JASกำไรโตทะลัก715% ลูกค้าพุ่ง2.52ล้านราย JASIF ปันผลตามคาด 0.24 บาท/หน่วย

Published on 2017-05-09   By ข่าวหุ้น

“JAS” ข่าวดีล้นหลาม แจ้งงบไตรมาสแรกฟันกำไรสุทธิ 693 ล้านบาท พุ่งทะลัก 715% จากงวดเดียวกันปีก่อน อานิสงส์จากฐานลูกค้าอินเทอร์เน็ตพุ่ง 2.525 ล้านราย หนุนรายได้โต โบรกฯคาด JAS มีสิทธิ์หวนเข้าคำนวณ SET50 รอบ ก.ค.นี้ ฟาก JASIF จ่ายปันผลตามคาด 0.24 บาท/หน่วย
          นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/60 ทางบริษัทมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 693 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 715% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 85 ล้านบาท
          โดยในงวดไตรมาสแรกทางบริษัทมีรายได้รวมจากการดำเนินงานจำนวน 4,447 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 15% จากช่วงปีก่อนที่มีรายได้รวมจำนวน 3,852 ล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากทางบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB
          สำหรับภาพรวมในช่วงไตรมาส 1/60 ฐานลูกค้าที่ใช้บริการของ 3BB มีจำนวนเพิ่มขึ้นสุทธิ (Net Additional Subscriber) จำนวน 106,401 ราย เท่ากับปรับตัวเพิ่มขึ้นจำนวน 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนที่มีจำนวนลูกค้าสุทธิ 85,773 ราย นอกจากนี้ จำนวนลูกค้า Fiber Optic (FTTx) ยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่า 300 รายต่อวัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ทั้งนี้ ฐานลูกค้าอินเทอร์เน็ตรวมล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 2.525 ล้านราย
          นายพิชญ์ กล่าวอีกว่า ไตรมาสแรกบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานจำนวน 553 ล้านบาท เมื่อรวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 255 ล้านบาท และหักรายการสำรองหนี้สงสัยจะสูญของ 3BB จำนวน 60 ล้านบาท สำรองประมาณการหนี้สินตามแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทจำนวน 3 ล้านบาท
          นอกจากนี้ ยังมีการบันทึก Deferred Tax ของบริษัทและบริษัทย่อยอีกจำนวน 52 ล้านบาท ดังนั้น ภาพรวมของกำไรสุทธิในไตรมาส 1/60 ของบริษัทจึงอยู่ที่ระดับ 693 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 85 ล้านบาท
          ด้านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) มีรายได้รวมในไตรมาส 1/60 เท่ากับจำนวน 1,451 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน ส่วนมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 เท่ากับ 58,889 ล้านบาท คิดเป็น 10.7071 บาทต่อหน่วย
          ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้คำนวณหลักทรัพย์ที่มีโอกาสถูกนำเข้าคำนวณดัชนี SET50 ซึ่งจะมีผลในวันที่ 3 ก.ค. 2560 โดยกลุ่มหุ้นที่มีแนวโน้มถูกนำเข้าคำนวณดัชนี SET50 ในรอบถัดไป มีอยู่จำนวน 8 หลักทรัพย์
          โดยได้แก่ 1.JAS 2.บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC 3.บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA 4.บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP 5.บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH 6.บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTLS 7.บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) SCCC 8.บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO
          *JASIF ปันผล 0.24 บาท/หน่วย
          นายสุทธิพงศ์ พัวพันประเสริฐ รองกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บัวหลวง (บลจ.บัวหลวง) ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF ได้กำหนดจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค. 60 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.24 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 1,320 ล้านบาท โดยบริษัทจัดการกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 23 พ.ค. 60 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 6 มิ.ย. 60
          บลจ.บัวหลวง ระบุด้วยว่า กองทุน JASIF มีเงินสดส่วนเกินเนื่องมาจากค่าเช่าล่วงหน้าจำนวน 816.51 ล้านบาทที่กองทุนได้รับจากบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (TTTBB) ในวันที่ทำการซื้อขายทรัพย์สินเสร็จสิ้นตามสัญญาเช่าหลัก ทั้งนี้ บริษัทจัดการมีแผนที่จะลดทุนจดทะเบียนของกองทุนในปี 60 จำนวนประมาณ 130 ล้านบาท
          ดังนั้น บริษัทจัดการจึงมีความประสงค์ที่จะนำเงินจำนวน 130.35 ล้านบาท ไปดำเนินการลดเงินทุนจดทะเบียนของกองทุน และการลดทุนครั้งนี้เป็นการลดทุนจดทะเบียนของกองทุนรวมตามแผนที่ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนในโครงการจัดการกองทุน
          อย่างไรก็ตาม ค่าเช่าล่วงหน้าจำนวน 816.51ล้านบาทเป็นค่าเช่า 3 เดือนสุดท้ายตามสัญญาเช่าหลักที่จะเกิดขึ้นในปี 2569 การคืนเงินลงทุนดังกล่าวจะทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับเงินปันผลในอนาคตน้อยลงเนื่องจากเงินที่นำมาคืนนี้เป็นเงินค่าเช่าล่วงหน้าซึ่งในอนาคตกองทุนจะไม่ได้รับเงินค่าเช่าจำนวนดังกล่าวข้างต้นอีก
          นอกจากนี้ ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัยและกองทุนไม่มีทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงให้ TTTBB เช่า และสัญญาเช่าหลักถูกยกเลิกก่อนกำหนด กองทุนจะต้องคืนเงินค่าเช่าล่วงหน้าให้แก่ TTTBB ในกรณีที่ TTTBB ได้ปฏิบัติตามสัญญาเช่าหลักอย่างครบถ้วนแล้ว ซึ่งกองทุนอาจไม่มีเงินเพียงพอที่จะมาชำระค่าเช่าล่วงหน้าดังกล่าว (ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน) คืนให้แก่ TTTBB ได้
          และขอแจ้งกำหนดการลดทุนจดทะเบียนครั้งที่ 3 และวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อกำหนดสิทธิในเงินลดทุน ดังนี้ 1.ลดเงินทุนจดทะเบียนหน่วยละ 0.0237 บาท โดยการลดมูลค่าที่ตราไว้ จากหน่วยละ 9.8753 บาท เหลือหน่วยละ 9.8516 บาท โดยบริษัทจัดการกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินลดทุนในวันที่ 23 พ.ค. 60 และ 2.กำหนดจ่ายเงินลดทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 6 มิ.ย. 60
          นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี จำกัด กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงแนะ "ซื้อ" JASIF ราคาเป้าหมาย 13.20 บาท ฝ่ายวิเคราะห์ มองว่า กำไรปกติของ JASIF ในไตรมาส 1/60 สอดคล้องกับความคาดหมายโดยคิดเป็น 26% ของประมาณการทั้งปี โดยมีแนวโน้มเพิ่มทุนเพื่อซื้อสินทรัพย์อาจกดดันราคาหุ้น JASIF อย่างไรก็ตาม ยังแนะนำ “ซื้อ” โดยเห็นอัพไซด์ 11.1% ต่อการประเมินมูลค่าจากดีลนี้ ซึ่งอาจช่วยผลักดันราคาหุ้น