''พิชญ์''รวบหุ้นJASได้แล้ว72.03%ยันไม่ขายใน1ปี 

Published on 2016-10-30   By ฐานเศรษฐกิจ

 หุ้น JAS แผลงฤทธิ์ พุ่งเหนือราคาเทนเดอร์ฯ 11.7% "พิชญ์ โพธารามิก" แจ้งรวบหุ้นได้แล้ว 72.03% วอร์แรนต์ 36.67% ลั่นไม่มีแผนขาย-โอนออกใน 1 ปี ไม่เปลี่ยนธุรกิจหลัก นักวิเคราะห์มึนไม่รู้สาเหตุ ให้แนวรับ 7.40 บาท แนวต้าน 8 บาท

          หุ้นบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่น แนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ปรับตัวขึ้นแรงพร้อมมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น ล่าสุดวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมาปิดที่ 8.10 บาท มูลค่าการซื้อขาย 494 ล้านบาท ขณะที่วันก่อนหน้า (27 ตุลาคม) ราคาปิดที่ 7.95 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,498 ล้านบาท โดยพบว่าราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาเสนอซื้อ (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) ถึง 11.72%

          นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ JAS ประ กาศตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้น JAS และใบสำคัญแสดงสิทธิ์ที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) โดยเสนอซื้อหุ้น JAS ที่ 7.25 บาทต่อหุ้น และ 3.68 บาทสำหรับ JAS-W3 ระหว่างวันที่ 29 กันยายน-3 พฤศจิกายนศกนี้ และ ณ วันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายพิชญ์ รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯว่าเขาซื้อหุ้นได้แล้ว 72.03 % และซื้อวอร์แรนต์ได้ทั้งสิ้น 36.67%

          นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่าราคาหุ้น JAS ที่ปรับตัวขึ้นแรงยังไม่ทราบมาจากปัจจัยใดชัดเจน แต่หากมองในแง่สัญญาณทางเทคนิคแสดงให้เห็นว่ายังไปต่อได้อีกเนื่อง จากมูลค่าการซื้อขายหรือโวลุ่มเทรดที่เข้ามามากถือว่าสัญญาณเทคนิคดี โดยมีแนวรับ 7.40 บาท ส่วนแนวต้าน 8.00 บาท

          ก่อนหน้านี้นายพิชญ์ ระบุในรายงานความเห็นเกี่ยวกับการเสนอซื้อหลักทรัพย์ โดยยืนยันว่าไม่มีแผนจะขายหรือโอนหุ้นของกิจการที่ถืออยู่ก่อนการทำคำเสนอซื้อ ให้แก่บุคคลอื่นในจำนวนที่มีนัยสำคัญในช่วงระยะเวลา 12 เดือนนับจากวันสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อ เว้นแต่ในกรณีที่กิจการมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่มีผลบังคับใช้ในขณะนั้น รวมถึงไม่มีแผนที่จะเปลี่ยน แปลงวัตถุประสงค์การดำเนินธุรกิจหลักของกิจการและบริษัทย่อยที่สำคัญของกิจการอย่างมีนัยสำคัญในระยะเวลา 12 เดือนนับจากวันสิ้นสุดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อ และยังคงเน้นการดำเนินธุรกิจของกิจการเช่นเดิม

          ทั้งนี้หากภายหลังสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อปรากฏว่ามีผู้ถือหุ้นตอบรับคำเสนอซื้อจำนวนมากอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสภาพคล่องของหลักทรัพย์ของบริษัท รวมทั้งการดำรงสภาพความเป็นบริษัทจดทะเบียนในเรื่องการกระจายหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย อย่างไรก็ตามความเสี่ยงในเรื่องนี้จะลดน้อยลงหากเกิดเหตุการณ์ในกรณีดังต่อไปนี้ 1. หากการขายหุ้นให้แก่ผู้ทำคำเสนอซื้อไม่ได้เป็นจำนวนมากจนเป็นเหตุให้เกิดผลกระทบดังกล่าว

          2. ในกรณีที่บริษัทมีนโยบายที่จะนำหุ้นที่ซื้อคืนแล้วจำนวน 1,200,000,000 หุ้นจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไป ซึ่ง มีกำหนดระยะเวลาในการเสนอขายระหว่างวันที่ 14-16 ธันวาคม 2559 โดยหุ้นจำนวนดังกล่าวจะคิดเป็น 16.82% ของหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด (ณ วันที่ 19 กันยายน 2559 มีจำนวน 7,135,779,482 หุ้น)

          และ 3. ผู้ทำคำเสนอซื้อทำการกระจายหุ้นที่ตนเองถืออยู่ออกไป เพื่อให้มีสัดส่วนการถือหุ้นของรายย่อยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ คือ มีจำนวนรายย่อยไม่น้อยกว่า 150 ราย และถือหุ้นรวมกันมากกว่าหรือเท่ากับ 15% ของทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว