JASขึ้นผู้นำบรอดแบนด์ ตั้งเป้าลูกค้า3.3ล้านราย ซื้อหุ้นคืน 5 บาท ผ่านฉลุย "พิชญ์" ยันไม่ขายหุ้น! 

 ตั้งเป้าลูกค้า3.3ล้านราย

          :ซื้อหุ้นคืน 5 บาทผ่านฉลุย-“พิชญ์” ยันไม่ขายหุ้น.!

          JAS ปักธงขึ้นผู้นำ “ธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต”ประกาศชัดปีหน้าขยายฐานลูกค้าเพิ่มเป็น 3.3 ล้านราย ผลักดันรายได้ทะลุ 21,674 ล้านบาท เน้นเจาะฐานลูกค้าต่างจังหวัด ฟากผู้ถือหุ้นไฟเขียวซื้อหุ้นคืน 16.82% ราคาหุ้นละ 5 บาท “พิชญ์” ประกาศชัด “ไม่ขายหุ้น” ออกมา เชื่อหลังซื้อหุ้นคืนจะนำไปลดทุนจดทะเบียน ส่งผลกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นเกือบ 20%

          นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารุกธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตเป็นหลัก มีเป้าหมายขยายฐานลูกค้าเพิ่มเป็น 3.3 ล้านรายในปี 2560 เติบโตต่อเนื่อง จากสิ้นปีนี้ตั้งเป้าขยายลูกค้าเพิ่มเป็น 2.5 ล้านราย จากปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ราว 2 ล้านราย และปีนี้จะมีรายได้จากบริการดังกล่าวประมาณ 18,121 ล้านบาท ก่อนจะเพิ่มเป็น 21,674 ล้านบาท ในปี 2560 โดยมองแนวโน้มการเติบโตของบริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตของไทย มีช่องว่างให้ขยายตัวอีกมาก

          สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงาน บริษัทมีแผนลงทุนขยายโครงข่ายบรอดแบรนด์อินเทอร์เน็ต วางงบลงทุนประมาณ 6,000 ล้านบาท ตั้งเป้าขยายพื้นที่ให้บริการครอบคลุมเพิ่มเป็น 7,400 ตำบลทั่วประเทศภายในปีนี้ จากปัจจุบัน 5,900 ตำบล เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงการใช้งานได้ บริษัทจะขยายลงไปให้ทั่วถึงทุกหมู่บ้านเพื่อทำให้เกิดการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อรายได้ที่เกิดจากการขายและบริการบรอดแบรนด์อินเทอร์เน็ตเติบโตมากขึ้น

          นอกจากนี้ช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา บริษัทได้ออกแคมเปญบรอดแบรนด์ เพื่อดึงดูดการใช้งานของลูกค้า โดยแคมเปญดังกล่าวได้มีการเพิ่มความเร็วของการใช้งานให้แก่ลูกค้าและมีราคาแพ็กเกจถูกที่สุดเมื่อเทียบคู่แข่ง หลังจากออกแคมเปญได้รับการตอบรับที่ดี และมีลูกค้าเพิ่มขึ้นราว 100,000 รายต่อไตรมาส เชื่อว่าจะสามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมได้

          “จากนี้เราเน้นเรื่องของบรอดแบรนด์เป็นหลัก โดยเฉพาะการให้บริการ FTTx และ WIFI ที่จะเป็นจุดสำคัญของการขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้น เห็นได้ว่ายุคปัจจุบันมีความต้องการใช้งานเพิ่มมากขึ้น และมีการออกแคมเปญเพิ่มความเร็วในการใช้งานเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อรายได้บริษัทปีนี้และอนาคต บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการขายและบริการบรอดแบรนด์มากกว่า 90%”

          นายพิชญ์ กล่าวต่อว่า การประชุมผู้ถือหุ้น JAS ได้มีการอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงินจำนวน 1,200 ล้านหุ้น จากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไปราคา 5.00 บาท/หุ้น โดยบริษัทเตรียมวงเงินไว้ 6,000 ล้านบาท และมีการดำเนินการซื้อหุ้นคืนวันที่ 1-10 มิ.ย. 59 จะมีการแจ้งรายละเอียดให้ผู้ถือหุ้นทราบเดือนพ.ค. 59

          ขณะที่ผู้ถือหุ้น JAS ทั้งหมดที่เข้าร่วมประชุมวันนี้ได้ลงคะแนนเสียงให้กำหนดวาระให้ผู้บริหารชี้แจงกรณีที่ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ ไม่ชำระเงินและทิ้งใบอนุญาตคลื่น 9800 MHZ โดยนายพิชญ์ เป็นผู้ชี้แจงต่อผู้ถือหุ้นว่า เหตุผลที่ไม่รับใบอนุญาตดังกล่าว เนื่องจากมีเงื่อนไขในส่วนของแบงก์การันตีที่ได้ขอไว้กับธนาคารกรุงเทพนั้น ธนาคารได้ให้นายพิชญ์และครอบครัวเป็นผู้ค้ำประกันส่วนตัว ตนเองได้ปฏิเสธรับข้อเสนอดังกล่าว

          สำหรับพันธมิตรจากจีนที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุนติดข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาในการขออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องของจีน ทำให้ไม่ทันระยะเวลาตามกำหนด 90 วัน ตามที่ระบุในประกาศของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกสทช.ไม่ผ่อนผันเรื่องระยะเวลาให้บริษัท ทำให้ไม่สามารถนำหนังสือค้ำประกัน 72,000 ล้านบาทมามอบให้ได้ทัน

          โดยนายพิชญ์ ยืนยันว่า การไม่ได้รับใบอนุญาตดังกล่าว ไม่เกิดผลกระทบและหากสามารถนำหนังสือไปมอบให้กับ กสทช.ได้ บริษัทมีความพร้อมการดำเนินการ เพราะได้วางแผนงานไว้แล้ว และการชดใช้ความเสียหายจากกรณีดังกล่าวจะไม่สร้างผลกระทบให้บริษัทมากนัก เนื่องจากบริษัทมีกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่บันทึกเป็นกำไรพิเศษเป็นจำนวนมาก ส่วนมูลค่าความเสียหายเชื่อว่ามีเพียงการยึดเงินค้ำประกันการเข้าประมูลวงเงิน 644 ล้านบาทเท่านั้น

          นายชาญ บูลกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป ที่ปรึกษาทางการเงิน JAS ระบุว่า การที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติซื้อหุ้น 1,200 ล้านบาท หรือ 16.82% จะมีการตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นราคา 5 บาท โดยนายพิชญ์ โพธารามิก ประกาศชัดเจนว่าจะไม่ขายออกมา จากนั้นจะลดทุนจดทะเบียนเหมือนทุกครั้งที่มีการซื้อหุ้นคืน ส่งผลให้กำไรสุทธิต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 20%