คิดการใหญ่รวบหุ้นจัสมิน - แย้มแผนธุรกิจสนใจ.4จี.เปิด"มาชาน ลี"กุนซือ"พิชญ์"

Published on 2016-09-21   By กรุงเทพธุรกิจ

 ตลาดขึ้นเอสพีหุ้น "เจทีเอส" เหตุไม่แจง รายละเอียดเทนเดอร์
          เปิดตัว "มาชาน ลี" ที่ปรึกษา "พิชญ์ โพธารามิก" กู้เงิน 4 หมื่นล้านใช้ตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นกลุ่มจัสมิน เผยขอรวบหุ้นทั้งหมดก่อนที่จะเปิดแผนธุรกิจ ย้ำยังสนใจ 4 จี แนะรายย่อยอย่าร่วมวงเก็งกำไรหุ้นที่ เกี่ยวโยง ด้านโบรกเกอร์ประเมิน 2 ทางเลือก หุ้นที่ซื้อคืนจะนำไปขายให้เอไอเอส กับควบรวมกับดีแทค
          การที่ "พิชญ์ โพธารามิก" ประกาศทำคำเสนอซื้อหุ้นบริษัทจัสมิน อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) JAS จากผู้ถือหุ้น ทั้งหมด 4,091 พันล้านหุ้น ที่ราคา 7.25 บาท และใบสำคัญแสดงสิทธิที่ชุดที่ 3 จำนวน 2.7 พันล้านหน่วย ที่ราคา 3.68 บาท มูลค่าการทำรายการรวม 4.25 หมื่นล้านบาท โดยแจ้งวัตถุประสงค์การทำคำเสนอซื้อ หรือเทนเดอร์-ออฟเฟอร์ เพื่อต้องการ ให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพและ ยืนยันจะยังเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย
          นายชาญ บูลกุล หรือที่รู้จักกันดีในนาม  มาชาน ลี ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป ในฐานะที่ปรึกษา นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า การรับซื้อหุ้นจัสมิน ทั้งหมดนั้น โดยส่วนตัวยังคงทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับนายพิชญ์ ซึ่งต้องการจะรวบรวมหุ้นให้เรียบร้อย เพื่อที่จะนำไปสู่แนวทางการผลักดันให้ธุรกิจมีความแข็งแรงมากขึ้น โดยแผนต่อไปจะนำไปขายต่อหรือควบรวมกับใคร ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจเพราะต้องรับซื้อหุ้นทั้งหมดให้แล้วเสร็จก่อน
          "การที่มีประเมินว่าจะนำหุ้นไปขายต่อนั้น หรือการนำหุ้นไปควบรวมกับบริษัทอะไร ยังไม่ได้คิดตอนนี้ขอรวบรวมหุ้นให้ได้มากที่สุดก่อนค่อยตัดสินใจอีกครั้ง"
          แจสรับยังสนใจลงทุน 4 จี
          นายชาญกล่าวว่า บริษัทจัสมินยังมีความสนใจที่จะลงทุนในธุรกิจมือถือในระบบ 4 จีอยู่ และหากจะต้องหาพันธมิตรใหม่ก็คงต้องมีซินเนอยีในเรื่องดังกล่าวด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ระบุว่าจะทำอะไรหรือกรณีที่คาดว่าจะไปขายหุ้นต่อให้นักลงทุนต่างประเทศนั้น ก็คงต้องดูว่ากลุ่มไหนสามารถให้ประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจหรือสร้างความแกร่งให้กับบริษัทในอนาคต
          อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่ได้ข้อมูลมา ควรจะไตร่ตรองให้ดีเพราะไม่อยากให้เข้าไป ร่วมเก็งกำไรกับหุ้นถูกนำมาเกี่ยวโยงด้วย หากไปเป็นไปตามที่คาดการณ์ก็อาจเจ็บตัวได้
          ก่อนหน้านี้ จัสมินฯได้เข้าร่วมประมูลใบอนุญาต 4 จี และเป็นหนึ่งในผู้ชนะใบอนุญาตดังกล่าวด้วยวงเงิน7.5 หมื่นล้านบาท แต่ต้องทิ้งใบอนุญาตดังกล่าวเพราะหา แบงการันตีไม่ทัน
          ปัจจุบัน นายพิชญ์ ถือหุ้นจัสมินฯ 60.49%จากเดิม 29.42% ขณะที่วอร์แรนท์ถือสัดส่วน 22.33% จากเดิม 12.06%
          โบรกคาด2ทางเลือกแจส"ขายหุ้นต่อ-สวอปหุ้น"
          บล.เอเชียพลัส ประเมินว่าหุ้นจัสมินที่ พิชญ์ทำเทนเดอร์รอบนี้ น่าจะมีแนวทาง 2 รูปแบบ คือรูปแบบแรกไปขายกิจการให้กับผู้ประกอบการ ในธุรกิจมือถือ ซึ่งหากพิจารณาถึงความจำเป็นทางธุรกิจที่ต้องการจัสมิน เชื่อว่า บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น มีความจำเป็นน้อยกว่า บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส หรือเอไอเอส และบริษัทโทเทิ่ล แอสเซท คอมมิวนิเคชั่น หรือดีแทค เพราะมีฐานธุรกิจดังกล่าวอยู่แล้ว การซื้อธุรกิจจัสมินมา อาจเป็นการลงทุนซ้ำซ้อน ขณะที่ฐานะการเงินปัจจุบันไม่ได้มีความพร้อม
          ทั้งนี้ แอดวานซ์เป็นบริษัทมีความพร้อมใน ด้านฐานะการเงินและมีความสามารถพอที่จะก่อหนี้ เพราะมีอีบิทด้าปีนี้อยู่ประมาณ 6.3 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะเติบโตเพิ่มขึ้น
          ส่วนดีแทคก็ยังมีโอกาส นายพิชญ์ เลือกที่จะควบรวมกับค่ายมือถือ ทั้งนี้ ดีแทคน่าจะเป็นผู้ที่ต้องการจัสมิน มากสุด เพื่อโอกาสอยู่รอดในธุรกิจสื่อสารที่มากขึ้น แต่ด้วยข้อจำกัดทางฐานะการเงินปัจจุบันที่อ่อนแอขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับ ยังต้องกันเงินทุนบางส่วนไว้ประมูลคลื่นส่วนใหญ่ของตนเอง ที่จะหมดอายุสัญญาสัมปทานในปี 2561 และ กสทช. จะนำกลับมาเปิดประมูลใหม่เช่นเดียวกับคลื่นอื่นๆ ที่หมดอายุ ไปก่อนหน้านี้
          ดังนั้น หาก ดีแทค ต้องการได้ธุรกิจอินเทอร์เน็ต จัสมินมาเติมเต็มธุรกิจของตนเอง การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจด้วยการควบรวมกิจการกับจัสมินน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสุด เพราะไม่ต้องใช้เงินทุนก้อนใหญ่ โดยอาจเป็นเพียงการสวอปหุ้นกับผู้ถือหุ้นใหญ่ของจัสมิน
          บล.ทิสโก้ ระบุว่า แนวโน้มของธุรกิจหลังการซื้อหุ้นคืนเต็มไปด้วยการแข่งขันและต้นทุนที่เพิ่มขึ้น สำหรับผู้ถือหุ้นรายย่อย มองว่าการขายหุ้นเป็นตัวเลือกที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม การที่ไม่นำจัสมินออกจากตลาด ทำให้ สามารถนำหุ้นไปขายให้กับกลุ่มที่ 3 ได้ แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร
          ตลาดแขวนจัสมินเทเลคอมไม่ชี้แจงข้อมูล
          ด้านตลาดหลักทรัพย์ได้ขึ้นเครื่องหมายหยุดพักการซื้อขายหุ้น (SP) บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ (JTS) ตั้งแต่รอบบ่ายวานนี้ (20 ก.ย.) เนื่องจากรอบริษัทเปิดเผยสารสนเทศสำคัญ หลังช่วงเช้าขึ้นเครื่องหมายเอชไปแล้วและบริษัทยังไม่สามารถชี้แจงข้อมูลได้
          นายปลื้มใจ สินอากร กรรมการ บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ กล่าวว่า บริษัทได้ขอหยุดพักการซื้อขาย เนื่องจากนายพิชญ์โพธารามิก (ผู้ทำคำเสนอซื้อ) ได้เข้าซื้อหุ้นบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล  และได้หุ้นเกินกว่า 50% ซึ่งถือว่าเป็นการได้มาซึ่งอำนาจควบคุมของบริษัท จัสมิน เทเลคอม ทางอ้อม
          นายเจนวิทย์ ชินกุลกิจนิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)กล่าวว่า ภาพของการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอ้างอิงอนุพันธ์ของจัสมิน ได้รับความนิยมมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน มีมูลค่า การซื้อขายคิด
          เครดิตสวิสแนะขายเทนเดอร์
          บล.เครดิต สวิส ระบุว่า ฝ่ายวิจัยได้ประเมินเป้าหมายของจัสมิน อยู่ที่ 6.80 บาท ขณะที่ราคาเสนอซื้อของนายพิชญ์ อยู่ที่ 7.25 บาท ต่อหุ้น จึงมองว่าเป็นการเสนอซื้อหุ้นที่ลักษณะที่เป็นธรรม และแนะนำให้นักลงทุนทำเทนเดอร์ ซึ่งจะทำให้นายพิชญ์ มีอำนาจควบคุมการบริหารองค์กรสูงสุด
          อย่างไรก็ตาม ยังคงประเมินว่า บริษัทมีประเด็นที่ต้องจับตาทั้งเรื่องของธรรมาภิบาล และการบริหารงานภายในปีที่แล้ว โดยเฉพาะยังมีคดีความเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้จากปี 2546 และเรื่องการไม่จ่ายเงินจากการประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์
          ทั้งนี้ มองว่าการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ควรจะดำเนินการต่อ เพื่อให้บริษัทแปลงสภาพ เนื่องจากเป็นหนทางเดียวที่จะลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างรวดเร็วในธุรกิจ บรอดแบรนด์ในเอเชีย ซึ่งผู้ประกอบการในภูมิภาคนี้ส่วนใหญ่ก็จะมีธุรกิจมือถือเพิ่มเติม อยู่แล้วโดยหุ้นที่ได้คืนมาอาจจะใช้ไปลงทุนในธุรกิจสายอินเทอร์เน็ต