JASIFไตรมาส3กำไรเพิ่ม5% ปันผล 0.23 บาทตามคาด/โบรกฯให้เป้า 13.20 บาท

Published on 2017-11-13   By ข่าวหุ้น

JASIF โชว์กำไรไตรมาสสาม 1,450 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.99% จากปีก่อน จากรายได้จากการลงทุนสุทธิ 1,353.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.22% NAV ล่าสุด 10.6785 บาทต่อหน่วย ปันผลระหว่างกาล 0.23 บาทต่อหน่วยตามคาด โบรกฯให้เป้า 13.20 บาท
          นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF เผยกำหนดการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 11 และวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อกำหนดสิทธิในเงินปันผล
          โดยให้จ่ายเงินปันผลครั้งที่ 11 จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2560 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2560 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.23 บาท (คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,265.00 ล้านบาท) บริษัทจัดการกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 12 ธันวาคม 2560
          นายพีรพงศ์ กล่าวว่ารายได้รวมสำหรับไตรมาส 3 ปี 2560 เท่ากับ 1,450.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.99% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 0.05% จากไตรมาสก่อน โดยมาจากรายได้ค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง 1,444.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.01% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาสก่อน ดอกเบี้ยรับ 6.12 ล้านบาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 10.90% จากไตรมาสก่อน
          ทั้งนี้ในเดือนกันยายน 2560 กองทุนได้ว่าจ้างผู้ประเมินราคาอิสระประเมินมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงให้เป็นมูลค่ายุติธรรมใหม่เป็นมูลค่า 57,728.00 ล้านบาท จึงรับรู้กำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจาการประเมินมูลค่าเงินลงทุนดังกล่าวจำนวน 150.00 ล้านบาท
          ส่วนการเพิ่มขึ้นในทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานเท่ากับ 1,503.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.77% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น59.23% จากไตรมาสก่อน
          ทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงที่กองทุนได้รับจากการส่งมอบ ณ ปัจจุบัน กองทุนมีทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงทั้งสิ้นเท่ากับ 980,500 คอร์กิโลเมตร แบ่งออกเป็นทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงในปัจจุบันรับมอบเท่ากับ 800,500 คอร์กิโลเมตร และทรัพย์สินใยแก้วนำแสงในอนาคตที่ทยอยรับมอบเท่ากับ 180,000 คอร์กิโลเมตร
          อัตราค่าเช่าทรัพย์สินใยแก้วนำแสง สำหรับปี 2560 อัตราค่าเช่า เท่ากับ 425.81 บาทต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือน อัตราค่าเช่าทรัพย์สินใยแก้วนำแสง ตามสัญญาประกันรายได้ค่าเช่า เท่ากับ 751.43 บาทต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือน (อัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภคปี 2559 ที่ประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์เพิ่มขึ้น 0.19% ดังนั้น อัตราค่าเช่าทรัพย์สินใยแก้วนำแสง สำหรับปี 2560 จึงเพิ่มขึ้นเท่ากับ 0.19% อัตราค่าบริหารดูแลและบำรุงรักษาทรัพย์สินสาหรับปี 2560 เท่ากับ 212.18 บาทต่อคอร์กิโลเมตรต่อปี
          บล.ซีไอเอ็มบี แนะนำ "ซื้อ" JASIF ราคาเป้าหมาย 13.20 บาท/หุ้น ปัจจัยบวกต่อประมาณการคือการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลที่ช้าลง และการเพิ่มสินทรัพย์รอบที่สอง