JASหุ้นรูดเซ็ง!ปันผลน้อย ลูกค้า3BBพุ่ง2.5ล้านราย

Published on 2017-02-21   By ข่าวหุ้น

ลูกค้า3BBพุ่ง2.5ล้านราย
          JAS ราคาหุ้นร่วง! หลังจ่ายปันผลหุ้นละ 25 สตางค์ น้อยกว่าตลาดคาด พร้อมประกาศงบปี 59 มีกำไรสุทธิ 3,000 ล้านบาท ส่องอนาคตปี 60 ยังสดใส เหตุไร้รายการพิเศษกดดัน-ธุรกิจบรอดแบนด์โตไม่หยุด ล่าสุดลูกค้าในมือพุ่ง 2.5 ล้านราย ด้าน “TTTBB” รับข่าวดีกสทช.ต่อใบอนุญาตอีก 15 ปี สิ้นสุดสัญญาปี 75
          แหล่งข่าวจากวงการเงิน เปิดเผยว่า กรณีราคาหุ้นบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ที่ปรับตัวลดลงไปเกือบ 3% ในช่วงภาคบ่ายวานนี้ (20 ก.พ.) หลังจากประกาศงบปี 2559 อย่างเป็นทางการในช่วงเวล 12.41 น. เนื่องจาก JAS มีกำไรสุทธิทั้งปี 2559 จำนวน 3,001 ล้านบาท ปรับลดลงจากปี 2558 ที่มีกำไรสุทธิ 15,710 ล้านบาท และประกาศจ่ายเงินปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น จากกำไรสะสม ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
          อย่างไรก็ตาม ภาพรวมกำไรสุทธิงวดปี 2559 ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เพราะมีแรงหนุนจากการเติบโตของธุรกิจบรอดแบนด์ เพียงแต่ในปี 2559 ทางบริษัทต้องมีภาระบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษทิ้งใบอนุญาตเป็นจำนวนเงินกว่า 800 ล้านบาทเข้ามากดดัน
          อีกทั้งในงวดปี 2558 ทาง JAS ยังมีกำไรเติบโตกว่าภาวะปกติ เพราะมีรายการพิเศษบันทึกเงินขายสินทรัพย์เข้ากองทุนสูงกว่า 13,000 ล้านบาท ดังนั้น หากเทียบกำไรงวดปี 2559 และงวดปี 2558 แบบตัดรายการพิเศษขายสินทรัพย์เข้ากองทุนระดับ 13,000 ล้านบาทออกไป ยังถือว่างบปี 2559 มีกำไรอยู่ในเกณฑ์ดี
          นอกจากนี้ แนวโน้มผลการดำเนินงานงวดปี 2560 จะมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากในปี 2560 ทางบริษัทจะไม่มีผลกระทบจากการบันทึกรายการพิเศษต่างๆ ประกอบกับแนวโน้มธุรกิจบรอดแบนด์ยังมีศักยภาพเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง สะท้อนได้จากยอดฐานลูกค้าที่ปรับเพิ่มขึ้นในทุกปี จนล่าสุดมีลูกค้าในมือรวมแล้วถึงระดับ 2.5 ล้านราย
          ดังนั้น จึงยังแนะนำเข้า “ซื้อ” ในช่วงจังหวะที่ราคาหุ้นอ่อนตัว เพราะยังได้รับเงินปันผล จำนวน 0.25 บาทต่อหุ้น คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล (ดิวิเดนด์ยีลด์) ประมาณ 2.7% ประกอบกับงวดปี 2560 ทิศทางธุรกิจของ JAS จะกลับมาเติบโตได้ปกติ จากแรงหนุนธุรกิจบรอดแบนด์ และไม่มีปัจจัยลบรายการพิเศษเข้ามากดดัน
          ขณะที่ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น JAS ในวานนี้ (20 ก.พ.) พบว่า ได้ทำราคาเปิดการซื้อขายที่ระดับ 9.60 บาท และทำราคาสูงสุดของวันที่ระดับ 9.65 บาท จากนั้นในช่วงภาคบ่ายราคาหุ้นได้กลับมาปรับตัวลดลง และทำราคาต่ำสุดของวันที่ 9.20 บาท หลังจากบริษัทประกาศงบปี 2559 ออกมาเป็นทางการ
          อย่างไรก็ตาม ในช่วงก่อนปิดการซื้อขายภาคบ่าย ได้เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้ง และช่วยหนุนให้ JAS ปิดการซื้อขายที่ระดับ 9.35 บาท ปรับลดลง 0.15 บาท หรือคิดเป็นลดลง 1.58% เมื่อเทียบราคาปิดก่อนหน้า มีมูลค่าการซื้อขายตลอดวันทั้งสิ้น 2,471 ล้านบาท ดังนั้น เงินปันผลที่บริษัทประกาศจ่ายจำนวน 0.25 บาท จะคิดเป็นดิวิเดนด์ยีลด์ 2.7% เมื่อเทียบราคาปิดล่าสุด 9.35 บาท
          อีกทั้งจากการสำรวจข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า หลังจากที่นายพิชญ์  โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JAS ทำเทนเดอร์ซื้อหุ้นบริษัท ไปเมื่อช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้ถือครองหุ้นสามัญในมือรวมขึ้นเป็นระดับ 4,295 ล้านหุ้น ดังนั้น จากที่บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 0.25 บาท เท่ากับนายพิชญ์จะได้รับเงินปันผลในรอบนี้เป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
          *ปิดงบปี 59 มีกำไร 3 พันล้าน
          นายพิชญ์  โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JAS เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2559 ทางบริษัทมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 3,001 ล้านบาท ปรับลดลงจากช่วงปี 2558 ที่มีกำไรสุทธิ 15,710 ล้านบาท เนื่องจากกำไรสุทธิในปี 2558 ได้รวมกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนสุทธิเป็นจำนวนรวม 13,218 ล้านบาท
          โดยบริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมจากการดำเนินงานในปี 2559 จำนวน 15,991 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 10% จากงวดปี 2558 ที่มีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 14,568 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้จากบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB จำนวน 15,130 ล้านบาท คิดเป็น 94.6% ของรายได้รวมจากการดำเนินงาน
          ทั้งนี้ ในปี 2559 ทาง TTTBB ได้ส่งมอบทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงให้กับกองทุน JASIF ครบทั้งจำนวนแล้วในเดือนพ.ย.59 ซึ่งมีกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนจำนวน 2,160 ล้านบาท โดยในปี 2559 ลูกค้าที่ใช้บริการของ 3BB มีจำนวนเพิ่มขึ้นสุทธิ (Net Additional Subscriber) จำนวน 432,394 ราย ปรับเพิ่มขึ้น 25.7% จากช่วงปี 2558 ส่งผลล่าสุดมีลูกค้ารวมอยู่ที่ 2.5 ล้านราย
          นายพิชญ์ กล่าวอีกว่า ในงวดปี 2559 ทาง TTTBB ได้ดำเนินการลงทุนในอุปกรณ์โครงข่ายเพื่อขยายธุรกิจในปี 2559 ได้แก่ เส้นใยแก้วนำแสง สายทองแดงยานพาหนะ และอื่นๆ ซึ่งคิดค่าเสื่อมราคาตามอายุการใช้งานตั้งแต่ปี 2552–2559 เป็นเงินทั้งสิ้น 2,612 ล้านบาท
          โดยมีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 105 ล้านบาท และสำรองหนี้สงสัยจะสูญและหนี้สูญของบริษัทย่อย จำนวน 279 ล้านบาท อีกทั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของลูกหนี้ตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ TT&T จำนวน 59 ล้านบาท ส่วนการสำรองประมาณการหนี้สินตามแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทจำนวน 12 ล้านบาท และมีค่าเสียหายจากการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการดำเนินการก่อนรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ของ JASMBB จำนวน 841 ล้านบาท
          นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2560 ยังมีมติประกาศจ่ายเงินปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น จากกำไรสะสม โดยกำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD (ผู้ซื้อไม่มีสิทธิได้ปันผล) ภายในวันที่ 24 มี.ค. 2560 กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 28 มี.ค. 2560 โดยกำไรสะสมของบริษัท ณ สิ้นปี 2559 มีจำนวน 2,488 ล้านบาท ทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท ซึ่งคิดเป็น 63.9% ของกำไรสะสม
          *TTTBB ได้ต่อใบอนุญาต 15 ปี
          นายพิชญ์ เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2559 ทาง TTTBB ได้รับการขยายอายุใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นระยะเวลา 15 ปี โดยจะสิ้นสุดวันที่ 29 ม.ค. 2575 จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 22 ก.พ. 2569 ทำให้ TTTBB สามารถทำธุรกิจต่อเนื่องได้อีกเป็นระยะเวลายาวนาน ซึ่งจะเป็นผลให้กำไรของบริษัทมีเพิ่มมากขึ้น
          ขณะที่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทุน มีผลประกอบการ คือ รายได้รวมในปี 2559 เท่ากับ 5,468 ล้านบาท และมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2559 เท่ากับ 56,743 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10.3168 บาทต่อหน่วย และ JASIF  ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.23 บาท ซึ่ง JAS จะได้รับเงินปันผลเป็นจำนวน 421  ล้านบาท ในวันที่ 14 มี.ค. 2560