กองรีท-อินฟราฟันด์แจ่ม DIF-JASIF-CPNRFบาดตาเซียน ให้ผลตอบแทน7-8%ต่อปี

Published on 2017-09-30   By โพสต์ทูเดย์
โพสต์ทูเดย์ - กองทุนอสังหาฯ รีท
          อินฟราฟันด์ เข้าตานักลงทุน ให้ผลตอบแทน 7-8% ต่อปี หลังการลงทุนในพันธบัตรอายุ 10 ปีวูบ
          อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี ปรับตัวลงทำให้การลงทุนในกลุ่มกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (รีท) รวมถึงกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรืออินฟราสตรักเจอร์ฟันด์ มีความน่าสนใจมากขึ้นในแง่ของการลงทุนที่คาดหวังเงินปันผลสูง
          บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ" กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทลโกรท (CPNRF) ให้ราคา พื้นฐาน 21.60 บาท โดยมองว่าแม้ราคาหน่วยลงทุนของ CPNRF จะดีขึ้นบ้าง
          แล้ว แต่ยังคาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลปี 2561 จะอยู่ในเกณฑ์สูง 8.3%
          ทั้งนี้ CPNRF แปลงสภาพเป็นรีทหรือกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNREIT)และลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ในโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพัทยา (บางส่วน) และโรงแรมฮิลตัน พัทยา มูลค่า 1.19 หมื่นล้านบาท โดย ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2560 กองทุน CPNRF มีสินทรัพย์สุทธิ 3.01 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันมีการลงทุนในโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา 4 ทำเล คือ พระราม 2 พระราม 3 ปิ่นเกล้า และเชียงใหม่แอร์พอร์ต
          บล.ธนชาต แนะนำ "ซื้อ" กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) พร้อมปรับราคาเป้าหมายจาก 11.90 บาท เป็น 12.50 บาท ตามการปรับประมาณการกำไรปี 2561 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกออกมาตามคาด
          นอกจากนี้ บล.ธนชาต มองประเด็นที่น่าสนใจของ JASIF คือ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) มีเป้าหมายที่จะขายสินทรัพย์เข้า JASIF เพิ่มเติมในต้นปีหน้า นอกจากนี้แนะนำ "ซื้อ" กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) จาก 16.30 บาท เป็น 16.70 บาท หลังปรับมาใช้ประมาณการปี 2561 เป็นปีฐาน จากจุดเด่นของสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในประเทศที่กำลังเติบโต นอกจากนี้ DIF ยังคงให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจที่ 7% ต่อปี  ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกองทุนอื่น
          สำหรับทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) บล.ธนชาตปรับคำแนะนำจาก "ถือ" เป็น "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ 11.50 บาท จากการปรับกำไรสุทธิปี 2561-2562 ขึ้น 5-8% เพื่อสะท้อนการซื้อกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF) และการขายสินทรัพย์จากบริษัท ดับบลิวเอชเอ (WHA) เข้ากองทุนเพิ่มเติม คาดว่า WHART จะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 7-8% ในปีนี้ และปีหน้า