JASซื้อวันนี้รับปันผล ทิ้งทวนก่อนXDพรุ่งนี้ เม.ย.ลุ้นโหวตขายทรัพย์เข้ากองทุน-ปันผลพิเศษ

Published on 2017-03-23   By ข่าวหุ้น
ทิ้งทวนก่อนXDพรุ่งนี้
          เม.ย.ลุ้นโหวตขายทรัพย์เข้ากองทุน-ปันผลพิเศษ
          “JAS” วิ่งทิ้งทวนก่อนขึ้น XD พรุ่งนี้ นักลงทุนซื้อวันนี้รับปันผล 25 สตางค์/หุ้น ยีลด์สูง 3% วงการเงินชี้จับตา 27เม.ย.นี้ ผู้ถือหุ้นโหวตอนุมัติขายสินทรัพย์ให้ JASIF มูลค่า 5-7 หมื่นล้านบาท จ่อบุ๊คกำไรพิเศษหมื่นล้านบาท ลุ้นจ่ายปันผลพิเศษ
          แหล่งข่าวจากวงการเงิน ประเมินว่า ในวันนี้ (23 มี.ค.) น่าจะมีแรงซื้อหุ้นบริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เข้ามาหนาแน่น เนื่องจากเป็นช่วงวันสุดท้ายที่สามารถเข้าเก็บหุ้นเพื่อรับเงินปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล (ดิวิเดนด์ยีลด์) รวมประมาณ 3% ประกอบกับทิศทางธุรกิจในงวดปี 2560 ยังมีศักยภาพฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง หลังจากไม่มีปัจจัยลบกดดันเหมือนในงวดปี 2559 ที่ต้องบันทึกรายการพิเศษ
          โดยหุ้น JAS ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลล่าสุด 0.25 บาทต่อหุ้น คิดเป็นดิวิเดนด์ยีลด์รวมประมาณ 3% เมื่อเทียบกับราคาปิดในกระดานวานนี้ (22 มี.ค.) ที่ระดับ 8.60 บาท และทางบริษัทมีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD (ผู้ซื้อไม่มีสิทธิได้ปันผล) ภายในช่วงวันที่ 24 มี.ค.นี้ จึงน่าจะส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นเข้ามาหนาแน่นเพื่อรับเงินปันผลดังกล่าว
          ขณะที่ทิศทางธุรกิจงวดปี 2560 หุ้น JAS ยังมีแนวโน้มกลับมาเติบโตได้ดีขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากในปี 2560ทางบริษัทไม่ต้องมีภาระการแบกต้นทุนค่าใช้จ่ายพิเศษเหมือนงวดปี 2559 ที่ต้องมีภาระบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษทิ้งใบอนุญาตเป็นจำนวนเงินกว่า 800 ล้านบาทเข้ามากดดัน
          อีกทั้งเทรนด์ธุรกิจบรอดแบนด์ยังอยู่ในช่วงของการเติบโตเช่นกัน ซึ่งล่าสุดมีฐานลูกค้าในมือแล้วประมาณ 2.5 ล้านราย และยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากแผนการขยายธุรกิจบรอดแบนด์และเร่งทำการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าของบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB
          นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่น่าจับตากรณีที่ประชุมบอร์ดในช่วงเดือนก.พ.ที่ผ่านมาได้มีมติจำหน่ายทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มจำนวนไม่เกิน 980,000 คอร์กิโลเมตรของTTTBB ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF
          ทั้งนี้ จะนำเสนอแผนดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นปี 2560 ช่วงวันที่ 27 เม.ย.นี้ เพื่อขอทางผู้ถือหุ้นอนุมัติ ดังนั้น หากผู้ถือหุ้นอนุมัติการจำหน่ายทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มของ TTTBB ให้กับ JASIFได้จริง น่าจะส่งผลให้บันทึกกำไรพิเศษหรืออาจนำมาจ่ายปันผลพิเศษได้ในภายหลังได้
          “วันนี้น่าจะมีแรงซื้อตัว JAS เข้ามาหนาแน่น เพราะถือเป็นวันสุดท้ายแล้วที่ซื้อหุ้นจะได้เงินปันผล 25 สตางค์ และถือเป็นปันผลที่ดิวิเดนด์ยีลด์สูงประมาณ 3% ขณะที่ภาพธุรกิจในปี 2560 จะกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้อีกครั้ง เพราะปี 2560จะไม่มีต้นทุนค่าใช้จ่ายพิเศษกดดัน และธุรกิจบรอดแบนด์ที่แม้ยังอยู่ในภาวะแข่งขันกันรุนแรง แต่คาดทาง TTTBB ยังมีศักยภาพที่จะขยายฐานลูกค้าให้โตได้ต่อเนื่อง” แหล่งข่าวกล่าว
          ด้านบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินในช่วงที่ผ่านมาว่า กรณี JAS และ JASIF แจ้งถึงการพิจารณาเบื้องต้นเพื่อเข้าลงทุน และการให้เช่าทรัพย์สินส่วนเพิ่มกับ TTTBB ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JAS ขนาดรายการ 5-7 หมื่นล้านบาท โดยหากอิงการขายสินทรัพย์ในอดีต คาดทำให้มีโอกาสเกิดกำไรในอนาคตในระดับ 1.2-1.4 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 1.92-2.24 บาท/หุ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อการเก็งกำไรในการขายสินทรัพย์
          ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) คาดกรณี JAS เตรียมขายสินทรัพย์เข้ากอง JASIF รอบ 2  มูลค่า 50,000-70,000 ล้านบาท เบื้องต้นคาดจะเงินนำที่ได้ ไปจ่ายหนี้สินที่มีอยู่ในปัจจุบันราว 1.4 หมื่นล้านบาท และอาจนำเงินส่วนหนึ่งมาจ่ายเป็นเงินปันผลพิเศษ
          ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 20 ก.พ. 2560 ที่ผ่านมา ทางที่ประชุมบอร์ด JASได้มีมติจำหน่ายทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มจำนวนไม่เกิน 980,000 คอร์กิโลเมตรของTTTBB ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF และกำหนดนำเสนอเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นปี 2560 พิจารณาในวันที่ 27 เม.ย. 2560
          สำหรับ TTTBB จะเสนอขายเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มจำนวนประมาณไม่เกิน 980,000 คอร์กิโลเมตรให้แก่ JASIF คาดจะมีมูลค่าประมาณ 50,000-70,000 ล้านบาท และที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติมอบหมายให้นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JAS หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากนายพิชญ์ มีอำนาจดำเนินการใดๆ ที่จำเป็นหรือเกี่ยวเนื่อง ตลอดจนกำหนด ต่อรอง รวมถึงรายละเอียดใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องต่อการทำธุรกรรมนี้
          นอกจากนี้ TTTBB จะเช่าทรัพย์สินส่วนเพิ่มจาก JASIF เพื่อใช้ทรัพย์สินส่วนเพิ่มในการดำเนินธุรกิจต่อไป โดยการเช่าเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มจะมีระยะเวลาเช่าเบื้องต้น 12 ปี ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวใกล้เคียงกับระยะเวลาเช่าเส้นใยแก้วนำแสงเดิมที่ทำไว้กับ JASIFในครั้งแรก อย่างไรก็ตามระยะเวลาการเช่าสุดท้ายต้องเจรจากับ JASIF ซึ่งอาจต้องเท่ากับอายุของใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สามของ TTTBB ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 29 ม.ค. 2575 หรือประมาณ 15 ปี นับจากปัจจุบัน