JASจ่อกลับเข้าSET50 MTLS-EA-TISCOติดโผ

Published on 2017-06-02   By ข่าวหุ้น
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศหุ้นเข้าดัชนี SET50 และ SET100 กลาง มิ.ย.นี้ มีผลในรอบครึ่งปีหลัง โดยใช้ข้อมูลช่วง 1 มิ.ย. 59–31 พ.ค. 60 ยก 6 หุ้นเข้า SET50 คือ BJC, EA, BPP, MTLS, TISCO, และ JAS ส่วนหุ้นออก PTG, THAI, BA, WHA, BCP, CK ขณะที่หุ้นเข้าดัชนี SET100 มี 12 ตัว โบรกฯ แนะ JAS ราคายังแลกการ์ด
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการประกาศหุ้นที่ได้เข้าคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้ และจะมีผลในรอบครึ่งหลังของปี 2560 (กรกฎาคม–ธันวาคม )
          ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของดัชนี SET50 ดัชนี SET100 ที่ใช้ในช่วงของครึ่งปีหลังของปี 2560 โดยใช้ข้อมูลตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2559 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 ซึ่งมีหลักเกณฑ์ เช่น เป็นหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูงสุด 200 ลำดับแรก  โดยพิจารณาจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเฉลี่ยต่อวันย้อนหลัง 3 เดือน
          เป็นหลักทรัพย์ที่มีสัดส่วนผู้ถือหลักทรัพย์รายย่อย (Free-float) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของทุนชำระแล้ว โดยพิจารณาข้อมูลล่าสุดตามรอบระยะเวลาในการทบทวน
          นอกจากนี้ เป็นหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอตามสภาพปกติของตลาด โดยมูลค่าซื้อขายของหลักทรัพย์นั้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อหลักทรัพย์ของหลักทรัพย์ประเภทหุ้นสามัญทั้งตลาดในเดือนเดียวกันเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 9 ใน 12 เดือน หรือไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 สำหรับหลักทรัพย์ที่เข้าซื้อขายน้อยกว่า 12 เดือน แต่มากกว่า 6 เดือน
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากบทวิเคราะห์ที่เป็นการคาดการณ์ของโบรกฯ เกี่ยวกับหุ้นที่จะเข้าและออกดัชนี SET50 และ SET100 ที่ออกมาตรงกันทุกโบรกฯ มีจำนวน 6 หุ้น คือ BJC, EA, BPP, MTLS, TISCO และ JAS
          บล.ทิสโก้ ระบุว่า จากการประเมินหุ้นที่จะเข้า SET50 Index มี 6 ตัว คือ BJC, EA, BPP, MTLS, TISCO, JAS โดยเรียงลำดับตามมูลค่าตลาดรวมจากมากไปหาน้อย ซึ่งจะเข้ามาแทนหุ้น PTG, THAI, BA, WHA, BCP, CK ที่ตกชั้นไปอยู่ในกลุ่ม SET100 Index
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากจากดูมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของหุ้น 6 ตัว ณ วันที่ 31 พ.ค. 60 ที่คาดว่าจะเข้าในรอบครึ่งปีหลังนั้น พบว่า BJC มีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 1.82 แสนล้านบาท, EA จำนวน 1.10 แสนล้านบาท, BPP จำนวน 7.37 แสนล้านบาท, MTLS จำนวน 6.83 แสนล้านบาท, TISCO จำนวน 6.10 แสนล้านบาท และ JAS จำนวน 5.26 แสนล้านบาท
          อย่างไรก็ดี เกณฑ์ของหุ้นที่จะเข้าคำนวณดัชนีนั้น ยังมีหลักเกณฑ์อื่นๆ เข้ามาประกอบด้วย
          บล.ทิสโก้ ระบุ อีกว่า ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะเข้าดัชนี SET100  มี 12 ตัว คือ BJC, EA, BPP, JAS, ESSO, TICON, BCPG, KSL, STA, WORK, MEGA, GFPT โดยเรียงลำดับตามมูลค่าตลาดรวมจากมากไปหาน้อย และจะเข้ามาแทนหุ้น IFEC, KAMART, RS, SCN, TTCL, SGP, THANI, COM7, ICHI, SAMART, STPI และ TTW ที่ถูกปรับออกไป
          ทั้งนี้ หุ้นที่เข้าดัชนี SET50 จะเป็นหุ้นที่นักลงทุนให้ความสนใจ จึงมักมีราคาหุ้นปรับตัวในทิศทางที่ดีกว่าตลาดในระยะสั้น  จากการศึกษาข้อมูลการซื้อขายในอดีตนับตั้งแต่ปี 2009 (หลังวิกฤติเศรษฐกิจโลก) เป็นต้นมาของเราพบว่า หุ้นที่ถูกคัดเลือกเข้าสู่การคำนวณดัชนี SET50 จะให้ผลตอบแทนเป็นบวกโดยเฉลี่ย +7.8%, +5.0%, +2.6% และ +2.7% ในช่วงก่อนเริ่มมีผลบังคับใช้ 1 เดือน, 3 สัปดาห์, 2 สัปดาห์ และ 1 สัปดาห์ ตามลำดับ
          และระดับความเชื่อมั่นอยู่ระหว่าง 60-80% หรือหมายความว่า หากซื้อหุ้นตัวนั้นก่อนวันที่จะมีผลบังคับใช้ 1 เดือน จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ +7.8% หรือหากซื้อหุ้นตัวนั้นก่อน 1 สัปดาห์ จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ +2.7% ตามลำดับ
          ทางด้าน บล.ทรีนีตี้ ระบุเช่นกันว่า กลุ่มหุ้นที่มีแนวโน้มถูกนำเข้าสู่การคำนวณดัชนี SET50 ในรอบถัดไป และราคายังคง Laggard ได้แก่ BPP และ JAS