JASแม่ลูกวิ่งรับข่าวดี! SCBSซื้อW3จากพิชญ์

Published on 2017-12-21   By ข่าวหุ้น
JAS ควงลูก JAS-W วิ่งกันสนั่นทุ่ง 613 ล้านบาท ขานรับข่าวบล.ไทยพาณิชย์รับซื้อบิ๊กล็อต JAS-W3 จาก “พิชญ์ โพธารามิก” จำนวน 650 ล้านหน่วย มูลค่า 2,210 ล้านบาท ขณะที่บล.ซีไอเอ็มบี แนะซื้อ JAS ให้ราคาเป้าหมาย 7.45 บาท
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวานนี้ (20 ธ.ค.) หุ้นบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ราคาปิดตลาด 7.25 บาท บวก 0.25 บาท หรือเพิ่มขึ้น 3.57% มูลค่าการซื้อขาย 493.65 ล้านบาท เช่นเดียวกับใบสำคัญแสดงสิทธิที่ซื้อหุ้นบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ชุดที่ 3 หรือ JAS-W3 ราคาปิดตลาด 3.64 บาท บวก 0.20 บาท หรือเพิ่มขึ้น 5.81% มูลค่าการซื้อขาย 119.38 ล้านบาท ทำให้มูลค่าซื้อขายทั้ง JAS และ JAS-W3 รวมกันกว่า 613 ล้านบาท โดยเป็นการเข้าเก็งกำไรหลังปรากฏรายการทำบิ๊กล็อต JAS-W3 จำนวน 650 ล้านหน่วยก่อนหน้านี้
          สำหรับรายการบิ๊กล็อต JAS-W3 ดังกล่าว เกิดขึ้นจากนายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ทำการขายให้บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด จำนวน 650 ล้านหน่วย ราคาเฉลี่ยหน่วยละ 3.40 บาท มูลค่ารวม 2,210 ล้านบาท
          โดย JAS-W3 ที่นำมาขายครั้งนี้น่าจะเป็นจำนวนเดียวกับที่ได้ซื้อไปเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2560 ที่ผ่านมา โดยนายพิชญ์ มีการซื้อ JAS-W3 จำนวน 649,996,600 หน่วย ราคาหน่วยละ 3.68 บาท หรือ 12.06% มูลค่า 2,390 ล้านบาท ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ (โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เป็นผู้ให้การสนับสนุนทางการเงิน) จนทำให้นายพิชญ์ ถือ JAS-W3 ในพอร์ตเพิ่มเป็น 1,983.29 ล้านหน่วย หรือ 22.33% ของ JAS-W3 ทั้งหมด
          การปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น JAS และปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่น จะเป็นผลทำให้เกิดแรงจูงใจต่อนักลงทุนในการแปลงสิทธิ JAS-W3 เป็นหุ้นสามัญมากขึ้น โดยมีการกำหนดวันแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิระหว่างวันที่ 22-28 ธ.ค. 2560 และกำหนดวันใช้สิทธิวันที่ 29 ธ.ค. 2560 ส่วนราคาในการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญคือ 3.904 บาทต่อหุ้น ที่อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิฯ (JAS-W3) ได้ 1.101 หุ้นสามัญ (JAS) มีกำหนดวันหมดอายุวันที่ 5 ก.ค. 2563
          ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ซีไอเอ็มบี ระบุว่า ขณะนี้ฝ่ายวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” หุ้น JAS จากเดิมแนะนำ “ถือ” แต่ปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 7.45 บาท จากเดิม 7.55 บาท