JASIFย้ำเพิ่มสินทรัพย์ ผลตอบแทนสูงกว่า9%

Published on 2017-03-08   By ข่าวหุ้น

ผลตอบแทนสูงกว่า9%
          กองทุนบัวหลวง มั่นใจ แผนเพิ่มทุนกองทุน JASIF เข้าซื้อสินทรัพย์ใยแก้วเร็วสุดไตรมาส 4 ปีนี้ ย้ำจะต้องให้ผลตอบแทนของกองทุนเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าเดิม 9% เผย วันที่ 9 มี.ค.นี้บอร์ดลงทุนอินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์ของบริษัทจะพิจารณาอนุมัติหลักการเข้าลงทุนและเงื่อนไขของโครงการ
          นายสุทธิพงศ์ พัวพันธ์ประเสริฐ Deputy Managing Director, Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) คาดว่า กองทุนดังกล่าวจะเพิ่มทุนเพื่อเข้าซื้อทรัพย์สินใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มจำนวนไม่เกิน 980,000 คอร์กิโลเมตร ของบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท มูลค่าประมาณ 5-7 หมื่นล้านบาท ได้เร็วที่สุดประมาณไตรมาส 4 ของปีนี้
          เนื่องจากบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ต้องขอมติผู้ถือหุ้นก่อนและกองทุนก็จะต้องขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในการซื้อสินทรัพย์ครั้งนี้กองทุนอาจจะมีการกู้เงินนอกเหนือจากการขายหน่วยลงทุนเพิ่มทุน เพราะต้นทุนดอกเบี้ยต่ำ ทั้งนี้ ทางบริษัทจะหารือกับบริษัท จัสมินฯ เพื่อสรุปรายละเอียดต่อไป ส่วนการเพิ่มทุนจะเสนอขายผู้ถือหน่วยลงทุนเดิม นักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนเฉพาะเจาะจง
          นายสุทธิพงศ์ กล่าวเพิ่มว่า ปัจจุบันกองทุนดังกล่าวมีการจ่ายเงินปันผลค่อนข้างดีและต่อเนื่อง ดังนั้นการซื้อสินทรัพย์เพิ่มจะต้องทำให้ผลตอบแทนของกองทุนเพิ่มขึ้นและต้องไม่น้อยกว่าเดิมและไม่ต่ำกว่าผลตอบแทนในตลาด โดยนักลงทุนที่ซื้อตั้งแต่ไอพีโอจะมีผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ย 9% ซึ่งไม่รวมลดทุน แต่หากเทียบราคาที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ประมาณ 12 บาทต่อหน่วย ผลตอบแทนก็จะอยู่ที่ประมาณ 7%
          "กองทุนได้รับความสนใจจากนักลงทุนค่อนข้างดี โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งช่วงเสนอขายไอพีโอมีสัดส่วนถึง 40% ดังนั้นการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะมีการทำโรดโชว์เพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุน" นายสุทธิพงศ์ กล่าว
          อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 9 มี.ค.2560 คณะกรรมการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทจะพิจารณาอนุมัติหลักการเข้าลงทุนและเงื่อนไขของโครงการส่วนเพิ่ม ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าโครงสร้างการเช่าน่าจะเหมือนเดิมโดยให้บริษัท ทริปเปิลบีฯ เช่าสัดส่วน 80% ของทรัพย์สินส่วนเพิ่มทั้งหมด เพื่อประกอบธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ต่อไป และมีการรับประกันรายได้ค่าเช่า 20% ของทรัพย์สิน รวมทั้งกองทุนสามารถนำทรัพย์สินส่วนที่เหลือ 20% ไปให้ผู้ประกอบการรายอื่นเช่าต่อได้ นอกจากนี้จะหารือการต่อขยายอายุสัญญาเช่าหรือสัญญารับประกันรายได้ค่าเช่าเส้นใยแก้วนำแสงเดิมของชุดแรก หลังจากบริษัท ทริปเปิลบีฯ ได้รับการต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมเพิ่ม
          นายสุทธิพงศ์ กล่าวว่า ปัจจุบันเส้นใยแก้วนำแสงที่ให้บริการอยู่นั้นมีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งปัจจุบันการแข่งขันในกรุงเทพฯ และในเมืองค่อนข้างสูง บริษัท จัสมินฯ จึงมีแผนขยายกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดให้มากขึ้น โดยเจาะลึกเข้าถึงหมู่บ้าน ซึ่งยังไม่มีคู่แข่ง ถือเป็นจุดแข็งของบริษัท จัสมินฯ
          ทั้งนี้ JASIF เป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่ลงทุนในเส้นใยแก้วนำแสง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของโครงข่ายโทรคมนาคมที่สามารถให้บริการแบบ Triple Play ในลักษณะ On Demand ได้แก่ การให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง บริการโทรศัพท์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (VOIP) และบริการชมรายการโทรทัศน์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต (IPTV) ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน JASIF มีการประกาศจ่ายปันผลถึงครั้งล่าสุดนี้รวม 8 ครั้งเป็นจำนวนเงิน 1.64 บาทต่อหน่วยลงทุน และมีการจ่ายคืนเงินลดทุนทั้งสิ้น 2 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 0.1247 บาทต่อหน่วยลงทุน รวมเป็นเงินจ่ายคืนผู้ลงทุนทั้งสิ้น 1.7647 บาทต่อหน่วยลงทุน นับตั้งแต่กองทุนเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2558 เป็นต้นมา