JAS หุ้นซ่อนมูลค่าเร้าใจจ่อลดทุนส่งกำไรพุ่งสูง 

Published on 2016-06-15   By ทันหุ้น

ทันหุ้น - JAS ส่องมูลค่าหุ้นน่าดึงดูดใจหลังการซื้อหุ้นคืนผ่านฉลุย 1,200 ล้านหุ้นแถมประกาศชัดเจนจะไม่นำหุ้นไปขายคืนตลาดในเดือนธันวาคมนี้แน่นอน แต่จะทำการลดทุนแทน ดันกำไรสุทธิต่อหุ้น และเงินปันผลต่อหุ้น ในปี 2559-2561 พุ่ง กูรูเคาะเป้า 5.80 บาท

          นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัทได้ซื้อหุ้นคืนจำนวน 1,200 ล้านหุ้น ที่ราคา 5 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงิน 6 พันล้านบาท และมีกำหนดการขายหุ้นคืนในวันที่ 14-16 ธันวาคม 2559 โดยการซื้อหุ้นคืนครั้งนี้มีจำนวนหุ้นที่ถูกนำเสนอซื้อคืนทั้งหมด 1,800 ล้านหุ้น แต่ JAS รับซื้อคืนได้เพียง 1,200 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 66.5% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายคืนทั้งหมด

          การซื้อหุ้นคืน 100% เป็นเงิน 6 พันล้านบาทนั้น คาดว่า JAS จะไม่นำหุ้นไปขายคืนในตลาดในเดือนธันวาคม แต่จะทำการลดทุนเหมือนกับการซื้อหุ้นคืน 5 ครั้งในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้จำนวนหุ้นจดทะเบียนลดลง 17% เป็นจำนวน 5,934 ล้านหุ้น และทำให้กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) และเงินปันผลต่อหุ้น (DPS) ในปี 2559-2561 เพิ่มขึ้นจากกรณีที่ไม่มีการซื้อหุ้นเพิ่มทุน ประมาณ 17-19% และ 11-18% ตามลำดับ

          นอกจากนี้ กรณีที่มีผู้ถือหุ้นที่ไม่นำหุ้นกว่า 5,000 ล้านหุ้นมาใช้สิทธิ น่าจะสะท้อนว่าผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่คาดว่าราคาหุ้น JAS นั้นมีมูลค่ามากกว่า 5 บาท ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้น JAS พร้อมให้ราคาเป้าหมายที่ 5.80 บาทสำหรับ JAS ด้วยราคาเป้าหมายที่ 5.80 บาท โดยราคา JAS ได้เพิ่มขึ้นมา 46.5% จาก 3.14 บาท ในวันที่ประกาศการซื้อหุ้นคืน มาอยู่ที่ 4.60 บาท เมื่อวานศุกร์ที่ 10 มิถุนายน 2559

          จ่ายค่าปรับ 200 ล้านบาท

          นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า กรณีบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด หรือ JASMBB ในฐานะบริษัทลูกของบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติให้ JASMBB ชำระค่าใช้จ่ายในการประมูลใหม่และอื่นๆ เป็นเงินทั้งสิ้น 199.42 ล้านบาท โดย JASMBB ได้รับหนังสือจาก กสทช. เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา และมีกำหนดชำระภายใน 15 วัน

          ดังนั้นทาง JAS จะบันทึกค่าปรับส่วนเพิ่มจำนวน 199.42 ล้านบาท เข้าเป็นค่าใช้จ่ายในงวดไตรมาส 2/2559 และมีผลกระทบต่อประมาณการกำไรปกติปี 2559 ประมาณ 6% ส่งผลให้กำไรปกติเหลือ 2,561 ล้านบาท จากเดิม 2,725 ล้านบาท เท่ากับคิดเป็นผลกระทบต่อกำไรต่อหุ้น (EPS) ลดลง 0.02 บาทต่อหุ้น

          นอกจากนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ยังมีมุมมอง Neutral ต่อข่าวดังกล่าว เนื่องจากการยอมชำระค่าเสียหายเพิ่มอีก 199.42 ล้านบาท นับเป็นการยุติข้อพิพาทระหว่าง กสทช. กับ JAS

          อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์ได้ประเมินราคาเป้าหมายใหม่ของ JAS อยู่ที่ระดับ 5.70 บาท จากเดิม 5.60 บาท หลังรวมผลจากการซื้อหุ้นคืนเต็ม จำนวน 1,200 ล้านหุ้น (16.82% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด) โดยหักเงินที่ซื้อคืนไม่เกิน 6,000 ล้านบาท และค่าปรับส่วนเพิ่ม 199.42 ล้านบาท พร้อมกับคงคำแนะนำ "ซื้อ"