JASIFครองแชมป์กองทุนให้ผลตอบแทนสูงสุด50% หุ้นเด่นกลุ่มกองทุนเป้าหมาย 13.20 บาท

Published on 2017-03-06   By ข่าวหุ้น

ให้ผลตอบแทนสูงสุด50%
          *หุ้นเด่นกลุ่มกองทุนเป้าหมาย 13.20 บาท
          มอร์นิ่งสตาร์ยก “กองทุนบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตจัสมิน” แชมป์กองทุนที่สร้างผลตอบแทนสูงสุดในรอบปี สูงถึง 50.07% ล่าสุดปันผลอีกหน่วยละ 0.23 บาท ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 8  ด้านโบรกฯ มองเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มกองทุนฯ มีสภาพคล่องสูง ราคาเป้าหมาย  13.20 บาท
          นายกิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ นักวิเคราะห์กองทุนประจำประเทศไทย บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ช่วงปีที่ผ่านมามีกองทุนประเภทต่างๆสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนในระดับสูง โดยเฉพาะกองทุนประเภทอินฟราสทรัคเจอร์ฟันด์ กองทุนรีสท์ และกองทุนพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ ถือเป็นกองทุนที่นักลงทุนไม่อาจที่จะมองข้ามไปได้ เนื่องจากสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้ในระดับสูง ทั้งจากส่วนต่างของราคาแล้ว ยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในระดับสูงอีกด้วย
          จากข้อมูลย้อนหลังช่วงหนึ่งปี ณ วันที่ 24 ก.พ.60 พบว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตจัสมิน หรือ JASIF  โดยมีบลจ.บัวหลวง เป็นผู้จัดการกองทุน  สามารถสร้างผลตอบแทนสูงถึง 50.07% ถือเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่มกองทุนขนาดใหญ่อย่างกองทุนอินฟราฯ  กองทุนรีสท์ และกองทุนพร็อพเพอร์ตี้ฯ อันดับสอง  กองทุนสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา หรือ CTARA  โดยมีบลจ.กสิกรไทย เป็นผู้จัดการกองทุน  สามารถสร้างผลตอบแทนสูงถึง 49.30%
          อันดับสาม กองทุนทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล  โดยมี บลจ.LHfund เป็นผู้จัดการกองทุน  ผลตอบแทนสูงถึง 40.15% อันดับสี่ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ตลาดไท โดยมีบลจ.กรุงไทย เป็นผู้จัดการกองทุน สร้างผลตอบแทนสูงถึง 34.67% และอันดับห้า กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลด์ โดยมีบลจ.กสิกรไทย เป็นผู้จัดการกองทุน สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงถึง 34.53%
          นายสุทธิพงศ์ พัวพันธ์ประเสริฐ  Deputy Managing Director, Head of Real Estate & Infrastructure Investment  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด กล่าวว่า ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนกองทุน JASIF โดยวันที่ 14 มี.ค.60 JASIF จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนครั้งที่ 8 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.23 บาท โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผลเมื่อวันที่ 28 ก.พ.60 ที่ผ่านมา
          สำหรับ JASIF เป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่ลงทุนในเส้นใยแก้วนำแสง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของโครงข่ายโทรคมนาคมที่สามารถให้บริการแบบ Triple Play ในลักษณะ On Demand ได้แก่ การให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง บริการโทรศัพท์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (VOIP) และบริการชมรายการโทรทัศน์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต (IPTV) ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน JASIF มีการประกาศจ่ายปันผลถึงครั้งล่าสุดนี้รวม 8 ครั้งเป็นจำนวนเงิน 1.64 บาทต่อหน่วยลงทุน และมีการจ่ายคืนเงินลดทุนทั้งสิ้น 2 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 0.1247 บาทต่อหน่วยลงทุน รวมเป็นเงินจ่ายคืนผู้ลงทุนทั้งสิ้น 1.7647 บาทต่อหน่วยลงทุน นับตั้งแต่กองทุนเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน ก.พ.58 เป็นต้นมา
          ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF ถือเป็นหนึ่งในหุ้นเด่นในกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งหากรัฐบาลเดินหน้า และให้ความสำคัญกับการขยายโครงข่ายไฟเบอร์ออพติกออกไป ก็จะทำให้กองทุนฯ มีความน่าสนใจมากขึ้น ในแง่ของผลตอบแทนที่จะเติบโตในอนาคต
          ปัจจุบัน JASIF เป็นกองทุนที่มีสภาพคล่องสูง และอยู่ในความสนใจของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ล่าสุด กองทุนฯ กำลังจะได้รับโอนสินทรัพย์เข้ามาเพิ่มเติม เป็นเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่ม จำนวนไม่เกิน 9.8 แสนคอร์กิโลเมตร มูลค่าประมาณ 5-7 หมื่นล้านบาท  จากทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTTBB) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS  ที่เป็นสปอนเซอร์หลักของกองทุน
          ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี แนะนำซื้อ JASIF ราคาเป้าหมาย 13.20 บาท เนื่องจากกำไรปกติของบริษัทจะสูงกว่าที่คาด 0.2% และสูงกว่าตลาดคาด 0.5% ด้วยโอกาสในการเพิ่มสินทรัพย์ใหม่เข้ากองทุน เป็นปัจจัยบวก ดีลนี้คาดจะทำให้เงินปันผลเพิ่มขึ้น 54% ในปี 2560-2565 และมูลค่าหุ้น DCF เพิ่มขึ้น 11% ในปี 60 คงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยมองว่าความคืบหน้าของดีลจะทำให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น