บัวหลวงปันผลกองJASIF รายได้การลงทุนโต10.2%

Published on 2017-05-11   By ทันหุ้น

ทันหุ้น - บลจ.บัวหลวง ประกาศจ่ายปันผลกองทุนรวม JASIF ครั้งที่ 9 ในอัตรา 0.24 บาทต่อหน่วย พร้อมเงินลดทุนครั้งที่ 3 ในอัตรา 0.0237 บาทต่อหน่วย หลังตัวเลขรายได้โตแรง 10.2% เคาะจ่ายเงินคืน 6 มิถุนายนนี้ พร้อมเสนอขายกองทุนใหม่ "บัวหลวงอินคัม" ระหว่างวันที่ 8-16 พฤษภาคม นี้ เพื่อตอบโจทย์ผู้ต้องการรายรับสม่ำเสมอระหว่างการออมหรือการลงทุน
          นายสุทธิพงศ์ พัวพันธ์ประเสริฐ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานลงทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 9 และเงินลดทุนครั้งที่ 3 ในวันที่ 6 มิถุนายน 2560 โดยแบ่งเป็นเงินปันผลในอัตราหน่วยละ 0.24 บาท จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2560 ถึง วันที่ 31 มีนาคม 2560 ซึ่งกองทุนมีรายได้รวมสำหรับไตรมาส 1 ปี 2560 เท่ากับ 1,451.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 2.1% จากไตรมาสก่อน
          รายได้แจ่มได้จังหวะคืนกำไร
          โดยมีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 1,366.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 2.5% จากไตรมาสก่อน และจ่ายเงินลดทุนในอัตราหน่วยละ 0.0237 บาท โดยการลดมูลค่าที่ตราไว้จากหน่วยละ 9.8753 บาท เหลือหน่วยละ 9.8516 บาท จากค่าเช่าล่วงหน้าที่กองทุนได้รับจากบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB ในวันที่ทำการซื้อขายทรัพย์สินเสร็จสิ้นตามสัญญาเช่าหลัก โดยการลดทุนครั้งนี้เป็นการลดทุนจดทะเบียนของกองทุนรวมตามแผนที่ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนในโครงการจัดการกองทุน กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลและเงินลดทุนในวันที่ 23 พฤษภาคม 2560 และกำหนดวันจ่ายเงินคืน เป็นวันที่ 6 มิถุนายน 2560
          สำหรับ JASIF เป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่ลงทุนในเส้นใยแก้วนำแสง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของโครงข่ายโทรคมนาคม ที่สามารถให้บริการแบบ Triple Play ในลักษณะ On Demand ได้แก่ การให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง บริการโทรศัพท์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (VOIP) และบริการชมรายการโทรทัศน์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต (IPTV) ซึ่งตั้งแต่จัดตั้งกองทุน JASIF ได้จ่ายเงินคืนผู้ถือหน่วยลงทุนอย่าง ต่อเนื่อง และเมื่อรวมการจ่ายเงินคืนในครั้งนี้แล้วเท่ากับกองทุนได้มีการจ่ายเงินคืนผู้ถือหน่วยลงทุนไปแล้วรวมเป็นเงินทั้งสิ้นหน่วยละ 2.0284 บาท แบ่งเป็นเงินปันผลหน่วยละ 1.88 บาท และเงินลดทุนหน่วยละ 0.1484 บาท นับตั้งแต่กองทุนเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2558 เป็นต้นมา
          เสิร์ฟกองทุน B-INCOME
          ด้านนายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ และผลตอบแทนกองทุนตราสารหนี้ หรือหุ้นกู้และพันธบัตรอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ออมและนักลงทุนจำนวนมากแสวงหารูปแบบการลงทุนอื่นๆ ที่สามารถทดแทนรายได้สม่ำเสมอ (Recurring Income) ที่ลดลงไปจากที่เคยรับประจำ ทุกๆ 3 เดือน หรือ 6 เดือน
          ดังนั้นกองทุนบัวหลวงจึงได้จัดตั้ง "กองทุนบัวหลวงอินคัม" หรือ B-INCOME ขึ้นมาเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุน ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่จะตอบโจทย์ความต้องการนี้ โดยผสมผสานตราสารการเงินหลากหลายรูปแบบ ที่มีคุณลักษณะตรงกับความต้องการเข้าไว้ด้วยกัน และจะเปิดเสนอขายกองทุน B-INCOME ระหว่างวันที่ 8-16 พฤษภาคม นี้ มูลค่าเสนอขายขั้นต่ำเพียง 500 บาท มีค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุนเรียกเก็บจริงอยู่ที่ร้อยละ 0.5 ของมูลค่าหน่วยลงทุน โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการขายคืน
          สำหรับกองทุน B-INCOME เป็นกองทุนผสม ที่มีเป้าหมายการลงทุนเพื่อแสวงหากระแสเงินสดรับจากการลงทุนที่หลากหลาย แล้วนำกระแสเงินสดเหล่านั้นมาจ่ายคืนให้กับผู้ลงทุนเป็นรายไตรมาสในรูปแบบการขายคืนอัตโนมัติ ทดแทนการจ่ายเงินปันผลเพื่อให้เกิดความสม่ำเสมอในการจ่ายคืนผลตอบแทน โดยจะลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารหนี้ และบางส่วนจะถูกจัดสรรไปลงทุนในตราสารประเภทไฮยิลด์ที่ให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยที่สูงขึ้น กองทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน หรือ REIT ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่นประเทศสิงคโปร์ และหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงได้สม่ำเสมอ เพื่อจะได้เงินปันผลที่สม่ำเสมอจากกองทุนและตราสารเหล่านั้น เพื่อมาจ่ายคืนให้กับผู้ถือหน่วยในทุกๆ ไตรมาส