JASIF-DIF ปันผลแจ่ม โบรกฯ ชูหุ้นหลบภัยยามตลาดผันผวน

โบรกฯ แนะจัดสรรเงินลงทุนแบบ Income investing ด้วยการคัดเลือกกองทุนอสังหาริมทรัพย์, REITs และ Infrastructure Fund เพื่อเป็นหลุมหลบภัยในยามที่ตลาดผันผวนหนัก ชู JASIF-DIF
          นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ให้รายชื่อหลักทรัพย์ที่เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในกลุ่มกองทุนอสังหาริมทรัพย์, REITs และ Infrastructure Fund กับจุดเด่นเรื่องกระแสเงินสดที่มีเสถียรภาพ และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 6.1% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ 2.2% ตอกย้ำคุณสมบัติการเป็นหลุมหลบภัยในยามที่ตลาดมีความไม่แน่นอนสูง
          จากการวิเคราะห์สินทรัพย์ใน 3 กลุ่มนี้ เริ่มด้วย Infrastructure Fund นักวิเคราะห์ดีบีเอสฯ ยกให้กลุ่มสื่อสารเป็นกองทุนเด่น แต่หากเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และ REIT เป้าหมายน่าจะอยู่ที่กลุ่มกองทุนที่บริหารพื้นที่อาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีกให้เช่า และโรงแรม ซึ่งมีความน่าสนใจตามความต้องการเช่าพื้นที่ และมีซัพพลายใหม่เข้ามาไม่มาก โดย 6 หลักทรัพย์ที่ถือเป็น Top Picks ของดีบีเอสฯ ประกอบด้วย 1.กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF 2.กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล หรือ DIF ซึ่งคาดว่าจะให้ Dividend Yield ปี 60 สูงมากถึง 8.5% และ 7.0% ตามลำดับ เพราะกองทุนฯ มีรายได้จากการให้เช่าโครงข่ายที่แน่นอน
          3.ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล หรือ LHHOTEL ที่มีทำเลของโรงแรมดี สอดรับกับการเติบโตของภาคท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบัน REIT กองนี้ ลงทุนในโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 4.ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท หรือ WHART สำหรับ REIT กองนี้มีความโดดเด่นที่ตัว Dividend Yield ในปี 60 ซึ่งนักวิเคราะห์คาดไว้สูงถึง 7.7% นอกจากนี้ ยังมีโอกาสเติบโตจากการซื้อกิจการของสปอนเซอร์ด้วย
          5.กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซี.พี.ทาวเวอร์ โกรท หรือ CPTGF ดีบีเอสฯ ยกให้เป็น Top Picks สำหรับกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เพราะอาคารสำนักงานให้เช่าและศูนย์การค้า ซึ่งประกอบด้วย อาคารซี.พี.ทาวเวอร์จำนวน 3 ตึก ตั้งอยู่ในทำเลดี ใกล้รถไฟฟ้า BTS และ MRT
          และ 6.กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท หรือ CPNRF กองทุนนี้ มีจุดเด่นคือ โอกาสในการแปลงไปเป็น REIT ในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งจะส่งผลดีให้กองทุนสามารถเพิ่มสินทรัพย์เข้ามาในกองได้ นอกจากนี้ ยังเปิดทางให้กองทุนกู้ยืมมาลงทุนได้อีก โดยกู้ยืมได้ 35% และขยายได้ถึง 60% ถ้ามี Investment rating นักวิเคราะห์เชื่อว่าหาก CPNRF แปลงเป็น REIT โดยมีทั้งการลงทุนเพิ่มและมีการกู้ยืมรวมเข้าไปด้วยแล้ว จะทำให้ Yield ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ Dividend yield ปี 60 ไว้ที่ 5.7%
          "ในภาวะความไม่แน่นอนในประเทศที่มีสูง บวกกับความกังวลในต่างประเทศเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด การหลบมาอยู่ในสินทรัพย์ประเภทที่เป็น Income Investing จะช่วยให้ผู้ลงทุนอุ่นใจขึ้นได้บ้าง จากรายได้ที่จะเข้ามาสม่ำเสมอ สามารถรอรับเป็นกระแสเงินสด แทนที่จะคาดหวังเรื่องการทำกำไรจากส่วนต่างราคา (Capital gain) เป็นอันดับแรก"
          นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า พอร์ตการลงทุนสำหรับไตรมาส 4/59 ผู้ลงทุนจำเป็นต้องลดระดับความเสี่ยง จากหลายเหตุการณ์ที่จะทำให้ตลาดผันผวน และมีผลต่อการเคลื่อนย้ายของสภาพคล่อง โดยสินทรัพย์ที่ยังคงเป็น Theme ลงทุนหลัก คือ กลุ่มกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งรวมไปถึงกอง REIT และ Infrastructure Funds ด้วย เนื่องจากสินทรัพย์ทางเลือกเหล่านี้ ยังให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าจูงใจ แม้ราคาซื้อในกระดานจะบวกขึ้นมาสูงแล้วก็ตาม
          สำหรับสินทรัพย์ในกลุ่มนี้บริษัทให้น้ำหนักไว้ที่ 20-30% ของพอร์ต พร้อมยกให้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล หรือ DIF และกองทุนรวมพื้นฐาน บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF เป็น Top pick ของกลุ่ม