวน 19% ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของ JASIF ซึ่งบริษัทถือครองอยู่ภายในช่วงระยะเวลาตามข้อตกลงที่บริษัทได้ให้ไว้ ณ คราวการเสนอขายหน่วยลงทุนของ JASIF ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก
          นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัท และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน บริษัทตกลงเพิ่มเติมว่าบริษัทจะไม่จำหน่ายจ่ายโอนหน่วยลงทุนของ JASIF จำนวนใด ๆ ซึ่งบริษัทถือครองอยู่เป็นระยะเวลา 90 วันนับจากนี้ เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจว่าบริษัทจะไม่มีการเสนอขายหน่วยลงทุนของ JASIF เพิ่มเติมในจำนวนใด ๆ ในช่วงระยะเวลา 90 วันดังกล่าว
          ขณะที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้บริษัทจองซื้อหน่วยลงทุนที่จะออกใหม่ของ JASIF ตามมติของที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีมติอนุมัติการจองซื้อหน่วยลงทุนที่ออกใหม่ของ JASIF เพิ่มเติม ในเบื้องต้นคาดว่าจะจองซื้อหน่วยลงทุนไม่เกิน 1 ใน 3 หรือประมาณไม่เกิน 33.33% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่ออกใหม่ทั้งหมดของ JASIF มูลค่าสูงสุดประมาณ 16,667-23,333 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกรรมการจองซื้อหน่วยลงทุนครั้งที่ 1 มูลค่าสูงสุดประมาณ 11,667-15,000 ล้านบาท และธุรกรรมการจองซื้อหน่วยลงทุนครั้งที่ 2 มูลค่าสูงสุดประมาณ 5,000-8,333 ล้านบาท
          โดยบริษัทประสงค์ที่จะปฏิบัติตามมติดังกล่าว และดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งการอนุญาตหรือการอนุมัติต่าง ๆ ซึ่งในการนี้ บริษัทจะต้องเพิ่มสัดส่วนการถือครองหน่วยลงทุนของบริษัทใน JASIF ในคราวการจองซื้อหน่วยลงทุนที่จะออกใหม่ของ JASIF เพื่อที่บริษัทจะได้ถือครองหน่วยลงทุนของ JASIF เป็นจำนวนอย่างน้อย 25% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ JASIF
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 16 พ.ค. 2561 พบรายการ Big lot ของ JASIF จำนวน 540 ล้านหน่วย ที่ราคาเฉลี่ย 10.50 บาท/หน่วย คิดเป็นมูลค่า 5,670 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากระดาน ขณะที่ JAS จะไม่ได้รับปันผลจาก JASIF กว่า 130 ล้านบาท เนื่องจากขายก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 24 พ.ค.นี้
          บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า JAS ขาย Big lot ของ JASIF จำนวน 540 ล้านหน่วย คิดเป็นประมาณ 10% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่ JAS ถืออยู่ใน JASIF ที่ราคาเฉลี่ย 10.50 บาท ต่ำกว่าราคาปิดเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2561 ที่ 11.30 บาท ถึง 7% และหลังจากการขายหน่วยลงทุนใน JASIF ทำให้ JAS ถือหน่วยลงทุนใน JASIF ลดลงจาก 33.33% เหลือ 23.51% ทั้งนี้ ตามแผนเดิมตั้งแต่มีการจัดตั้ง JASIF ทาง JAS มีแผนถือหน่วยลงทุนลดลงเหลือ 19% หลังจากลงทุนครบ 3 ปี นับจากปี 2558
          โดยเบื้องต้นประเมินว่าการขายหน่วยลงทุน JASIF ครั้งนี้ จะทำให้ JAS มีส่วนแบ่งกำไรจาก JASIF ลดลงประมาณ 350-400 ล้านบาท/ปี หรือลดลง 29% จากประมาณการส่วนแบ่งกำไรเดิมอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท/ปี อย่างไรก็ตามระยะสั้น คาดว่า JAS จะมีเงินสดในมือราว 5,670 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2561 อยูที่ 1,361 ล้านบาท และมีกำไรจากการขายหน่วยลงทุนดังกล่าวประมาณ 270 ล้านบาท โดย JAS มีต้นทุน JASIF ที่ 10 บาท คิดเป็นกำไรต่อหน่วย 0.035 บาท
          ดังนั้น ตามปัจจัยพื้นฐานของ JAS ยังคงแนะนำ BUY ที่ราคาเป้าหมาย 7.20 บาท เนื่องจากผลการดำเนินงานมีแนวโน้มฟื้นตัวตามรายได้ และอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจหลัก และประมาณการกำไรมี upside จากการขายสินทรัพย์เข้า JASIF รอบ 2 คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี 2561
          ด้านนายพีรพงษ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM ในฐานะบริษัทจัดการ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF เปิดเผยว่า แนวโน้มกองทุน JASIF ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของการสร้างผลตอบแทน แม้ว่าล่าสุดบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS มีการขายหน่วยลงทุน JASIF ออกไปก็ตาม ด้วยความสามารถและศักยภาพของกองทุนฯ จึงไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นแต่อย่างไร
          โดยกองทุนฯ มองประเด็นดังกล่าวคล้ายกับช่วงที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL มีการขายหุ้น JASIF ออกไป กรณี JAS ในวันนี้ก็คล้ายกัน ส่วนผู้ที่มารับไม้ต่อกับทาง JAS  มีอยู่แล้ว โดยส่วนใหญ่กระจายในกลุ่มรายใหญ่เป็นหลัก
          "กองทุนฯ ไม่มีความกังวล แม้ JAS ขายหุ้น JASIF ออกไปในครั้งนี้ ซึ่งคล้ายกับช่วงที่แบงก์กรุงเทพฯ ขายออกไป และสาเหตุที่ JAS ขายหุ้น JASIF ในครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการนำเงินไปใช้หนี้ให้กับธนาคาร จึงมองเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ ด้วยศักยภาพที่ดีของกองทุนฯ ทำให้มีผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุนฯ ดังกล่าวจำนวนมาก ทั้งด้วยราคา สภาพคล่อง และเงินปันผลที่สูง และการนำสินทรัพย์เข้าเพิ่มเติมในเฟส 2 ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มความสามารถในการสร้างผลตอบแทนด้วย การปรับเปลี่ยนผู้เข้าลงทุนจึงไม่มีผลต่อการบริหารจัดการกองทุนฯ แน่นอน กองทุนฯ โตได้ด้วยสินทรัพย์ที่มีอยู่ในกองทุนฯ ในการผลักดันผลตอบแทน" นายพีรพงษ์ กล่าว