ช้อป8หุ้นจ่อเข้าSET50 "JAS-EA-MTLS"นำทีม

Published on 2017-05-05   By ข่าวหุ้น

เปิดโผ 8 หุ้น “JAS-EA-BJC-BPP-RATCH-MTLS-SCCC-TISCO” จ่อเข้าคำนวณดัชนี SET 50 รอบใหม่ 3 ก.ค.นี้ โบรกฯแนะซื้อเก็บ ชี้วิ่งเด่นเหนือภาวะตลาด ก่อนประกาศผลเป็นทางการ ฟาก BCPG-WORK-ANAN จ่อเข้าดัชนี SET100
          นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้คำนวณหลักทรัพย์ที่มีโอกาสถูกนำเข้าคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 ซึ่งจะมีผลในวันที่ 3 ก.ค. 2560 โดยฝ่ายวิเคราะห์ได้ใช้ข้อมูลจนถึงวันที่ 28 เม.ย. 2560 (ข้อมูลจริงจะใช้ถึงวันที่ 31 พ.ค. 2560)
          โดยหลักทรัพย์ที่มีโอกาสถูกคำนวณเข้าดัชนี SET 50 มีจำนวน 8 หลักทรัพย์ ได้แก่ 1.บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS 2.บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC 3.บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA 4.บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP
          5.บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH 6.บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTLS 7.บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC และ 8.บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO
          ขณะที่กลุ่มหลักทรัพย์ที่มีโอกาสถูกตัดออกจากดัชนี SET50 มีจำนวน 8 หลักทรัพย์ ได้แก่ 1.บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH 2. บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL 3.บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK           4.บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP 5.บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA 6.บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA 7.บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG และ 8.บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI
          นักวิเคราะห์ กล่าวอีกว่า กลุ่มหลักทรัพย์ที่มีโอกาสถูกคำนวณเข้าดัชนี SET100 มีจำนวน 15 หลักทรัพย์ ได้แก่ 1.JAS 2.BJC 3.EA 4.BPP 5.RATCH 6.SCCC 7.บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL 8.บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG 9.บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK
          10.บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA 11.บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT 12.บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL 13.บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN 14.บริษัท โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PTL และ 15.บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE
          ด้านกลุ่มหลักทรัพย์ที่จะถูกตัดออกจากดัชนี SET100 มีจำนวน 15 หลักทรัพย์ ได้แก่ 1.บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC 2.บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) หรือ VIBHA 3.บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA 4.บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ VNG 5.บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG 6.บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART
          7.บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI 8.บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 9.บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI 10.บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP 11.บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL 12.บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN 13.บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS 14.บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KAMART และ 15.บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW
          ทั้งนี้ จากผลการศึกษาในช่วงที่ผ่านมาพบว่าแนวโน้มราคาหุ้นที่ได้รับการถูกคำนวณเข้าและคัดออกจะมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในส่วนของ SET50 ซึ่งหุ้นที่ได้รับการคำนวณเข้าจะ Outperform ตลาด นับตั้งแต่ในช่วง 8 สัปดาห์ก่อนถึงวันที่กำหนดบังคับใช้จริง ซึ่งตรงกับช่วงเวลาขณะนี้จึงมีอัตราผลตอบแทนที่คาดว่าจะอยู่ที่ 4.20%
          ดังนั้น จึงกำหนดคำแนะนำ “ทยอยสะสม” หุ้น ได้แก่ JAS, BJC, EA, BPP, RATCH, MTLS, SCCC, TISCO และแนะนำหลีกเลี่ยงหุ้นที่มีโอกาสถูกตัดออกจาก SET50 ได้แก่ PSH, CENTEL, CK, BCP, WHA, BA, PTG และ THAI เนื่องจากราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับตัว Underperform ตลาด