''หุ้นจัสมิน''เทรดสนั่นแสนล้าน ไตรมาสแรกเปลี่ยนมือ4เท่าตัว 

Published on 2016-04-04   By กรุงเทพธุรกิจ

 หุ้นจัสมินร้อนแรงจากกระแส 4 จี ไตรมาสแรกซื้อขายเปลี่ยนมือสูงสุดในตลาดหุ้นไทย 3.45 หมื่นล้านหุ้น คิดเป็น 484% มูลค่าการซื้อขายรวม 1.1 แสนล้านบาท ขณะโบรกเกอร์คาดกลุ่มรายใหญ่รับกำไรส่วนต่างราคาหุ้น แนะเลี่ยงลงทุน เหตุปัจจัยเสี่ยงเรื่องฟ้องร้องกระทบอีกยาว

          ไตรมาสแรกของปี 2559 บรรยากาศการซื้อขายตลาดหุ้นไทยคึกคัก ดัชนียืนเหนือระดับ 1,400 จุด เงินทุนต่างชาติที่ไหลทะลักต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าเงินไหลเข้าเกือบ 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่หุ้นจัสมินอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) JAS กลายเป็นหุ้นที่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือสูงสุดในตลาดหุ้นไทย เพราะได้อานิสงส์จากบริษัทย่อยชนะประมูลใบอนุญาต 4 จี คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ แม้ท้ายสุดยอมทิ้งใบอนุญาต เนื่องจากไม่สามารถนำเงินมาชำระค่าใบอนุญาตได้ตามกำหนด

          ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้หุ้นจัสมิน เป็นหุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายเปลี่ยนมือมากที่สุด 34,579.41 ล้านหุ้น มีมูลค่าการซื้อขายรวม 1.11 แสนล้านบาท โดยเฉลี่ยต่อวัน มีปริมาณการซื้อขายหมุนเวียน 548.87 ล้านหุ้น มูลค่าการซื้อขายต่อวัน 1.76 พันล้านบาท

          ทั้งนี้ หากเทียบกับหุ้นจัสมินที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 7.13 พันล้านหุ้น อัตราการหมุนเวียนสูงถึง 484% หรือ 4.8 เท่าตัว

          สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้นจัสมิน ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ราคาหุ้นปรับตัว เพิ่มขึ้นจากราคา 3.24 บาทเพิ่มขึ้นไปถึง 3.48 บาท เพิ่มขึ้น 0.24 บาท คิดเป็น 7.41% ขณะที่ ราคาต่ำสุด 2.70 บาท ล่าสุด 1 เม.ย.2559 ราคาหุ้นปิดตลาดที่ 3.42 บาท เช่นเดียวกันการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิ์ที่จะซื้อหุ้นสามัญจัสมินชุดที่ 3 (JAS-W3) จะพบว่า ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ วอแรนท์ จัสมิน มีปริมาณหุ้นที่หมุนเวียนรวม 10,948.86 ล้านหน่วย มูลค่าการซื้อขายรวม 6,527.78 ล้านบาท หากเทียบกับจำนวนวอแรนท์ที่ จดทะเบียนอยู่ที่ 3,289.59 ล้านหน่วย คิดเป็น 332.80% ขณะที่ปริมาณการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ 173.79 ล้านหน่วย มูลค่า 103.62 ล้านบาท ต่อวัน ขณะที่ราคาวอแรนท์จาก 0.53 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 0.64 บาท คิดเป็น 20.75% และถ้าดูการซื้อขายเป็นรายวันจะพบว่า ภายในวันเดียว ราคาของวอแรนท์เคยปรับตัว เพิ่มขึ้นมากสุด 40% ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันที่มติบอร์ดซื้อหุ้นคืน

          ไตรมาส4ปี58แชมป์เก็งกำไร

          หากพิจารณาย้อนหลังไปไตรมาส 4 ปี 2558 หุ้นจัสมินยังคงเป็นแชมป์ที่มีอัตราการหมุนเวียนสูงสุดเช่นกัน โดยมีปริมาณรวม 28,513.58 ล้านหุ้น มูลค่าการซื้อขาย รวม 1.40 แสนล้านบาท หากเทียบกับจำนวน หุ้นที่จดทะเบียน 7,133 ล้านหุ้นคิดเป็น 399.74% ขณะที่อัตราเฉลี่ยต่อวัน มีจำนวนหุ้น 459.89 ล้านหุ้น มูลค่าซื้อขายต่อวัน 2.27 พันล้านบาท ส่วนราคาหุ้นจาก 5.60 บาท ลดลงเหลือ 3.24 บาท คิดเป็น 42.14% ราคาหุ้นสูงสุดที่ 6.10 บาท และ ต่ำสุดอยู่ที่ 3.04 บาท ข้อมูลซื้อขายหุ้นจัสมิน แบบรายวัน

          ช่วงไตรมาสแรกปีนี้ พบว่า ราคาหุ้นจัสมิน ปรับขึ้นลงแรง และปริมาณหุ้นที่ซื้อขายต่อวันสูงระดับ 1 พันล้านหุ้น เกินกว่า 10% จำนวนหุ้นที่จดทะเบียน รวมถึงมูลค่าการซื้อขาย ต่อวันระดับ 3-8 พันล้านบาท

          โบรกเกอร์ กล่าวว่า การซื้อขายในระดับดังกล่าวน่าจะเป็นการทำรายการของคนที่มีหุ้นอยู่ในมือจำนวนมาก เพราะจะสังเกตเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงของราคาในแต่ละวันไม่สูง หรือสูงสุดไม่เกิน 20% ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 มี.ค.2559 เป็นวันที่จัสมินแจ้งมติบอร์ด รับซื้อหุ้นคืนนอกตลาด 20% ในราคาประมาณ 5 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาหุ้นที่ซื้อขายกันอยู่ที่ 50%

          โบรกคาดรายใหญ่รับกำไรส่วนต่าง

          แหล่งข่าวโบรกเกอร์ กล่าวว่า การที่หุ้นจัสมินมีการซื้อขายเปลี่ยนมือคึกคัก และมองว่าแรงเก็งกำไรน่าจะเกิดจากผู้ลงทุนรายใหญ่ หรือผู้ถือหุ้นที่มีจำนวนการถือครองหุ้นจำนวน มากๆ สามารถหาจังหวะทำกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นได้ ไม่ว่าราคาหุ้นจะอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลง  อย่างไรก็ตามบริษัทแนะนำให้เลี่ยงการลงทุนหุ้นจัสมินเนื่องจากปัจจัยเสี่ยงเรื่องการฟ้องร้องเป็นคดีความระหว่างรัฐกับบริษัท น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต "การซื้อขายหุ้นจัสมินมีเก็งกำไรสูง แต่จะเข้าข่ายปั่นหุ้นหรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับตลาดหลักทรัพย์ตรวจสอบมีหลักฐานหรือไม่ แต่เชื่อว่าการทำรายการซื้อขายผู้ที่ได้รับ ประโยชน์มากสุดน่าจะเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่มีหุ้นอยู่ในมือจำนวนมากๆ และอาศัยกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้น มีการส่งคำสั่งซื้อขายบ่อยๆมากกว่า"

          สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท จัสมิน ณ เดือน พ.ย. 2558 พบว่า "พิชญ์ โพธารามิก" มีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งมี หุ้นที่ถือครองอยู่ในมือสูงถึง 1.84 พันล้านหุ้น คิดเป็น 25.85% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และมีนอมินีต่างชาติที่ถือเกินระดับ 50-100 ล้านหุ้น

          นักลงทุนคาดรับกำไรเกิน5พันล้าน

          นักลงทุนอิสระตั้งข้อสังเกตการได้รับประโยชน์จากส่วนต่างกำไรราคาหุ้นจัสมิน วอแรนท์ ได้อย่างน่าสนใจ โดยโพสต์ ผ่านเฟซบุ๊คสรุปประเด็นสำคัญ ประกอบ ด้วยการติดตามการซื้อขายหุ้นจัสมิน เพื่อหาเบาะแส โดยดูจากมูลค่าการซื้อขาย ย้อนหลังก่อนเปิดประมูล 4จี มูลค่าการ ซื้อขายเพิ่มขึ้นมาระดับ 3,000 ล้านบาทขึ้น เป็นอันดับหนึ่ง และขึ้นเร็วลงเร็ว มีช่องว่างทำกำไรในแต่ละวัน ทั้งบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเพิ่มจากเงินปันผลปกติ 0.10บาท ช่วงระดับราคาซื้อขายในแต่ละวันตอนเวลา 16.30 น.ก่อนที่ตลาดจะปิดซื้อขาย โดยปกติการสั่งซื้อจะมีช่วงห่างราคาไม่เกิด 1-2 ขั้น แต่หุ้นจัสมินมีช่วงห่างถึง 5-8 ขั้น ซึ่งการซื้อขายลักษณะนี้ต้องใช้เงินใน 200-300 ล้านบาท

          ตลอดช่วงเวลาก่อนผลประมูลสรุปมีข่าวลือหลายเรื่องส่งผลให้ราคาหุ้นจัสมิน จาก 6 บาทเหลือ 2.80 บาท ในเวลา 2 เดือนหากคำนวณหุ้นที่ซื้อขายในตลาด 7.13 พันล้านหุ้นมูลค่าตลาดลดลงจาก 4.27 หมื่นล้านบาทเหลือ 1.99 หมื่นล้านบาท ขณะที่วอร์แรนท์ที่ลดลงจาก 1.30 บาทเหลือ 0.38 บาท

          รวมทั้งระหว่างราคาหุ้นที่ 3 บาท บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลอีก 0.30 บาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 10% จากนั้นก็มีการประกาศแผนซื้อหุ้นคืนวงเงิน 6 พันล้านบาท ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า ในภาวะที่บริษัท ต้องลงทุน แทนที่จะกันเงินเอาไว้กลับทำ ตรงข้ามด้วยการระดมเงินออกจากบริษัท และในที่สุดก็ได้รับคำตอบเมื่อบริษัทไม่ชำระ ค่าไลเซ่นส์ได้ตามกำหนด และบริษัทยืนยันว่าไม่ต้องรับภาระใดๆนอกจากถูกริบเงินมัดจำ 644 ล้านบาท

          การที่ราคาหุ้นจัสมินจาก 6 บาท ลดลง มา 3 บาท และมีโอกาสที่จะขยับขึ้นไปที่ 6 บาทอีกครั้ง ดังนั้นเมื่อพิจารณาผลตอบแทนที่จะได้รับหากมีการชอร์ตหุ้นและวอร์แรนท์ คือการเทขายหุ้นออกมาแล้วซื้อคืนในราคา ที่ต่ำ เพียงสัดส่วน 20% ของจำนวนหุ้น จะสามารถทำกำไรได้ถึง 4,279 ล้านบาท และในอีก 50% ของวอร์แรนท์สามารถทำกำไรได้ 1,600 ล้านบาท รวมโอกาสทำกำไรสูง 5.8 พันล้านบาท ซึ่งยังไม่นับรวมเงินปันผลและการซื้อหุ้นคืน

          ราคาหุ้น JAS ปิดตลาด เมื่อวันศุกร์ที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ลดลง 0.06 บาท หรือ 1.72%  อยู่ที่ 3.42 บาท มูลค่าซื้อขาย 300.8 ล้านบาท